บทที่ 5 อย่าสมเพชฉันเลย

2256 คำ
บทที่ 5 อย่าสมเพชฉันเลย   ร่างภายใต้เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นรีบหลบหลังเสาไฟฟ้า ดึงหมวกมาปิดหน้าในตอนที่คนถือของพะรุงพะรังเอี้ยวตัวกลับมามอง พระเพลิงยืนนิ่งไม่ไหวติง กลัวขยานีเห็นแล้วหนีไปอีก วารีบอกทุกเช้าหญิงสาวจะมาจ่ายตลาด ทำเป็นประจำวันเว้นวัน ถ้าซื้อเยอะก็มีคนมาด้วย ถ้าซื้อไม่กี่อย่างก็มาคนเดียว โชคดีที่วันนี้วารีมากับเธอ ยืนรออยู่นานจนสบโอกาส จึงรีบเข้าไปหาวารีเพื่อขอคุยสองต่อสอง ทีแรกนางบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อควักธนบัตรสีเทาให้สามใบ คนอ้างนั่นอ้างนี่ก็เปิดทาง ซึ่งก็ไม่ลืมกำชับว่าทุกอย่างคือความลับ "อยากกินโจ๊กร้านท้ายซอยหรือเปล่า" วารีถามขณะขนของขึ้นรถตุ๊กตุ๊กเจ้าประจำ “อยากกินค่ะ แต่หนูอยากเก็บตังไว้ทำอย่างอื่นมากกว่า” เธอสบตากับป้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “นี่เงิน..รีบไปกินซะ ฉันจะกลับไปก่อน กินเสร็จก็อย่าเถลไถล” วารียัดเงินสามร้อยใส่มือให้ “ขอบคุณค่ะ ไว้หนูจะซื้อใส่ถุงกลับไปฝากนะคะ” หญิงสาวยิ้มแป้นพร้อมยกมือไหว้ “เออ ๆ ไปเถอะ ฉันจะบอกคนอื่นว่าแกรอเอาผักแล้วกัน รีบกินให้เสร็จอย่าชักช้า” พูดจบก็เอาถุงคะน้าฮ่องกงให้ขยานีถือไปด้วย เพื่อให้สมบทบาทที่บอกไปเมื่อครู่ “วันนี้ป้าน่ารักจัง” “ไม่ต้องปากหวาน รีบไปกินเลย” วารีขึ้นนั่งบนรถแล้วโบกมือไล่ ขยานีจึงหมุนตัวเดินไปยังร้านโจ๊กเจ้าอร่อยที่ชื่นชอบ ใช้เวลาเพียงห้านาทีก็มาถึง จัดการสั่งโจ๊กพิเศษทุกอย่าง ก่อนเดินไปนั่งโต๊ะมุมสุด เทน้ำจากเหยือกใส่แก้วที่ตักน้ำแข็งมาเรียบร้อย ไม่นานชามบรรจุโจ๊กเครื่องแน่น ๆ ก็มาวางตรงหน้า คนหิวโหยไม่รอช้ารีบตักเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่รู้ว่ามีคนนั่งมองตั้งแต่เธอก้าวขาเข้ามา พระเพลิงรออย่างใจเย็น หากเข้าไปตอนนี้กลัวเธอกินไม่อิ่ม ขยานียังชอบกินโจ๊กและยังกินจุเหมือนเดิม ดวงตาเปล่งประกายทุกครั้งเมื่อได้ลิ้มลองของอร่อย นานมาแล้วเขาเคยนั่งมองเธอกิน คอยเช็ดปาก คอยเติมน้ำ บริการทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงตอนนี้จะเป็นผัวเก่าที่เลวทราม แต่ก็เคยเป็นผัวที่ดีมาก่อนเหมือนกัน นั่งจ้องอยู่อย่างนั้นจนเธอกินช้าลง เขาจึงลุกไปนั่งเก้าอี้ตัวติดกัน “คุณ!” ช้อนในมือหล่นลงบนชาม ตาเบิกกว้างตกใจจนหน้าซีด มองซ้ายมองขวาหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด “นั่งลงเถอะ” คว้าข้อมือเล็กมายึดไว้ไม่ให้หนี “พวกเราไม่ควรคุยกันค่ะ ถ้ามีคนเห็นแล้วไปฟ้องคุณตา ฉันจะถูกทำโทษนะคะ” “ไม่มีใครเห็นแน่นอนพี่รับรอง” “แต่..” “เลือกเอาว่าจะคุยที่นี่ หรือจะให้ตามไปคุยที่บ้าน” เขาเสียงแข็งเมื่ออีกฝ่ายดื้อดึง และก็ได้ผลเมื่อเธอพยักหน้ารับทราบ แต่ยังมีท่าทีระแวดระวังตัวเหมือนเดิม “ฉันมีเวลาไม่มาก มีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” พอฟังคำพูดห่างเหินพระเพลิงเกิดหงุดหงิด เมื่อก่อนเรียก ‘พี่เพลิง’ หรือไม่ก็ ‘พี่จ๋า’ แต่ถึงจะไม่โอเคก็พยายามมองข้าม มีเรื่องสำคัญต้องถามอีกมากมาย เรื่องเล็กน้อยแบบนั้นค่อยว่ากันทีหลัง “หลังจากยายแย้มตาย น้าวารีดูแลขนมดีหรือเปล่า” “ก็อย่างที่เห็นค่ะ” รอยยิ้มเยาะปรากฏ ไม่มีความจำเป็นต้องโกหก เขาคงเดาความเป็นอยู่ของเธอได้ สภาพคงไม่เอื้อให้โป้ปดว่าสบายดี เสื้อผ้ามันบอกว่าเธอขัดสนมากแค่ไหน “เกิดอะไรขึ้น เล่าให้พี่ฟังได้ไหม” “ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ฉันเลยต้องมาทำงานเป็นคนใช้” พูดเสียงสั่น นึกถึงอดีตก็พาลจะร้องไห้ ยิ่งคนถามคือพระเพลิง ความรู้สึกเมื่อครั้งก่อนก็ตอกย้ำให้รู้สึกด้อยค่ามากขึ้น "ไม่สิ..พี่อยากรู้สาเหตุมากกว่านี้ อยากรู้ว่าทำไมน้าวารีถึงขายบ้าน แล้วทำไมขนมถึงไม่ได้เรียนต่อ แล้วรู้ไหมว่าพี่ตามหาอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่เจอ" ตอนนั้นคนใช้บ้านยายปัทมาพูดถึงขยานีในทางไม่ดีมากมาย เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่สามารถหาความจริงได้ “คุณไม่เคยตามหาฉัน..อย่าโกหก” “ใครจะไม่ตามหาเมียตัวเองวะ” ต่อหน้าเธอ เขาสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องคีพลุค อยากพูดอะไรก็พูดได้ตามสบาย “ฉันไม่ใช่เมียคุณ!” ขยานีปฏิเสธเสียแข็ง ผัวประสาอะไรจะทิ้งให้เมียรอ รอจนแห้งตายแบบเธอ “อย่าเป็นแบบนี้เลย พวกเราควรคุยด้วยเหตุผล” เขาดึงมือเล็กมากุมไว้ เมื่อสัมผัสถึงความหยาบกร้านก็ต้องหลับตา หายใจเข้าออกหนัก ๆ เพื่อบรรเทาความรู้สึกหลากหลายที่ถาโถม ไม่อยากคิดว่าเธอลำบากแค่ไหน ทำไมชีวิตถึงตกต่ำขนาดนี้ หากพูดในนามผัวเก่า เขาคงเป็นผัวเก่าที่โคตรไม่ได้เรื่อง “ถึงคุณรู้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันยังเป็นฉัน เป็นคนรับใช้ในบ้านคุณดา อย่ายุ่งกับฉันเลยค่ะ ต่างคนต่างอยู่น่าจะดีกว่า” เหมือนอดีตที่เคยผ่านมา เธอเป็นใคร เขาเป็นใคร คนต่ำต้อยไร้ค่า ควรเจียมเนื้อเจียมตัว “เปลี่ยนแน่นอนแค่ขนมเชื่อใจพี่” พระเพลิงขยับเข้าใกล้มากขึ้น หน้าสวยผุดผาดแม้มีรอยช้ำก็ยังสวย ขยานีเปล่งปลั่งดูโตกว่าเมื่อก่อน แม้อยู่ในชุดเก่ามอซอเธอก็ยังน่าหลงใหล "ยอมให้พี่ช่วยเถอะนะ" เขาใช้นิ้วโป้งไล้ไปตามนิ้วเรียวเล็ก สายตาคมกริบสื่อความหมายลุ่มลึก คนอย่างเขาไม่เคยปิดบังความต้องการ อยากได้ก็คืออยากได้ ยิ่งเป็นขยานีก็ยิ่งไม่ต้องรักษาท่าที เพราะเคย ๆ กันอยู่ นอนด้วยกัน มีอะไรกันตั้งแต่เธออายุสิบแปดโน่นเลย ติดใจจนคิดจะหอบหิ้วไปอเมริกา แต่ทำไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ “ขยับออกไปค่ะ” หญิงสาวใจเต้นระรัวไม่อาจห้ามได้ พยายามไม่หวั่นไหวแต่ก็ยากจะต้านทาน “พี่จะส่งขนมเรียนต่อ ถ้าอยากหางานใหม่พี่ก็จะช่วย อยากเปลี่ยนที่อยู่ก็ได้ เดี๋ยวหาให้เลยตอนนี้” “ไม่ค่ะ” เพราะไม่มั่นใจว่าเขาจะคุ้มกะลาหัวได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า เกิดอยากทิ้งไว้กลางทางเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่โดนศิตาตบจนตายเลยเหรอ “อยากให้ทำอะไรก็บอก พี่พร้อมทำให้ทุกอย่าง” พระเพลิงตั้งใจไม่ถามเรื่องคาว ๆ ของเธอ ตอนนี้เอาแค่ให้ยอมรับความช่วยเหลือก็พอ “พร้อมทำทุกอย่างงั้นเหรอ?” ส่ายหน้าปฏิเสธ รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏ ไม่หรอก..เขาไม่เคยทำได้อย่างที่พูดสักครั้ง “ไม่เป็นไรนะ ถ้าถูกจับได้พี่พร้อมรับผิดชอบเต็มที่” คำพูดในอดีตสะท้อนเข้ามา เธอจึงกระชากมือออกจากการเกาะกุม เมินหลบสายตาที่มีผลต่อหัวใจ อดกลั้นความรู้สึกร้าวรานที่ประดังประเด จะเชื่อได้อย่างไร ในเมื่อเขาเคยปล่อยให้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง เธอจะไม่ตกหลุมพรางคำโกหกแสนหวานอีกเป็นอันขาด "พี่ได้เป็นประธานบริษัท มีเงินมีอำนาจมากกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้พี่ไม่ได้อยู่ในโอวาทใคร คนไหนก็สั่งพี่ไม่ได้อีก" “ความต้องการของฉันคือไม่ยุ่งกับคุณ” เธอตัดบทโดยไม่มองหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็หันมาพูดกับพี่ให้ชัดเจน อย่าหลบตากันแบบนี้” คนอารมณ์ร้อนกระชากปลายคางมนให้หันกลับมา ไม่สนว่าใครจะมอง “นี่คุณ!” “อย่าดื้อ..ขนมรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนใจเย็น” ใช่..เธอรู้ดีว่าภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย ได้ซ่อนความใจร้อนและบ้าดีเดือดไว้มากแค่ไหน พระเพลิงทำได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุความต้องการ อยากได้ก็ต้องได้ เฉกเช่นในอดีต "ถ้าไม่อยากให้ฉันโดนตบจนนอนหยอดน้ำข้าวต้ม ก็อย่ามาเจอฉันอีก" พูดบอกเสียงสั่นเครือ น้ำตาปริ่มจะไหล เธอไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่แสดงออกสักนิด "ต่อจากนี้พี่จะปกป้องขนมเอง" "อย่าพูดเลย" เธอเสียงสั่นน้ำตาคลอ อยากปล่อยโฮมันเสียตรงนี้ เหอะ..คำพูดเดิม ๆ เขาคงคิดว่าเธอเป็นควายมั้ง “ไปคุยที่อื่นดีกว่า” เมื่อขยานีทำท่าจะร้องไห้เขาก็ถอดหมวกบนหัวใส่ให้เธอแทน จากนั้นเดินจับมือไปจ่ายเงิน ก่อนพาเดินลัดเลาะมายังลานจอดรถด้านหลังตลาด เปิดประตูรถดันร่างเล็กเข้าไปนั่งเบาะด้านหลัง เบียดตัวตามเข้าไป ทำให้หญิงสาวตื่นกลัวรีบขยับไปชิดประตูรถอีกด้าน “ขอโทษที่ตอนนั้นผิดคำพูด” เขาพูดถึงเรื่องในอดีต “ช่างมันเถอะค่ะ” น้ำเสียงปวดร้าวของเธอทำให้พระเพลิงต้องขยับเข้าใกล้ "ขนม" เขายื่นมือเข้าไปหาหวังโอบกอด แต่ถูกอีกฝ่ายปัดป้องด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด “อย่ามาใกล้!” “ฟังพี่บ้างสิ” “พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันไม่อยากจำเรื่องแย่ ๆ แบบนั้นอีก” “โอเค..พี่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้น แต่พี่จะไม่ปล่อยให้ขนมลำบาก ถึงขนมไม่อยากรับความช่วยเหลือ พี่ก็จะทำทุกวิถีทางให้ขนมมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น” “ฉันเต็มใจจะอยู่แบบนี้ เลิกยุ่งกับฉันเถอะ ขอร้องนะคะ” น้ำตาที่กลั้นไว้หลั่งริน ความอดสูถาโถมเมื่อเห็นสายตาเวทนาของเขา เธอไม่อยากถูกหลอกเป็นครั้งที่สาม ครั้งแรกตอนสิบห้า ครั้งที่สองตอนสิบแปด ตอนนี้ยี่สิบสอง..เขายังจะกลับมาป้อนหญ้าให้เธอกินอีกเหรอ? ขออยู่แบบเดิม ดีกว่าออกไปเสี่ยงกับคนที่เคยทำให้เจ็บเจียนตาย ไม่มีอะไรการันตีว่าเขาจะไม่ผิดคำพูด เธอขอใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง โดยการถอยห่างจากคนที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างพระเพลิง “อย่าดื้อได้ไหม พี่กำลังพยายามแก้ไขสิ่งที่พลาดอยู่นี่ไง” พยายามใจเย็นอย่างที่สุด “ถ้าอยากช่วยเพราะรู้สึกผิดก็อย่าเลยค่ะ อยากทำเพื่อฉันจริง ๆ คุณก็ช่วยทำเป็นไม่รู้จัก ปล่อยให้ฉันมีชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น พวกเราไม่ควรเจอกัน ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน” “พี่ทำไม่ได้” พระเพลิงส่ายหน้า พยายามรั้งเธอเข้ามากอดแต่ถูกปัดป้อง “คุณทำมาแล้ว! ทิ้งคนอย่างฉันมันง่ายนิดเดียว แค่หายหัวไปเลย หายไปเฉย ๆ ไม่เคยมีคำบอกเลิกสักคำ” “ฟู่..” เขาพู่ลมออกจากปาก เพราะกำลังถูกประชด เออดิ..ตอนเธออายุสิบห้าเขาเองแหละที่ขาดการติดต่อ แต่พอวนกลับมาเจอครั้งที่สอง ก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่กระสันอยากเข้าใกล้ เห็นเป็นไม่ได้ต้องหูตั้งเข้าหา ขยานีมีแรงดึงดูดมหาศาล เขาชอบหน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ ผิวกายแบบนี้ มันถูกใจไปเสียหมด ครั้งนี้ก็เช่นกัน..ถึงเธอจะเคยเป็นชู้กับใคร ก็ไม่มีผลกับความอยากของเขาสักนิด อย่างน้อยก็เคยเป็นผัวคนแรก ผัวที่เธอพร่ำบอกว่ารักมากมาย ขยานีกระตุ้นอารมณ์ลุ่มลึกเสมอมา กับคนอื่นไม่เคยเป็น แต่จะเป็นกับเธอคนนี้คนเดียว สำหรับเขา..มูฟออนเป็นวงกลมไม่เกินจริง “อย่าลืมว่าคุณมีคู่หมั้น” “ยังไม่หมั้น” เขาแก้ต่างให้ตัวเอง "แต่ก็มีเจ้าของถูกไหมคะ ไม่ยุ่งกับฉันคือสิ่งที่ควรทำ เพราะถ้าคุณตารู้ฉันตายแน่" "ทำไมไม่เชื่อใจกันบ้างวะ" "จะให้เชื่อได้ยังไงในเมื่อคุณเคยทิ้งฉันมาแล้ว ทิ้งให้รอ ทิ้งให้จมอยู่กับคำหลอกลวง" ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริก ความร้าวรานฉายชัดในแววตา ขอให้เชื่อใจเหรอ?..เขาเอาอะไรมามั่นว่าเธอจะกลับไปกินหญ้าอีก "อยากให้ขนมคิดดี ๆ ลองชั่งน้ำหนักดู ระหว่างอยู่บ้านนั้นกับออกมาอยู่ข้างนอก แบบไหนดีกว่ากัน" เขาจะลากไปตอนนี้เลยยังได้ แต่ไม่อยากทำ กลัวเธอโกรธ กลัวเธอเสียใจ กลัวไปหมด "คุณต่างหากที่ต้องกลับไปคิด ว่าพร้อมรับผิดชอบฉันจริง ๆ แล้วใช่ไหม" "..........." พระเพลิงพูดไม่ออก ไม่คิดจะถูกสวนกลับทันควัน ภายนอกขยานีดูอ่อนแอยอมคน แต่เปล่าเลย..เธอแข็งแกร่ง เพียงแต่บางสถานการณ์อาจยอมเพราะอยากเอาตัวรอด "อย่ามองฉันด้วยสายตาสมเพชเวทนา เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกต่ำต้อยและด้อยค่าลงไปอีก" เพราะมีบาดแผลเธอเลยไม่เชื่อใจ ในอดีตคิดว่าเขารัก แต่สุดท้ายก็เป็นความอยากของผู้ชายทั่วไป พระเพลิงหลอกฟันเธอจนยับแล้วหายตัว เธอจึงหัวใจแตกสลายเพราะคำลวง ความเจ็บปวดจึงฝังรากลึกมาถึงทุกวันนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม