บทที่ 4 ความจริงบางอย่าง
“ทำไมต้องใช้ความรุนแรงด้วยครับ” ชายหนุ่มเดินมาหาช้า ๆ ใช้ร่างสูงใหญ่บดบังคนที่นั่งอยู่กับพื้นเอาไว้
“พี่กำลังอบรมเด็กในบ้าน” ศิตาหอบหายใจด้วยความโมโห แต่กระนั้นก็ลอบสังเกตท่าทีของพระเพลิงไปด้วย
“เด็กทำผิดอะไรนักหนา ถึงต้องลงไม้ลงมือขนาดนี้”
ขยานีมีท่าทีตื่นกลัวตอนเจอเขา สาเหตุอาจมาจากศิตาก็เป็นได้ เขาเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้
“คุณเพลิงไม่ใช่คนในบ้าน ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ค่ะ”
“พี่ตา” ณดากระตุกแขนพี่สาวก่อนมองชายหนุ่มอย่างขอลุขอโทษ
จากนั้นก็พุ่งสายตาไปยังสาวใช้ต้นเรื่องอย่างพิจารณา แม้อยู่ภายใต้เสื้อผ้าเก่าสีซีดก็ยังน่ามอง ใบหน้าผุดผาดงดงาม ไม่แปลกใจที่เจ้าหล่อนสร้างวีรกรรมไว้มากมาย เธอไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เพียงแต่ฟังจากคำบอกเล่าของพ่อเมื่อตอนกลับจากอเมริกา
“พี่ต้องลงโทษคนทำผิดกฎ”
“ดากำลังมีแขกพี่ตาช่วยไว้หน้าดาด้วยค่ะ..มีงานอย่างอื่นก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวฉันคุยกับพี่ตาเอง” ณดาปรามพี่สาวก่อนหันมาพูดกับขยานี
“ขอบคุณค่ะคุณดา” สาวใช้ยกมือไหว้ทั้งที่ยังสะอื้นน้ำตาอาบแก้ม คลานเข่าไปหยิบไม้กวาด จากนั้นก็ลุกยืนก่อนวิ่งออกไปโดยไม่ยอมสบตากับใคร
“คุณเพลิงรู้จักขนมด้วยเหรอคะ” ศิตาถามจี้จุดในทันที
“ไม่รู้จักครับ” ชายหนุ่มฉลาดพอที่จะปฏิเสธด้วยท่าทีเรียบนิ่ง
หากบอกว่ารู้จักขยานีคงตกที่นั่งลำบาก เดาว่าศิตาคงไม่ชอบเธอหรือไม่ก็เคยมีปัญหากันมาก่อน ไม่งั้นศิตาคงไม่พยายามจับผิดเช่นนี้
“แต่ดูเป็นห่วงจนออกนอกหน้า เมื่อคืนก็คุยกันเป็นนานสองนาน คุณเพลิงคงไม่รู้สินะว่ากฎของบ้านนี้ ห้ามคนใช้คุยกับแขกหากไม่จำเป็น ใครฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษ”
ศิตายกยิ้มเมื่อน้องสาวหันมองว่าที่คู่หมั้นเป็นเชิงถาม ทว่าพระเพลิงกลับนิ่งไม่แสดงพิรุธ ก่อนตอบกลับเสียงราบเรียบอีกเช่นเคย
“เมื่อคืนผมหาโทรศัพท์ไม่เจอ เห็นเด็กคนนั้นทำความสะอาดอยู่เลยเข้าไปถาม”
“จริงเหรอคะ?”
ศิตาถามอย่างคาดคั้นจนชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจจึงตีหน้าขรึมลงอีก คนอย่างพระเพลิงไม่ยอมให้ใครไล่บี้ได้ง่าย ๆ แน่นอน
“ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าพี่ตาตบตีเด็กเพราะเรื่องเมื่อคืนก็ถือว่าไม่ยุติธรรมกับเด็กเลย ตามกฎหมายหากนายจ้างทำร้ายร่างกายลูกจ้าง นับว่าเป็นความผิดอย่างหนึ่งนะครับ”
“หยุดคุยเรื่องนี้เถอะค่ะ เอาเป็นว่าคุณเพลิงไม่รู้จักขนมเป็นอันจบ พี่ตาก็อย่าใจร้อนนักสิ คนงานกลัวจนหัวหดทุกคนแล้วค่ะ” สุดท้ายณดาก็เป็นคนห้ามทัพ ไร้สาระมากที่ต้องถกเถียงกันเพราะคนใช้แค่คนเดียว
“พี่ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย น้องดาใจดีแบบนี้ก็ระวังไว้เถอะ สักวันจะถูกนังขนมแทงข้างหลัง นังนี่มันชอบอ่อยคนหล่อ”
ศิตามองค้อนว่าที่น้องเขย ก่อนสะบัดตัวเดินไปอย่างไม่สบอารมณ์ คนเป็นน้องก็ได้แต่เอือมระอา พี่สาวยังเอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยน
ส่วนพระเพลิงก็กำลังใช้ความคิด คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ขยานีถูกรังแก เขาคงอยู่เฉยไม่ได้ อย่างน้อยก็ช่วยในฐานะเพื่อนมนุษย์ แต่ต้องรู้ที่มาที่ไปเสียก่อน จึงตัดสินใจถามณดา แต่ยังคงรักษาท่าทีให้เคร่งขรึม
"พี่ตาไม่ชอบเด็กคนนั้นใช่ไหมครับ"
“ไม่ชอบเอามาก ๆ เลยค่ะ” เธอตอบขณะเดินเคียงคู่เข้าไปในบ้าน วันนี้เป็นหยุดชายหนุ่มจึงอยู่ด้วยทั้งวันได้
“เท่าที่สังเกต เด็กก็ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรนี่นา”
เขายังคงพูดเรื่อย ๆ แต่กำลังมองหาใครบางคน เพียงไม่นานมุมปากหนาก็ยกยิ้ม เมื่อเห็นวารีกำลังเช็ดกระถางต้นไม้อยู่มุมสุดของห้องรับแขก
“ทั้งคู่มีเรื่องกันค่อนข้างหนัก”
"หนัก?" คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงเป็นเชิงถาม
“ตอนเกิดเรื่องดายังอยู่อเมริกาเลยไม่ค่อยรู้รายละเอียด พี่ตาก็ไม่ยอมเล่า ที่รู้มาก็ฟังจากคุณพ่อกับคนงาน”
“เรื่องอะไรครับ”
พระเพลิงไม่รู้ตัวว่าได้แสดงความอยากรู้จนหญิงสาวผิดสังเกต เธอจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ตกลงคุณเพลิงรู้จักขนมหรือเปล่า”
"ไม่รู้จัก"
“แต่เหมือนจะใส่ใจเป็นพิเศษนะคะ”
“ผมแค่อยากรู้ต้นสายปลายเหตุ จะได้วางตัวถูกเวลาเจอเด็กคนนั้นตอนมาหาดา เอาจริงก็รู้สึกผิดที่เด็กถูกทำร้ายเพียงเพราะคุยกับผม”
แม้จะพลาดไปบ้าง แต่คนฉลาดก็ยังหาทางแก้ตัวได้ ซึ่งณดาก็ไม่คาดคั้นอย่างที่กังวล
“เห็นว่าขนมแอบเล่นชู้กับอดีตสามีพี่ตา”
“...........” พระเพลิงเหมือนถูกน็อก ถึงกลับหน้าเปลี่ยนสีเมื่อณดาพูดประโยคถัดมา
“พี่ตาจับได้ตอนกำลังมีอะไรกันในห้องพักคนงาน วันนั้นพี่ตาอาละวาดบ้านแตก ขนมถูกตบจนทำงานไม่ได้หลายวัน พี่วุฒิก็ถูกคุณพ่อกระทืบต้องนอนโรงพยาบาล”
“มีพยานยืนยันหรือเปล่าว่าเด็กทำจริง”
ไม่ค่อยเชื่อว่าขยานีจะกล้าเป็นชู้ แม้สิ่งที่รู้มาหลังจากเธอย้ายที่อยู่จะเป็นเรื่องทำนองนี้ก็ตาม หากไม่ฟังจากปากหญิงสาว เขาขอไม่เชื่อไว้ก่อน
"ก่อนหน้านั้นพี่ตาก็สงสัยแต่ยังไม่มีหลักฐาน คนงานในบ้านเห็นพี่วุฒิแอบเข้าห้องขนมหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าพูด จนวันนั้นแหละค่ะที่พี่ตาจับได้คาหนังคาเขา พี่วุฒิกับขนมก็ไม่ปฏิเสธ"
“เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าพี่ตาเลยเลิกกับสามี”
“ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้พี่วุฒิก็เจ้าชู้ ปัญหาสะสมมานาน แต่มาขาดสะบั้นเพราะขนม เห็นว่าพี่วุฒิอยากเลี้ยงดูเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะคะ”
พระเพลิงพยายามตีหน้านิ่ง ทั้งที่ในหัวคิดไปต่าง ๆ นานา หาเหตุผลมาขัดแย้งแต่เหมือนจะไม่มี ยังไม่เคยคุยกับขยานีจึงจับทางไม่ถูก เรื่องที่ณดาเล่าเป็นจริงกี่เปอร์เซ็นต์ เขาไม่รู้เลย
.
.
.
หลังจากอยู่คุยกับว่าที่คู่หมั้นราวหนึ่งชั่วโมงพระเพลิงก็กลับคอนโด กดลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด ไม่นานก็ถึงห้องชุดสุดหรู ร่างสูงเดินไปทิ้งตัวนั่งมองบรรยากาศด้านนอก ในมือถือโทรศัพท์ที่มีเบอร์ของขยานี ซึ่งได้จากการแอบถามวารีก่อนกลับมา
รายนั้นดีใจไม่น้อยที่เจอเขา ออกปากพูดเองว่าชีวิตลำบาก ขัดสนเงินทองจนไม่สามารถส่งหลานสาวให้เรียนต่อ แต่เท่าที่รู้ยายแย้มพอมีทรัพย์สมบัติอยู่บ้าง หากบริหารจัดการดี ๆ น่าจะมีเงินให้ขยานีเรียนจนจบ
น่าแปลกที่วารีพูดย้ำเรื่องเงินหลายครั้ง แถมพูดเป็นเชิงให้ช่วยโดยการโอนเข้าบัญชีตัวเอง สิ่งนี้ตอกย้ำว่าไม่น่าไว้ใจ คนเดียวที่สามารถไขความกระจ่างได้คงเป็นขยานีเท่านั้น
ก่อนแยกย้ายได้กำชับให้วารีเก็บเรื่องที่คุยเป็นความลับ หากอยากได้เงินก็อย่าบอกใครว่ารู้จักกัน ซึ่งนางก็รับปาก แต่ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี เขาจึงไม่ให้ช่องทางติดต่อกับนาง ทำแค่สอบถามเรื่องการทำงานของขยานีคร่าว ๆ เท่านั้น
พอได้คุยก็คิดหนักมากขึ้น วารีรู้หรือเปล่าว่าหลานสาวถูกเจ้านายทำร้าย ถ้ารู้แล้วยังเฉยก็แสดงว่าเรื่องชู้อาจมีมูล หรือในหนึ่งก็คือวารีปล่อยปละละเลย ไม่ได้ดูแลขยานีอย่างที่ควรจะเป็น
“เฮ้อ..”
ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนักโซฟา ถอนหายใจอย่างคิดไม่ตก ถ้าขยานีขอความช่วยเหลือคงไม่ลังเล แต่เพราะเธอเอาแต่หลบหน้า ทำเหมือนไม่อยากคุย แล้วยังมีเรื่องศิตาเข้ามาเกี่ยวอีก
ความเหมาะสมและความรู้สึกของณดาเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ ยิ่งขยานีมีเรื่องชู้สาว ก็ยากจะออกตัวปกป้องทั้งที่บอกไม่รู้จักกัน
แต่จะให้นิ่งเฉยไม่ดูดำดูดี เขาก็ทำไม่ได้อีก
ขยานีเป็นเด็กข้างบ้านยายของเขา เจอครั้งแรกตอนเขาไปเยี่ยมยายช่วงเตรียมตัวเข้าเรียนปีหนึ่ง เธอยังเป็นเด็กผมเปียอยู่เลย ได้คุยกันไม่กี่คำ ซึ่งเขามองว่าเป็นเด็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง พอเธออายุสิบห้า เขาก็จบปริญญาตรีพอดี และเป็นอีกครั้งที่ได้เจอ
เด็กสาวใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณผุดผ่อง เครื่องหน้าเหมาะเจาะลงตัว สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจคนวัยคะนองเป็นอย่างดี สาวน้อยที่เพิ่งแตกเนื้อสาวเขินอายทุกครั้งที่เจอกัน เพียงแค่นั้นพระเพลิงก็นึกสนุกอยากจีบ ทั้งที่มีคนคุยอยู่แล้วหลายคน
แม้ช่วงอายุห่างกันเกือบแปดปีก็ไม่เป็นอุปสรรค ทั้งคู่แลกเบอร์โทรแลกไลน์ไว้ติดต่อ พอได้คุยเขาก็เริ่มชอบ จากนั้นก็ไปบ้านยายบ่อยขึ้น เพียงเพราะอยากเจออยากคุยกับเด็กสาวแสนสวย เดิมทีแค่อยากเล่น ๆ แต่ก็ถูกความใสซื่อตกเข้าเต็มเปา ไม่มีเรื่องเซ็กซ์ มีแค่จับมือและหอมแก้มแค่ไม่กี่ครั้ง
กระทั่งต้องไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา จึงห่างหายไม่ได้คุยต่อ ตอนนั้นเขากำลังหลงระเริงกับชีวิตในต่างแดน กินเที่ยว ปี้หญิง ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง จนเรียนจบแล้วกลับมาเยี่ยมยายปัทมาที่บ้าน
ทุกอย่างระหว่างเขาและเธอจึงเริ่มต้นขึ้น..
“บ้าเอ๊ย! ทำไมต้องวนกลับมาเจออีกวะ”
คนเคร่งเครียดสบถหงุดหงิดเมื่อคิดไม่ตก ตามหาแทบพลิกแผ่นดินเสือกไม่เจอ แล้วมาเจอตอนนี้! ตอนเขากำลังจะหมั้น
กูก็แม่ง! อยากได้เมียเก่ากลับมารีโนเวตใหม่ ยิ่งโตก็ยิ่งสวยสะบัด ขนาดแต่งตัวมอซอความสวยยังกระแทกตา คนเคยได้กินเต็มปากเต็มคำอย่างเขาจะทนได้เหรอ..ไม่มีทาง
ช่างเป็นความบังเอิญที่โคตรบัดซบเสียจริง!