ห้าชั่วโมง...กับการทำเค้กครั้งแรกของอบอุ่น
แน่นอนว่ามันเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานสำหรับการทำเค้กสี่ก้อน
ถ้าเป็นการทำปกติ ครูจำเป็นของเธออย่างเมยคงจะใช้เวลาน้อยกว่านี้มาก แต่เพราะต้องสอนเธอไปด้วยเวลาที่ใช้จึงค่อนข้างนานกว่าปกติไปมาก
ทว่ามันกับทำให้เธอมั่นใจว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่จะเรียนเพิ่ม
การทำเค้กแต่ละก้อนมันไม่ง่ายเลยจริงๆ นอกจากเราจะมีสูตรและเทคนิคดีๆแล้ว ความชำนาญและประสบการณ์ก็ยังเป็นส่วนสำคัญ
ตีสองกับอีกสี่สิบห้านาทีที่อบอุ่นขับรถถึงบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านก็ยิ่งแปลกใจเมื่อเห็นมารดานั่งอยู่ที่โซฟาเบดตัวยาว ขาเรียวก้าวเดินไปนั่งลงที่ว่างข้างๆ พร้อมกับเอ่ยถาม
“ทำไมยังไม่นอนคะ? อย่าบอกนะว่ารออุ่น”
“แม่นอนหลับไปแล้ว ตื่นมาเข้าห้องน้ำก็พอดีได้ยินเสียงรถเรา ก็เลยลงมาดู” คุณอมลวรรณหันมาพูดกับลูกสาวคนเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อุ่นต้องอยู่ทำเค้กหลังร้านปิดค่ะ เลยต้องกลับดึก” บอกถึงสาเหตุ และไม่ลืมที่จะเล่าให้ฟังเรื่องที่ตัวลงจะไปลงเรียนเพิ่ม “พรุ่งนี้อุ่นจะไปสมัครเรียนทำเค้กด้วย”
“อุ่น ทำแค่เต็มที่นะลูก อย่ากดดันตัวเอง”
“ค่า” อบอุ่นยิ้มกว้าง อธิบายให้มารดาคลายกังวลเพราะรู้ว่าท่านเป็นห่วง “ไม่ต้องห่วงนะคะ อุ่นน่าจะกลับดึกแค่ช่วงแรก พออะไรลงตัวก็น่าจะแพลนเวลาได้”
เธอคิดว่านะ...
“แล้วทานข้าวมาหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้วค่า แม่ก็รู้ว่าต่อให้ยุ่งแค่ไหนอุ่นก็ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองหิว”
“ดีแล้ว” คนเป็นแม่ยิ้มกว้าง “งั้นก็รีบขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ นี่ไม่ใช่ว่ามันจะตีสามแล้วเหรอ”
“แม่เองก็รีบขึ้นไปนอนได้แล้ว คุณธีระตื่นขึ้นมาไม่เห็นเดี๋ยวจะโวยวาย”
“พ่อเราน่ะเหรอจะตื่น นอนหลับลึกขนาดนั้น ถ้าแม่ไม่ปลุกไม่มีทางตื่นเอง”
“ฮ่าๆ ไปว่าพ่อ” อบอุ่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ขึ้นไปนอนได้แล้วค่า เดี๋ยวอุ่นไปหยิบเอาขวดน้ำก็จะขึ้นไปอาบน้ำนอนเหมือนกัน”
“เค้กที่เราทำน่ะ อย่าลืมเอามาให้พ่อกับแม่ชิมด้วยล่ะ” ก่อนจะขึ้นบันไดก็ไม่ลืมหันมากำชับ
“ค่า” อบอุ่นยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องครัวเมื่อพ้นร่างมารดาที่เดินหายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน
ถึงจะรู้สึกเหนื่อย แต่เธอยังมีเรื่องให้คิดอีกมาก มั่นใจว่าตัวเองจะไม่ได้เข้านอนเลยหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ
เรื่องแรกที่จะต้องทำคือการเลือกคอร์สเรียน...
เพราะต้องไปติดต่อเรื่องเรียนทำเค้กที่โรงเรียนแถวสุขุมวิททำให้อบอุ่นมาถึงที่ร้านเกือบสิบเอ็ดโมง การไปสมัครเรียนวันนี้นอกจากจะได้คอร์สเรียนแล้วเธอยังได้อุปกรณ์ทำเค้กชุดเล็กติดมือมาด้วย ตั้งใจจะเอาไปฝึกทำที่บ้าน
“หวัดดีค่าพี่เมย เปิ้ล พี่เจี๊ยบ” อบอุ่นเอ่ยทักทายทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าร้าน ขาดนุดีซึ่งก็คงพักทานข้าวเที่ยงอยู่ที่หลังร้าน เพราะพนักงานของร้านจะมีเวลาพักไม่ตรงกัน
“เป็นยังไงบ้างไปสมัครเรียน ได้เรียนกับครูลูกนกมั้ย?” เมยถามถึงครูที่ตัวเองเคยเรียนด้วยเมื่อหลายปีก่อน
“ครูลูกนกค่ะ โชคดีที่คนก่อนหน้าจบคอร์สวันนี้พอดี อุ่นบอกว่าพี่เมยแนะนำมา ครูรีบบอกเลยว่าจำได้”
“ครูจำแม่น”
อบอุ่นยิ้ม ก่อนจะรีบเดินไปที่หลังร้านเมื่อเห็นลูกค้าเริ่มเข้ามาในร้านมากขึ้น ซึ่งก็เจอกับนุดีที่กำลังนั่งทานก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“หวัดดีค่าพี่อุ่น ทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกันมั้ย?”
“เอาเลย พี่เพิ่งกินข้าวตอนสิบโมง” อบอุ่นยิ้มปฏิเสธ ก่อนจะเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ของตัวเองเพื่อเก็บกระเป๋า หยิบผ้ากันเปื้อนออกมาสวมทับกับชุดแซกสีเขียวมะกอก เธอเป็นคนที่ชอบใส่ชุดแซกมาก เพราะเป็นชุดที่ใส่ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าจะแมทกันหรือเปล่า ซึ่งต่างจากอิงเอย รายนั้นจะชอบใส่เสื้อเชิ้ตกับกระโปรงหรือกางเกง
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็เดินออกไปที่หน้าร้านทันที
“สวัสดีค่ะคุณหมอรักษ์ อเมริกาโน่เหมือนเดิมนะคะ”
“ครับ”
รักษ์...
เพราะชื่อนี้ทำให้อบอุ่นที่เพิ่งเดินออกไปถึงหน้าร้านเงยหน้าขึ้นไปมอง
เปรี้ยง!
มันไม่ใช่เสียงไฟซ็อตหรือฟ้าแลบ แต่มันคือเสียงประกายไฟจากดวงตาคมดุของคุณหมอหนุ่มมองมาที่เธอ ดวงตาคมดุของเขาจ้องมองมาที่เธอนิ่งอย่างให้รู้ว่ามอง ส่วนคนถูกจ้องอย่างเธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการก้มหน้านิ่ง มือเรียวสาละวินกับการดึงปลายผ้ากันเปื้อนที่ผูกเอาไว้เรียบร้อยออกผูกใหม่
แต่เดี๋ยวนะ...
คนที่ต้องอายมันควรเป็นเขาไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดได้แบบนั้น คนที่ก้มหน้านิ่งก็เงยหน้าขึ้นทันที มองสบตาของคนที่ควรอายโดยไม่หลบสายตา เธอเห็นมุมปากของคุณหมอหนุ่มหน้านิ่งยกขึ้นคล้ายคนกำลังยิ้ม
‘ยิ้มทำไม?’ นั่นคือคำที่เธอถามตัวเองในใจ
“ผมเอาคาปูซิโน่เพิ่มหนึ่งแก้ว กับเค้กนี้สองชิ้นครับ” รักษ์ชี้ไปที่เค้กสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในตู้กระจก
“เค้กดาร์กช็อกโกแลตสองชิ้นนะคะ คุณหมอจะทานที่นี่หรือใส่กล่องคะ?” เมยถามศัลยแพทย์คนดังของโรงพยาบาลอย่างคุ้นเคย รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายสั่งแพคคู่ทั้งที่มาคนเดียว สงสัยจะนัดใครเอาไว้
“ทานที่นี่ครับ”
“ทั้งหมดสามร้อยยี่สิบบาทค่ะ”
รักษ์ยื่นเงินชำระค่าสินค้าให้กับเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะว่างซึ่งเป็นโต๊ะที่ตัวเองนั่งเมื่อวาน แน่นอนว่ามันคือความตั้งใจของเขาที่จะนั่งโต๊ะนี้
อบอุ่นอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง ก่อนจะขยับไปยืนรอรับออเดอร์ที่หน้าเคาน์เตอร์
“อเมริกาโน่ คาปูซิโน่ แล้วก็เค้กดาร์กช็อกโกแลตสองชิ้นค่ะ” นอกจากบังคับเสียงตัวเองให้ปกติแล้ว อบอุ่นยังต้องบังคับสีหน้าของตัวเองไม่ให้แสดงอะไรออกไป
อาย...คือสิ่งที่เธอรู้สึก
ซึ่งมันต้องอายอยู่แล้ว ในเมื่อเรื่องที่ได้ยินมันเป็นเรื่องที่...
“นั่งก่อนสิครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”