ตอนที่ 5
ทบทวน
“ถ้าคุณลืมสัมผัสคืนนั้น สงสัยผมต้องทบทวนให้คุณเอง”
ดวงตาคู่คมเข้มหลังกรอบแว่น หลุบต่ำมองริมผีปากจิ้มลิ้มตรงหน้า แม้วันนี้จะไม่ได้แต่งแต้มด้วยสีฉูดฉาดอย่างในคืนนั้น ทว่ากลับดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด จนเขาไม่อาจะผละห่างออกได้
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว ปรายว่าอย่ารื้อฟื้นมันดีกว่าค่ะ”
ปลายฝัน เอ่ยเสียงสั่นระริก พยายามข่มใจตัวเองที่เริ่มจะเต้นไม่เป็นจังหวะ ขณะที่มุมปากของ ปุณณ์ ยกยิ้มขึ้น
“ผมมันประเภทจำแล้วฝังใจ”
ฝังใจ! กับความนุ่มละมุนของเรือนร่างนี้ จนทำเขาหงุดหงิดมาเกือบเดือน ทั้งที่ให้คนพยายามตามหาเธอมาตั้งนาน ที่ไหนได้ เธอคือน้องสาวของ ปิยะ นี่เอง
“วันนี้ผมนั่งดื่มของผมอยู่ดีๆถ้าคุณไม่เข้ามาลวนลวมผม เรื่องคืนนั้นก็คงไม่เกิดขึ้น”
“ปรายไม่ได้ลวนลามซะหน่อย ...ปรายขอโทษ”
“ผมไม่รับคำขอโทษ”
ไม่รับเป็นคำขอโทษ ...แล้วเขาจะรับเป็นอะไร?
“ละ ...แล้วคุณจะให้ปรายชดใช้เป็นอะไรคะ? ถ้าเรื่องเงิน”
เธอยังไม่พร้อมในเรื่องเงินหรอกนะ ตอนนี้เธอรับงานเขียนเป็นพรีแลนซ์อย่างเดียว เพราะต้องการทำมันอย่างเต็มที่ แถมเพิ่งจะโดนเพื่อนสนิทโกงเงินก้อนใหญ่ ที่เอาไปลงทุนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางค์ ผิวขาว อกฟู รูฟิต นั่นอีก
และงานเขียนของเธอก็ลุ่มๆดอนๆ เขียนสามเดือน ยังไม่จบสักเรื่อง
เวรกรรม! ถ้าเขาให้ชดใช้เป็นเงิน เธอตายแน่ๆ จะรบกวนพี่ชายก็ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว
“อืม งั้นชดใช้เป็นอะไรดี”
“คือ ถึงปรายจะเป็นน้องสาวของพี่เป้ แต่รับรองว่าปรายจะไม่เอาเรื่องในคืนนั้นของคุณปุณณ์ไปโพนทะนาบอกใครแน่นอนค่ะ สบายใจได้ และปรายก็จะอยู่ส่วนของปรายเงียบๆ”
“ผมไม่ได้แคร์เรื่องนั้นหรอก”
ปุณณ์ ถอดแว่นตาออกวางมันลงโต๊ะเขียนนิยายของเธอ และมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก
หัวใจของ ปลายฝัน เหมือนจะเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นกรอบหน้าคมชัดของเขาที่ไม่มีแว่นมาบดบัง
หล่อ หล่อ หล่อ และโครตหล่อ
“แต่ปรายแคร์”
“หือ”
“คือปรายไม่อยากให้พี่เป้มองปรายแบบนั้น และปรายต้องการเป็นนักเขียนขนนกทองเงินล้าน ที่ใช้ชีวิตระดับพรีเมี่ยม ให้พี่เป้เห็นว่าปรายทำได้”
คิ้วหนาของ ปุณณ์ ย่นเข้าหากัน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับที่เราเอากัน”
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มมาใกล้ยิ่งกว่าเดิม จน ปลายฝัน ต้องดันร่างเขาออกห่าง
“เอาเป็นว่าพี่เป้จะรู้ไม่ได้”
“งั้นก็ไม่ต้องทำให้เห็น”
ปลายฝัน กำลังจะอ้าปากแย้ง ทว่าปลายคางกลับถูกนิ้วเรียวแข็งตรึงไว้ ก่อนที่เขากดจูบลงบนริมผีปากเธออย่างรวดเร็ว และไม่ทันจะตั้งตัว ทันที่เรียวปากนุ่มเผยอออก ลิ้นสากร้อนก็แทรกซอนเข้ายังโพรงปากของเธอ
“อื้อ”
เธอครางในลำคอ เมื่อ ปุณณ์ บดเคล้าจูบเนิบนาบ และดูดปลายลิ้นแรงขึ้น ความซ่านสยิวแผ่ไปทั่วท้องน้อยของเธอ ชั่วขณะปลายฝัน สนองจูบตอบเขาไปอย่างเผลอตัว
“ฮึ” ปุณณ์ หัวเราะในลำคอ มือหนายกร่างเธอให้นั่งยังขอบโต๊ะ และบดจูบอย่างหนักหน่วงขึ้น ร่างหนาเบียดชิดเข้าระหว่างสองขาเธอที่แยกออก อุ้งมือหยาบสอดเข้ายังชายเสื้อยืดตัวโคร่งลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนอย่างย่ามใจ
ผิวของเธอนุ่มละมุนจนความหงุดหงิดก่อนหน้าของเขาทุเลาลง ปลายนิ้วไล่คืบสูงขึ้นและปลดตะขอบราด้านหลัง
บราของเธอหลุดมากองยังเอวคอด ปุณณ์เลื่อนมือมากอบกุมเต้าทรวงอวบอิ่มบีบขยำเบาๆ ขณะที่ริมผีปากเย็นไล้จูบต่ำมายังซอกคอระหง ดูดเม้มผิวอ่อนเบาๆจนเกิดรอยจ๊ำสีกุหลาบ
“อา ..เนียนนุ่มเหมือนคืนนั้นเลย”
เขาชอบความอ่อนนุ่มของเธอในคืนนั้น และมันฝังอยู่ในใจของเขาจนหงุดหงิดงุ่นง่าน ฝ่ามือหยาบกร้านจึงฟอนเฟ้นไปทั่วร่าง ก่อนจะกลับมาจูบเธออย่างดูดดื่ม
เพียงไม่นานสะโพกของเธอก็ถูกยกขึ้น กางเกงขาสั้นตัวเล็กถูกรูดลงไปกองยังปลายเท้า เหลือเพียงแพนตี้ตัวบางที่ห่อหุ้มเนื้อเนื้ออวบอูม
“พะ..พอแล้ว”
ปลายฝัน เริ่มได้สติ หัวใจเธอเต้นระส่ำจนแทบทะลุจากอก อุณหภูมิในร่างกายเหมือนจะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ ขณะที่ดวงตาคมเข้มของเขาดำมืดขึ้นด้วยแรงปราถนา
“พออะไรกันครับ ...เพิ่งจะเริ่มเอง”
มือหนาตรึงสะโพกงามงอนไว้กับโต๊ะ
นิ้วเรียวแข็งเกี่ยวยังแพนตี้ด้านใน คลึงเคล้นยังรอยแยกของกลีบละมุนที่ฉ่ำวาว สอดเข้ายังโพรงนุ่มที่คับแคบ อีกปลายนิ้วกดยังติ่งเกสรอ่อนไหว
“อื้อ ..ไม่ไหว อ๊าย..”
ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่าง เมื่อเขาเร่งจังหวะนิ้วเข้าออก ปลายฝัน จิกบ่าหนาของเขาไว้แน่น แขนขาที่จะต่อต้านคล้ายไม่มีเรี่ยวแรง
“เสียงครางคุณหวานดีจัง ผมชอบ”
เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำชิดริมหู ขณะนิ้วยังคลึงเคล้นไม่หยุดหย่อน จนหยาดน้ำใสไหลซึมซ่าน ใบหน้าเนียนใสแดงก่ำด้วยแรงปราถนา จนแววตาของ ปุณณ์ ดำมืดขึ้นอีกระดับ
คืนนั้นเธอคือนางแมวป่ายั่วสวาท
แต่วันนี้เธอเหมือนลูกแมวน้อย ที่เย้ายวนไปอีกแบบ ยิ่งเสียงหวานที่เปล่งออกมาจากปากจิ้มลิ้มยามที่นิ้วเขาชักเข้าออกนั้น ก็ทำให้ปุณณ์เริ่มจะปวดหนึบไปทั่วลำ
“อื้อ”
แผ่นหลังของเธอแอ่นโก่งโค้งขึ้น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจ จนปุณณ์ต้องก้มลงครอบครองยอดทรวงสีทับทิมนั้น ดูดดุนเลียจนเป็นใตแข็งชูชันในโพรงปาก ก่อนจะสลับไปทำอีกข้าง เป็นจังหวะกับนิ้วที่เร่งเข้าออกถี่กระชั้น
“พอแล้ว ได้โปรด”
“ทำไมครับ”
“ปรายกลัวอดใจไม่ได้ ...จนทนไม่ไหว”
เธอพยายามหุบขาเข้าหากัน ทว่าท่อนแขนแข็งแรงกลับตรึงไว้ และคลึงเคล้นนิ้วยังจุดกระสันหนักหน่วงขึ้น
หน้าหล่อเหลาโน้มมาใกล้ กระซิบเสียงแหบพร่า
“ทนไม่ได้ ...ก็ไม่ได้ต้องทนซิครับ!”
*************