ตอนที่ 13 เริ่มเคยชิน

1721 คำ
“คุณเรย์” “คุณมุก มาทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ” “คุณนี่นะ ไม่โทรมาบอกมุกก่อนล่ะคะว่าจะมา” “ประชุมเสร็จก็มาเลยครับ ผมประชุมเกือบครึ่งวัน” “วันนี้ช่วงบ่ายมุกก็มีงานค่ะ หลังเลิกร้านมีปนะชุมพนักงานด้วย” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมรอ ผมสั่งอาหารให้แล้ว” หญิงสาวแอบส่งค้อนให้เขาก่อนจะขยับตัวเข้าไปด้านใน ร่างบอบบางหย่อนตัวนั่งลง เธอเองก็แอบล้าไม่น้อย เมื่อวันนี้ต้องจัดการกับเอกสารต่างๆตั้งแต่เช้า รวมทั้งงบประมาณละค่าใช้จ่ายต่างๆด้วย สายตาจึงล้าพอสมควร “คุณดูเหนื่อยจัง” เอลเลริคถามพลางหรี่ตา เมื่อวันนี้เขารู้สึกว่าหญิงสาวดูไม่ค่อยสดใส “ล้าสายตานิดหน่อยค่ะ” ใบหน้าหวานขยับอย่างยอมรับในสิ่งที่เขาพูด “พักหน่อยไหมล่ะ ช่วงเที่ยงพักสายตาสัก 15-20 นาที ทำให้สมองโปร่งขึ้นนะ” “ว่าจะนะคะ วันนี้วันทำงบด้วยค่ะ เลยค่อนข้างล้า” “งั้นรีบทานข้าว จะได้เข้าไปพัก” “ค่ะ” อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ พนักงานมองเจ้านายสาวด้วยสายตาแปลกใจ ที่เธอออกมานั่งกับลูกค้าหนุ่มหล่อคนนี้ ที่ผ่านมา แม้แต่กับอีธานที่เทียวมาจีบฟาริดาบ่อยๆ เธอยังทำแค่แวะมาคุยด้วยแล้วกลับเข้าห้องทำงานไป บรรดาพนักงานที่นี่จะรู้กันดีว่าฟาริดาไม่เคยออกมานั่งทานอาหารหรือนั่งกับใครข้างนอกห้องทำงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว สองหนุ่มสาวนั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกันท่ามกลางสายตาของพนักงานที่มองมา ฟาริดาทานได้ไม่เยอะเพราะความเหนื่อย เอลเลริคแทบไม่ชวนหญิงสาวคุยเลยเมื่อเห็นอาการของเธอ รอจนหญิงสาวทานเสร็จก็เรียกพนักงานมาเก็บและเช็กบิล “เข้าไปนั่งเล่นในห้องทำงานมุกไหมคะ” “หืม.....” “ก็คุณตั้งใจมาหามุกไม่ใช่เหรอคะ” “ก็ใช่ ไปพักเถอะ” “ค่ะ” ร่างสูงเดินตามเจ้าของร้านสาวเข้าห้องทำงาน เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปเขาก็ต้องแปลกใจ แต่เดิมเขาเข้าใจว่าที่นี่เป็นคล้ายๆห้องสำหรับที่ฟาริดาจะใช้ติดต่อกับพนักงานหรืออะไรทำนองนั้น แต่มันไม่ใช่เลย มันคือห้องทำงานที่เป็นห้องทำงานจริงๆ มีโต๊ะทำงาน มีชุดโซฟารับแขก มีมุมเอกสาร ไม่ต่างกับห้องทำงานของเขาเลย “ตามสบายนะคะ มุกขอพักก่อน ไม่ไหวแล้วค่ะ ถ้ามีพนักงานมาแจ้งมีปัญหาอะไร ฝากเคลียร์ด้วยนะคะ แล้วก็หลังพนักงานคิดเงินเสร็จ จะนำเงินกับบิลมาให้ค่ะ” ฟาริดาบอกเขาเสียงเนือยพลางล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว ไม่ถึงนาทีเธอก็หลับไป เอลเลริคมองหญิงสาวแล้วก็แอบถอนหายใจเบาๆ ฟาริดาทำงานเกินตัวถึงได้เหนื่อย แต่เขาก็เข้าใจ เพราะตัวเขาเองก็ต้องเป็นหัวเรือใหญ่คนเดียวเช่นกัน “คุณมุก อ้าว เอ่อ.....” พนักงานเปิดประตูเข้ามา ตั้งใจมาส่งยอดเงินกับบิล แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นเอลเลริคนั่งอยู่ และฟาริดากำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา “ว่าไง” “เอ่อ มาส่งยอดค่ะ” “มาสิ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะทำงานของหญิงสาว ขยับเก้าอี้แล้วนั่งลง เขารับยอดเงินกับบิลที่พนักงานส่งมาให้ ก่อนที่พนักงานจะเดินออกไปด้วยท่าทางเหวอๆ เมื่อรับเงินกับบิลมาแล้ว เขาก็วางแยกเอาไว้ เพื่อรอให้ฟาริดาตื่นมาเช็กยอดเองอีกที ระหว่างที่รอเธอตื่นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กงานจากอีริคไปด้วยเพื่อฆ่าเวลา หลังจากที่ได้พักสายตา หญิงสาวก็ตื่นมาด้วยท่าทางที่ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ ดวงตาเธอสดใสขึ้น แต่ก็ยังดูเหนื่อยล้าอยู่ดี “ขอบคุณค่ะ” “คุณทำงานก่อนเถอะ” “ค่ะ” หญิงสาวบิดกายไปมาคลายความเมื่อย ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่ต๊ะทำงาน ส่วนเอลเลริคลุกขึ้นแล้วก็เดินกลับมานั่งที่โซฟา ท่อนขาแข็งแรงยกขึ้นไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ “ไม่คิดจะวางมาดหน่อยเหรอคะ” “ไม่ล่ะ ผมเคยชินกับคุณแล้ว” “.....” ใบหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อย เธอแอบสะกิดในใจ แต่ก็ไม่อยากคิดอะไรเข้าข้างตัวเอง จึงหันหน้ามาสนใจงานของเธอต่อเพื่อเป็นการตัดบทการสนทนา “คุณมุกคะ คุณอีธานมาหาค่ะ” “.....ค่ะ” พนักงานเปิดประตูเข้ามาแจ้งเจ้านายสาว ก่อนจะรีบออกไปหลังจากเธอตอบรับ ในขณะที่ฟาริดาถึงกับหน้าเจื่อน นี่เธอจะพักจากเรื่องรักๆใคร่ๆสักวันไม่ได้เลยหรือ “ผมออกไปเจอให้ไหม” “คุณไม่กลัวคุณอีธานเข้าใจผิดเหรอคะ” “เรื่องอะไรล่ะ” “ไม่รู้สิคะ” “อย่าคิดมาก เดี๋ยวผมมา” “ค่ะ” ฟาริดาพยักหน้าก่อนจะพยายามตั้งสมาธิทำงานต่อ เอลเลริคเปิดประตูห้องแล้วก้าวยาวๆเดินออกไปเพื่อไปหาอีธาน ที่โต๊ะ อีธานแวะมาหาฟาริดา เขาตั้งใจว่าจะมาเห็นหน้าให้หายคิดถึง เขามีบินไปทำงานเกือบเดือน จึงตั้งใจมาหาหญิงสาวก่อน “ไง” เอลเลริคส่งเสียงทักเพื่อนสนิทก่อนที่จะหย่อนตัวนั่งลงตรงข้าม “อ้าว มึงมาได้ไง คุณมุกล่ะ” อีธานมองเพื่อนด้วยสายตาแปลกใจ “กูมากินข้าว แล้วเข้าไปคุยกับคุณมุกเรื่องที่คุณจะไปลงสาขาที่ที่นู่นนั่นแหละ พอจะกลับมึงก็มาพอดี แล้วมึงมาทำไม” เอลเลริคพูดด้วยท่าทางสบายๆ “แวะมาเห็นหน้าหน่อย กูจะไปทำงาน น่าจะเกือบเดือน” ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ไปนานเลยนี่” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย “ใช่ กูฝากคุณมุกด้วยนะ อย่าให้ใครมาจีบล่ะ” อีธานบอกทีเล่นทีจริง “ทำเหมือนกูห้ามได้เลยนะ” “อย่างน้อยมึงก็เป็นไม้กันหมาได้ไง” “ไอ้ห่า” เอลเลริคด่าเพื่อนสนิทเบาๆ เขากับอีธานพูดคุยกับแบบนี้อยู่แล้ว ด้วยความว่าโตมาด้วยกัน เขาไม่รับปากอีธาน เพราะตอนนี้อะไรบางอย่างมันบอกเขาว่าอย่ารับปาก “เอาน่า ฝากดูๆด้วยละกัน” “กูไม่รับปากนะ” “เออ กูไปละ มีไปพบลูกค้าก่อนบินอีก” “เออ” อีธานเดินออกไปพลางโบกมือให้เอลเลริค ดวงตาคมมองตามแผ่นหลังของเพื่อนสนิทไป หลายอย่างในตัวเขาที่เขารู้ดีว่ามันเปลี่ยนไป และตัวเขาเองก็ปฏิบัติกับฟาริดาต่างจากคนอื่น อันนี้เขารู้ตัวดี เอลเลริคไม่เคยมาตามใคร ไม่เคยเป็นฝ่ายเข้าหาใครก่อน แม้แต่คำว่าเพื่อนก็ตาม แล้วนี่เขาเองเป็นฝ่ายคอยตาม คอยแวะเวียนไปหาฟาริดา ทั้งเรื่องงานที่อยู่ๆก็ไปขอให้เธอช่วย หรือแม้แต่เวลาส่วนตัวก็ยังคอยแวะเวียนไปหาเธอบ่อยๆ ทั้งที่ตัวเขาเองไม่เคยเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ ถึงจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของฟาริดา พนักงานที่เห็นเขาเข้าออกห้องเจ้านายสาวเมื่อสักครู่ตอนนี้เริ่มรับรู้ว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น จึงไม่ซักถามอะไรแล้วปล่อยให้เขาเดินเข้าห้องทำงานของเจ้านายสาวไปอย่างง่ายดาย ทางด้านฟาริดา หลังจากที่เอลเลริคเดินออกไป เธอแอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ดูเหมือนว่าเอลเลริคจะรับรู้ว่าเธอไม่ค่อยอยากจะให้อีธานเข้าใกล้เธอสักเท่าไหร่ จึงออกไปรับหน้าเขาแทนเธอ นั่งทำงานอยู่สักพัก ร่างสูงก็กลับเข้ามาในห้อง หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร เธอนั่งทำงานต่อ ในขณะที่เอลเลริคเองก็ทำแค่เดินไปนั่งบนโซฟาแล้วยกขาขั้นมาไขว่ห้าง แล้วหยิบโทรศํพท์ขึ้นมากดดูนั่นดูนี่เหมือนเดิมเท่านั้น ผ่านไปหลายชั่วโมง หลังจากที่ฟาริดาทำงานเสร็จ เธอก็เหยียดแขนบิดกายคลายความเมื่อย ก่อนจะลุกขึ้นมาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพิ่มความสดชื่นให้ตนเอง “เสร็จแล้วเหรอ” “ค่ะ พอมีเวลาพักหน่อย ก่อนเริ่มประชุมค่ะ” “อื้ม เสร็จแล้วไปไหนต่อ” “คุณอยากไปไหนล่ะคะ” “กลับบ้าน” “มานั่งเฝ่ามุกเพื่อรอกลับบ้านเนี่ยนะคะ” “ใช่ กลับบ้านคุณ” “.....” ฟาริดาชะงักไป ดวงตาหวานซึ้งมองสบกับดวงตาคมดุตรงๆราวกับต้องการค้นหาความคิดความในใจเขาว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร “ไปดื่มเหรอคะ” “ก็ดีนะ มีเครื่องดื่มเหรอ” “ไม่มีค่ะ ต้องแวะซื้อไป” “งั้นขากลับค่อยแวะซื้อ” “ค่ะ” หญิงสาวนั่งพักผ่อน พูดคุยกับเขาไปเรื่อยๆ จนได้เวลาประชุมพนักงาน จึงออกจากห้องทำงานไป โดยไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เธอเดินออกไปไม่นาน ชายหนุ่มก็เดินตามออกไปแอบดูการทำงานและพูดคุยกับพนักงานของเธอด้วย “กลับเลยไหมคะ” “ครับ” หลังจากประชุมเสร็จ ร่างบอบบางก็เดินตัวปลิวกลับเข้าห้องทำงาน ก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายและเอ่ยชวนเขาตามที่นัดกันเอาไว้ เมื่อสองหนุ่มสาวพากันเดินมาที่รถ ท่ามกลางการทักทายของพนักงาน ในที่สุดก็ถึงรถยนต์คันหรู และทั้งคู่ก็พากันออกเดินทางไป “แวะที่ไหนคะ” “ห้างก็ได้มั้ง มีแผนกเครื่องดื่มนี่ พวกห้างเล็กๆ” “มีค่ะ คนไม่เยอะเท่าห้างใหญ่ด้วย แต่ที่จอดรถจะลำบากนิดหน่อยค่ะ” “ไม่เป็นไร มีเครื่องดื่มให้ซื้อก็พอ” “.....” ฟาริดาพยักหน้า และบอกทางให้เขาว่าต้องไปแวะที่ไหน เมื่อชายหนุ่มลงไปซื้อเครื่องดื่มและปล่อยให้หญิงสาวรออยู่ในรถ เธอจึงใช้เวลาที่ได้อยู่คนเดียวคิดทบทวนการกระทำของเขา ถึงแม้จะเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม