ตอนที่ 17 เริ่มตอนไหน

1684 คำ
1 เดือนผ่านไป ร้านอาหารเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อเอลเลริคช่วยหญิงสาวในการลงข้าวของต่างๆ ไม่ว่าจะโต๊ะเก้าอี้ เคาน์เตอร์ ข้างของต่างๆที่หญิงสาวต้องใช้ หรือแม้แต่ส่วนของห้องทำงานของเธอก็ตาม ทั้งสองหนุ่มสาวเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเอลเลริคมากกว่า ที่ตามให้ฟาริดามาหาบนห้องทำงาน หรือแม้แต่การที่ตัวเขาไปอยู่กับหญิงสาวยามที่เธอกลับไปทำงานที่ร้านอาหารของเธอ ไม่นานผู้คนก็เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ และเริ่มเอาไปซุบซิบนินทา “วันนี้ผมไปประชุมก่อน เดี๋ยวกลับมารับ” “ค่ะ” “เดี๋ยวเจอกันจ้ะ” หญิงสาวยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปบ้านไปหลังจากที่พยักหน้ารับคำที่เขาบอก เธอเดินขึ้นห้องนอนโดยไม่แวะไปที่อื่นของบ้าน วันนี้ฟาริดากับเอลเลริคมีไปงานเลี้ยงด้วยกัน เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยบรรดาคุณหญิงคุณนายที่ต้องการอวดลูกของตัวเอง ร่างบอบบางตรงเขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้เธอกับเอลเลริคนัดใส่เสื้อผ้าคู่กัน แต่เสื้อผ้าของเธอค่อนข้างใส่ยาก และวันนี้เขาบอกว่าต้องการให้เธอดูดีกว่าทุกครั้ง จึงให้เธอกลับมาแต่งตัวก่อน หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวออกมาเป่าผมจนแห้ง เธอถักเปียคาดผมแบบเก็บชายผม แล้วแซมด้วยดอกไม้สีขาว ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง เป็นสีโทนพีช ส่งผลให้ผิวที่ขาวอมชมพูของเธอยิ่งโดดเด่นกว่าเดิม มือเล็กหยิบเอาชุดที่เตรียมไว้ขึ้นมาสวมใส่โดยมีดาหลาช่วยเหลือ เมื่อชุดของเธอเป็นชุดเกาะอกสีขาวไข่มุกพอดีตัวยาวถึงครึ่งต้นขา ช่วงตัวเสื้อมีชีฟองสีชมพูปักลวดลายเอาไว้ ช่วงกระโปรงมีผ้าชีฟองสีชมพูอ่อนยาวกรอมเท้าคลุมเอาไว้ รวมถึงมีผ้าชีฟองที่เย็บกับเกาะอก คล้องอยู่บริเวณต้นแขนทิ้งตัวสวยงาม ชุดแบ่งเป็นหลายชิ้นส่วนที่ต้องใส่ หญิงสาวจึงจำเป็นต้องให้ดาหลาช่วยในการสวมใส่ ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยและพอดีกับที่เอลเลริคมาถึงพอดี “ป้าดา วันนี้มุกสวยไหมคะ” “สวยสิคะ คุณมุก ป้าถามได้ไหมคะ” “ค่ะ” “คุณมุกกับคุณเรย์เป็นอะไรกันเหรอคะ” “ไม่ได้เป็นค่ะ ยังไม่มีสถานะ ยังไม่เคยคุยกันจริงจังด้วยซ้ำค่ะ” “คุยได้แล้วนะคะ ผู้คนเริ่มซุบซิบนินทากันแล้ว อย่าให้คุณแม่ต้องเสียนะคะ” “รับทราบค่ะ มุกไปก่อนนะคะ” “มาค่ะ ป้าช่วย เดินระวังนะคะ” “ขอบคุณค่ะ” ชุดกระโปรงที่ยาวกรอมเท้ามีดาหลาช่วยจับยกขึ้น รวมถึงกระเป๋าสะพายแบรนด์หรูที่เป็นสีขาวเงินที่หญิงสาวเลือกใช้ในวันนี้ที่ดาหลาช่วยเธอถือเพื่อให้เจ้านายสาวเดินลงบันไดได้สะดวก “มาครับ” เอลเลริคที่ยืนรออยู่แล้ว รับประเป๋าและช่วยหญิงสาวจับกระโปรงเอาไว้ต่อจากดาหลา “ขอบคุณค่ะ” ฟาริดากล่าวแล้วยิ้มให้เขา “เดินทางกันดีๆนะคะ” ดาหลาบอกลาเจ้านายด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าเอลเลริคดูแลเจ้านายของเธอดีไม่น้อย ถึงฟาริดาจะเป็นเจ้านาย แต่เธอก็เห็นหญิงสาวมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จึงรักฟาริดาเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง “ครับผม ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” เสียงทุ้มหนักแน่นของเอลเลริคช่วยสร้างความมั่นใจให้ดาหลาไม่น้อย ชายหนุ่มพาฟาริดาขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยเขาก็เคลื่อนรถยนต์คันหรูออกไปโดยมีดาหลายืนส่งอยู่จนรถออกไปลับสายตา “วันนี้คุณสวยมาก” “ขอบคุณค่ะ” “ไม่ชมผมหน่อยเหรอ” “ชมทำไมคะ คุณก็หล่อเหมือนปกติอยู่แล้วนี่คะ” “ไม่มากกว่าปกติเหรอ” “มากกว่าปกตินิดหน่อยก็ได้ค่ะ” “ใจร้ายจัง” หลังจากประชุมเสร็จ เอลเลริคอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บริษัทเลย เขาใส่ชุดสูทสีขาวเพื่อเข้าคู่กันกับฟาริดา ก่อนที่จะออกมารับเธอ “คุณ ผมมีอะไรให้ช่วย” “คะ” “เปิดดูสิ” มือหนาหยิบกล่องเครื่องประดับออกมาจากด้านใยนเสื้อสูทส่งให้คนตัวเล็ก หญิงสาวรับมาเปิดดูก็พบว่าด้านในเป็นสร้อยคอเพชรที่ร้อยเรียงกัน และตรงส่วนจี้เป็นมุกสีขาวเหลื่อมชมพูสวยงาม มันมีทั้งต่างหู และสร้อยข้อมือเข้าชุดกัน “อะไรคะ” “ของคุณ” “ไม่เข้าใจค่ะ” “ก็ของคุณ ผมทำให้คุณ ต้นแบบคือคุณ แต่ชุดนี้.....มีเพียงแค่ชุดเดียว เพราะผมแก้แบบไปนิดหน่อย” “ยังไงคะ” “ตรงส่วนทองคำขาว ทุกชิ้นมีชื่อคุณอยู่ แล้วก็ตรงเพชรที่ร้อยเรียง เป็นเพชรของผมเอง ไม่ใช่ของบริษัท ไข่มุกตรงจี้ก็ด้วย” “อ้าว แล้วแบบของบริษัทล่ะคะ” “ก็แบบนี้แหละ แต่จะเป็นเพชรและไข่มุกในส่วนของบริษัท ไม่ใช่ของส่วนตัวผม เพชรที่ผมให้ช่างทำให้เป็นเพชรส่วนตัวของผม” “ขอเสียมารยาททราบราคาได้ไหมคะ” “อย่าเลย ผมกลัวคุณไม่ยอมใส่” เอลเลริคไม่ยอมบอกราคากับหญิงสาว เพราะเพชรที่เขาเอามาทำเครื่องเพชรชุดนี้ เป็นเพชรส่วนตัวของเขาที่เคยเคยหาซื้อเอาไว้ มันหายาก น้ำงาม และราคาแพงมาก จากมูลค่าของความเก่าแก่ของมัน ทำให้มันแทบประเมิณราคาไม่ได้ ดวงตากลมโตมองเครื่องเพชรในกล่องด้วยแววตาลังเล แต่เธอก็ยอมหยิบมันขึ้นมาสวมใส่ตามความต้องการของผู้ให้ “ขอบคุณนะคะ” เขาไม่ตอบอะไร แต่อมยิ้มด้วยความพอใจ เมื่อถึงเวลา เขาจะเรียกคืนจากเธอจนคุ้ม และเธอจะไม่มีวันหนีพ้น สองหนุ่มสาวพูดคุยกันเรื่อยๆจนถึงโรงแรมที่จัดเลี้ยง ทั้งคู่ยื่นการ์ดเชิญให้กับเจ้าหน้าที่หน้างาน แล้วเดินเข้าไปภายในห้องจัดงาน “อุ๊ยตายแล้ว คุณเอลเลริค สวัสดีค่ะ” หญิงสาววัยกลางคนปรี่เข้ามาทักทายชายหนุ่มทันทีที่เขาก้าวพ้นประตูเข้าไปภายในห้องจัดงาน “สวัสดีครับ” เขายกมือไปจับหล่อนตามมารยาท “สวัสดีค่ะ” ฟาริดาทักทายก่อนเพราะหล่อนเป็นผู้ใหญ่ และดูเหมือนว่าหล่อนจะเป็นรุ่นน้องที่รู้จักของมารดาเธอด้วย “ตายแล้ว หนูมุก วันนี้มาเป็นึคู่ควงให้คุณเอลเลริคเหรอจ๊ะเนี่ย” หล่อนรับไหว้เธอด้วยเสียงสูง “ค่ะ พอดีคุณเรย์ได้การ์ดเชิญเหมือนกัน เราเลยมาด้วยกันค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยช้าๆชัดถ้อยชัดคำ “จ้ะ ชุดเข้าคู่กันเลย อย่างกับชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลยนะจ๊ะ” หล่อนพยายามพูดคุยในเชิงถาม “ไปตัดด้วยกันมาน่ะครับ” เอลเลริครับหน้าแทนเมื่อเห็นว่าฟาริดาเหวอไป “อ๋อ จ้ะ เครื่องเพชรสวยมาก คอลเลคชั่นใหม่เหรอจ๊ะ” ดวงตาเรียวจดจ้องที่สร้อยบนลำคอเรียวของหญิงสาวด้วยความอยากรู้ “ครับ คอลเลคชั่นใหม่ คุณมุกเป็นต้นแบบน่ะครับ แต่ชุดนี้มีแค่ชุดเดียวนะครับ เพราะผมใช้เพชรของผมเอง” ชายหนุ่มบอกเล่ากึ่งประกาศกลายๆ “จะรออุดหนุนนะคะ เชิญด้านในนะคะ แขกเหรื่อในแวดวงของคุณทยอยมาก่อนแล้วค่ะ” หล่อนพูดตัดบท เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องเอาข่าวแพร่กระจาย “ครับ” เอลเลริครับคำ ก่อนจะแตะเอวบางให้เดินไปพร้อมกับเขาท่ามกลางอาการงุนงงของฟาริดา เมื่อเดินแยกกันมาสักพัก ชายหนุ่มก็ปล่อยเอวเล็ก แล้วถอนหายใจออกมา ฟาริดามองเขาแล้วก็หัวเราะเบาๆ เธอรู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบเม้าท์เรื่องนั่นนี่ แต่เป็นเพราะมันคือส่วนหนึ่งของงาน จึงต้องเริ่มประกาศการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ “สู้ๆนะคะ” “ผมล่ะเหนื่อยกับการต้องพูดเยอะ” “ทำยังไงได้ล่ะคะ งานค่ะ” “ครับ งาน” ใบหน้าหล่อเหลาขยับอย่างยอมรับ ก่อนที่เขาจะยกแขนขึ้นให้คนตัวเล็กยกมือขึ้นจับ แล้วพากันเดินเข้าไปด้านในโดยมีสายตาหลายคู่มองตาม “เฮ้ ในที่สุดก็ได้เห็นหน้านะ” เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้น “ไง” ฟาริดาจำเสียงเพื่อนสนิทได้จึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับเอลเลริค “ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะ” “ได้การ์ดเชิญเหมือนกันน่ะสิ พี่คิวสวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยตอบเพื่อนก่อนจะทักทายคนรักของเพื่อนอย่างคุ้นเคย “สวัสดีครับมุก สวัสดีครับคุณเรย์” วชิรวิษยิ้มรับและทักทายเอลเลริคก่อน “สวัสดีครับคุณคิว” ทั้ง 4 หนุ่มสาวพูดคุยกันอย่างคุ้นเคย จนเมื่อเจ้าภาพงานขึ้นเวทีเพื่อกล่าวคำขอบคุณ หทัยชนกจึงดึงฟาริดาให้แยกมายืนคุยกัน 2 คน “เริ่มแล้วเหรอ” “ไม่แน่ใจ” ฟาริดาตอบตามความจริง “เริ่มต้นเมื่อไหร่” หทัยชนกยังถามต่อ “ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าเริ่มได้ไหม เพราะยังไม่ได้คุยกัน” “เธอรอฟังข่าว ฉันว่าไม่นานข่าวเรื่องเธอกับคุณเรย์แพร่กระจายทั่ววงสังคมแน่” “ก็คงงั้น ฉันว่าฉันเองก็ถึงเวลาต้องคุยกับเขาเสียที” “รีบคุยเถอะ ก่อนที่ข่าวดีมันจะเป็นข่าวเสีย” “อือ ไปรวมตัวเถอะ” ฟาริดาเอ่ยชวนเพื่อนสนิทให้เดินเข้าไปรวมตัวกับสองหนุ่มที่คุยกันเบาๆ แต่สายตาทั้ง 2 คู่ก็คอยมองพวกเธอไม่ละ เมื่อทั้งฟาริดาและหทัยชนก ได้รับการจับจ้องจากบรรดาหนุ่มๆในงานไม่น้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม