ตอนที่ 20 ไม่ระวังตัว

1889 คำ
กว่า 3 ชั่วโมง ที่ทั้ง 4 คนดื่มเครื่องดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน จนหทัยชนกเมาหลับไปเป็นที่เรียบร้อย วชิรวิษจึงขอตัวกลับขึ้นห้องนอนไปก่อน เหลือเพียงเอลเลริคที่ยังนั่งดื่มต่อกับฟาริดาเพียง 2 คนเท่านั้น “คุณนี่คอแข็งเหมือนกันนะ” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ถามว่าเมาไหมก็เมานะคะ นี่ถ้าให้มุกลุกขึ้นก็ล้มแน่นอนค่ะ” “แล้วก็ยังกินต่อได้นะคุณ” เอลเลริคถึงกับหัวเราะเบาๆ “ก็ถ้าไม่ลุกก็ไม่เป็นอะไรนี่คะ” หญิงสาวยิ้ม ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีน้อยๆจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ “โถ่คุณ ถ้าจะขนาดนั้นก็ขึ้นไปนอนเถอะ” “ประเด็นคือลุกไม่ไหวค่ะ” “.....” เสียงหัวเราะขบขันดังขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูด “อย่าซ้ำเติมสิคะ” “ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคุณ” “ก็คุณหัวเราะมุกอะ” “ก็คุณตลก” “คุณเรย์.....” หญิงสาวส่งเสียงงุ้งงิ้งใส่เขาพลางเบะปากใส่ ชายหนุ่มจึงยอมหยุดหัวเราะ ก่อนจะกระแอมไอเล็กน้อย แล้วกวาดตามองข้าวของที่วางอยู่ “แล้วของพวกนี้ล่ะ” “เดี๋ยวพรุ่งนี้เด็กๆก็มาเก็บค่ะ” “โอเค มีอะไรที่ต้องเอาขึ้นบ้านไหม” “มีแค่โทรศัพท์ค่ะ” “โอเค งั้นถือของผมให้ด้วย” เมื่อจบประโยคคำสั่ง วงแขนอบอุ่นก็ช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นจนตัวลอย ขายาวแข็งแรงก้าวเดินช้าๆแต่มั่นคง พาหญิงสาวบอบบางในอ้อมแขนเดินเข้าบ้านไป เมื่อขึ้นมาชั้นบน ประตูห้องนอนถูกเปิดออกจากมือเจ้าของห้อง ถึงแม้เธอจะเมาแต่ก็ยังมีสติ เพียงแค่ศีรษะมันหนักจนเธอเดินไม่ไหวเท่านั้นเอง “อาบน้ำก่อนไหม” เสียงอบอุ่นดังขึ้นข้างใบหูเล็ก เมื่อแผ่นหลังบอบบางแตะลงบนที่นอน “ไม่ค่ะ” ดวงตากลมโตปิดลงเมื่อรู้สึกเวียนศีรษะ “งั้นเช็ดหน้าหน่อย มีผ้าขนหนูผืนเล็กไหม” “มีค่ะ อยู่ในตู้เสื้อผ้าใบที่ใกล้ห้องน้ำที่สุดค่ะ” “โอเค” ตอบคำถามจบเจ้าของห้องสาวก็พลิกกายนอนตะแคงตามความเคยชิน แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้เธอมึนศีรษะหนักกว่าเดิม จึงพลิกตัวกลับมานอนหงาย ร่างสูงที่ยังยืนมองเธออยู่ถึงกับขมวดคิ้วมุ่นแล้วส่ายใบหน้าไปมา ก่อนที่เขาจะก้าวยาวๆหายเข้าไปในห้องแต่งตัวตามที่หญิงสาวบอก ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยยามสอดสายตาหาของที่ต้องการหลังจากเปิดบานประตูตู้ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่พับเอาไว้อย่างเป็นระเบียบตรงช่องชั้นล่างสุดออกมา เข้าห้องน้ำไปชุบน้ำแล้วบิดพอหมาด ก่อนจะกลับออกมาที่หน้าเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง “คุณ หลับหรือยัง” เขาถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอยังรู้สึกตัว “ยังค่ะ แต่ลืมตาไม่ไหวแล้ว” เสียงหวานใสเริ่มอู้อี้ “คุณนี่น้า ดื่มเยอะเกินไปแล้ว” เสียงกึ่งดุกึ่งเอ็นดู ยามที่มือหนาเอาผ้าขนหนูผืนเล็กแตะลงบนใบหน้าหวานซึ้งอย่างอ่อนโยน “อย่าดุค่ะ” ฟาริดาสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาเช็ดหน้าให้เธอ “ไม่ได้ดุ แค่บ่น” เขาส่งเสียงดุพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดใบหน้าสวยหวานให้เธออย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะไล่ลงไปตามลำคอระหงเพื่อให้หญิงสาวรู้สึกสบายตัว ฟาริดานิ่งไปสักพัก ก่อนจะลืมตาโพลงขึ้นมาจนเอลเลริคที่กำลังเช็ดลำคอให้เธอถึงกับชะงักมือ เขาช่วยพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นเธอพยายามชันตัวลุกขึ้น “คุณ” “หืม?” “มุกอยากอาบน้ำ” “.....” ดวงตาสองคู่มองสบกัน หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้เขา เอลเลริคนิ่งไปก่อนจะถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าฟาริดาไม่ใช่แค่เมา แต่เมามาก ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะช่วยดึงให้หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอน “งั้นก็ไปอาบน้ำ” ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาอย่างอ่อนใจ “พาไปหน่อยค่ะ” เจ้าของร่างอ่อนปวกเปียกส่งเสียงออดอ้อน “.....” เอลเลริคชะงักไปเมื่อหญิงสาวชูแขนขึ้นเป็นการส่งสัญญาณให้เขาอุ้มเธอขึ้น ตั้งแต่เขารู้จักกับเธอมา ไม่เคยหนักใจเท่านี้เลย ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะช้อนร่างบอบบางขึ้น เดินตัวปลิวไปวางหญิงสาวลงในอ่างอาบน้ำ เดินออกไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาวางไว้บนเคาน์เตอร์หน้ากระจกให้เธอ ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมปิดประตู ฟาริดามองตามร่างสูงใหญ่จนกระทั่งประตูปิดลงสนิท เสื้อผ้าถูกถอดออกจากร่างกายอย่างคุ้นชินถึงแม้ว่าเธอจะหนักศรีษะมากก็ตาม ทางด้านเอลเลริค หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็หยิบชุดนอนจากตู้ที่หญิงสาวจัดแยกเอาไว้อย่างเป็นระเบียบออกมาแขวนไว้ให้ที่ราวแขวนผ้าบริเวณหน้าห้องน้ำ ก่อนที่เขาจะเดินออกมานั่งรอเธอที่โซฟา อันที่จริงเขารู้แล้วว่าห้องน้ำภายในห้องนี้ไม่มีล็อกหลังจากที่เขาได้เข้าไปภายในห้องน้ำเมื่อครั้งก่อนที่เข้ามา เขาเข้าใจว่าเธอคงไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาภายในห้องนี้จึงไม่ได้ทำประตูห้องน้ำแบบมีล็อก แต่ดูเหมือนว่าฟาริดาจะไว้ใจเขามากเกินไปจนไม่คิดที่จะระวังตัวเองแม้แต่น้อย ชายหนุ่มนั่งคิดอะไรอยู่ไม่นาน ฟาริดาก็เดินออกมาในชุดนอนที่เขาหยิบเตรียมเอาไว้ให้เธอ หญิงสาวเดินผ่านเขาไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนราวกับว่าไม่มีเขาอยู่ในห้อง “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเดินตามเธอมาพลางถามเพื่อความแน่ใจ สายตากวาดมองร่างบางที่สัดส่วนไม่บางอย่างสำรวจ “ค่ะ” “ถ้างั้นผมกลับห้องก่อน คุณจะได้พักผ่อน” “ค่ะ” หญิงสาวตอบเขาก่อนจะมุดหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ดวงตาคมดุมองเรือนร่างสวยงามในชุดนอนกระโปรงผ้าซาตินสีน้ำเงินเข้มตัดกับผิวขาวจัดของเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก เนื้อผ้าที่แนบไปกับผิวเนื้อโดยไร้ร่องรอยของสิ่งกีดขวางให้รำคาญหูรำคาญตา ผิวที่ขาวจัดเนียนละเอียดน่ามองเปิดเปลือยช่วงไหล่จนถึงกลางแผ่นหลัง กระโปรงที่แต่เดิมก็ไม่ได้ยาวมากเลิกขึ้นมาเกือบถึงโดนขาเมื่อเจ้าของร่างไม่ได้ระวังตัวและไม่ได้สนใจมัน “ให้ตายเถอะแม่คุณ ระวังตัวหน่อยก็ได้มั้ง ผมก็เป็นผู้ชายนะ” เสียงคำรามปนเสียงฟันกัดกันดังกรอดยามเขาโวยวายใส่เธอ ไร้เสียงตอบรับ เมื่อเจ้าของห้องสาวได้หลับสนิทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอลเลริคส่ายหน้าไปมาด้วยความอ่อนใจ มือหนาดึงผ้าห่มตั้งใจจะห่มมันให้เธอ แต่มันแทบจะไม่ขยับเมื่อหญิงสาวกำลังนอนทับมันอยู่ “มุก นอนดีๆ” เสียงทุ้มอบอุ่นที่เข้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อยามที่เขาพยายามปลุกหญิงสาว ฟาริดาที่หลับไปแล้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือหนาจับเข้าที่ต้นแขนของเธอ หญิงสาวลืมตาช้าๆ ก่อนจะพลิกกายนอนหงายแล้วพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง โดยมีสายตาคมดุมองจ้องอยู่ ชายหนุ่มกรอกตาไปมาเพื่อระงับอารมณ์ของตนเองเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เธอคงไม่รู้ว่าตอนนี้ภาพของเธอมันน่ามองมากแค่ไหน “นอนดีๆ” เสียงเขาเข้มขึ้นเล็กน้อยยามที่ออกคำสั่งเธอ หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อยกตัวเองขึ้นจากการนั่งทับขอบผ้าห่มที่พาดอยู่กลางเตียงโดยมีเอลเลริคดึงร่นผ้าห่มออกให้ เธอเอนกายลงนอนอีกครั้งพร้อมกับผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมร่างให้เธอจนถึงหน้าอก ดวงตากลมโตปิดลง เจ้าของห้องสาวหลับสนิทแทบจะทันที ร่างสูงยืนมองอยู่สักพักก่อนที่เขาจะเดินไปปิดไฟ ประตูเชื่อมถูกเปิดออกพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่หายลับเข้าไปด้านใน ทิ้งไว้เพียงห้องที่เงียบสงบที่มีเจ้าของห้องสาวนอนหลับสนิทอยู่เพียงลำพัง “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเรย์” เสียงนุ่มนวลเจือไปด้วยความเกรงใจเอ่ยขึ้นเมื่อหล่อนเดินเข้ามาภายในบ้านแล้วพบกับร่างสูงใหญ่ในชุดสบายๆนั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟา “อรุณสวัสดิ์” เขาเอ่ยแข็งๆตามแบบฉบับนิสัยของเขา แต่มันไม่ได้แข็งกร้าว “รับอะไรรองท้องไหมคะ หรือรอคุณๆท่านอื่นลงมาก่อน” “รอดีกว่า ผมไม่อยากโดนเจ้านายป้าโกรธ” เขาตอบหล่อนทีเล่นทีจริง “คุณมุกไม่โกรธหรอกค่ะ แต่อาจจะมีงอนนิดหน่อย” รอยยิ้มขบขันปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่มีริ้วรอยตามวัย “น่ากลัวกว่าโกรธอีกนะ” เสียงเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ว่าไปค่ะ งั้นป้าไปเตรียมมื้อเช้าให้นะคะ” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร เขาทำเพียงยิ้มน้อยๆให้กับผู้สูงวัยเท่านั้น ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าช่วงนี้ตัวเขาพูดเยอะและยิ้มบ่อยเป็นพิเศษ ไม่น่าเชื่อว่าฟาริดาจะมีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้ “ไง” เสียงทักดังขึ้นเพื่อรียกให้เขาตื่นจากภวังค์ “ไง หลับสบายเลยสิท่า” เขาแซวกลับเมื่อเบนสายตาไปเห็นร่างหนุ่มสาวสองคนกำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น “แทบไม่ได้หลับ” วชิรวิษพูดทีเล่นทีจริง เรียกเสียงเพียะจากฝ่ามือของหทัยชนกไปหนึ่งที เอลเลริคส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะจิบกาแฟในมือต่ออย่างผ่อนคลาย สายตาจ้องไปที่หน้าจอแท็บเล็ตที่วางพิงหน้าขาข้างที่ยกขึ้นไขว่ห้าง ท่ามกลางเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วของทั้งสองคน “ตื่นกันเร็วจัง” เสียงหวานใสดังขึ้น พร้อมกับที่เอลเลริคเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงแทบจะทันที “คนอื่นตื่นกันปกติ เธอนั่นแหละตื่นช้ากว่าปกติ” หทัยชนกแซวเพื่อนรักน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “บ้า วันหยุดฉันก็ตื่นสายอยู่แล้วไหม มันต้องมีวันพักผ่อนกันบ้างสิ” “จะเชื่อแล้วกันนะ” “ก็นะ ไปทานมื้อเช้ากันดีกว่า” สองสาวคุยกันพร้อมกับที่หญิงสาวเจ้าของบ้านเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าชุดโซฟา เมื่อเธอเอ่ยชวนทุกคนจึงพยักหน้าแล้วลุกขึ้น ก่อนจะพากันเดินเข้าไปด้านในเพื่อไปจัดการมื้อเช้าที่ดาหลาน่าจะเตรียมพร้อมให้แล้วในห้องรับประทานอาหาร ในช่วงสาย หลังจากที่ทุกคนจัดการกับมื้อเช้าเสร็จไม่นาน วชิรวิษกับหทัยชนกก็ขอตัวกลับบ้าน เอลเลริคอยู่นั่งคุยเล่นอยู่กับฟาริดาสักพักเขาก็ขอตัวกลับบ้าง เนื่องจากอีริคได้โทรมาตามให้เขาเข้าบริษัท ฟาริดานั่งเล่นอยู่สักพักจึงกลับขึ้นห้องนอนไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม