ตอนที่ 5
“ซุ่มซ่ามจังเลย..ริสา!!! เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย..หึม์!!!” ศศิธรรีบเข้ามาประคองบุตรสาวแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูแค่ลื่น”
“คุณจะรีบไปไหนหรือเปล่าครับ” ฌาวีร์ถามหญิงสาว
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้รีบไปไหน”
“งั้นก็เข้าไปคุยด้วยกันเลยสิครับ คุณจะได้ช่วยคุณแม่ตัดสินใจ” ฌาวีร์พูดขึ้น จากนั้นทั้งสามคนจึงเข้ามานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก
“เมื่อวานทางบริษัทของผมส่งผู้ช่วยมาดูบ้านแล้วก็คุยเรื่องราคาไปแล้วรอบหนึ่ง แต่เห็นว่ายังตกลงราคากันไม่ได้ วันนี้ผมก็เลยลองมาด้วยตัวเอง” ฌาวีร์เอ่ยขึ้นหลังจากดื่มน้ำที่อลิสายกมาเสิร์ฟเขาเมื่อสักครู่
“คืออันที่จริงฉันก็ได้คุยกับลูกสาวแล้วว่า เราจะไม่ลดราคาบ้านไปมากกว่านี้ ราคาที่ลงขายเป็นราคาที่เราเห็นว่ามันถูกสุดแล้วค่ะ” ศศิธรเอ่ยขึ้น ฌาวีย์ครุ่นคิดในใจ ก่อนที่อลิสาจะช่วยคุณแม่ของเธอพูดโน้มน้าวฌาวีร์ต่อไปอีกว่า
“รับรองว่าถ้าคุณซื้อบ้านของเราไป ที่ดิน 3 ไร่ในทำเลทองแบบนี้ แค่ที่ดินเปล่า ๆ ฉันว่ามันก็คุ้มแล้วนะคะ” อลิสาเอ่ยขึ้น
“ผมเข้าใจครับ คุณอลิสา” เขาจำชื่อเธอมาจากเบอร์โทรที่ได้มา
“คุณฌาวีร์ลองคิดดูนะคะ..คุณได้บ้านที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในบ้านแบบครบครัน ทำเลที่ตั้งก็ดี รับรองว่าถ้าคุณย้ายมาอยู่อาศัยในย่านนี้คุณจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ” ศศิธรเอ่ยเสริมคำพูดของบุตรสาวอีกครั้ง
“อันที่จริงผมก็ไม่ได้คิดจะย้ายมาอยู่หรอกครับ..คุณศศิธร คือทางบริษัทจะเอาที่ดินตรงนี้ไปทำสวนสนุกเฉย ๆ เพราะที่ตรงนี้มันติดกับที่แปลงใหญ่ของผมที่อยู่ทางด้านหลังบ้านของคุณ” เขาพูดขึ้นจนทำให้ทั้งสองคนหน้าถอดสี
ฌาวีร์จำต้องขอตัวกลับ เมื่อพบว่ามีสายเรียกเข้าจากผู้มารดา ในขณะที่อลิสาและศศิธรผู้เป็นมารดาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนยอมลดราคาให้ เพราะใจหนึ่งสองแม่ลูกก็นึกเสียดายที่บ้านของเธอ..จากนี้มันจะต้องกลายเป็นสวนสนุก!
“แสดงว่าถึงยังไงคุณก็จะไม่ยอมลดราคา” เขาย้ำกับเธอก่อนกลับ
“ค่ะ ฉันกับคุณแม่ได้ตกลงกันแล้ว” อลิสายืนกรานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ฌาวีร์ตัดสินใจขอตัวกลับ และบอกว่าตนเองจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาที่บริษัทอีกรอบ ชีอีโอหนุ่มเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้าน อันที่จริงเขาก็ไม่อยากเล่นแง่อะไรกับสองแม่ลูกเลย หากว่ามารดาของเขาไม่โทรตามเสียก่อน เขาแค่อยากอยู่คุยกับอลิสาให้นาน ๆ ก็เท่านั้นแล้วค่อยตกลงซื้อบ้านของเธอ ฌาวีร์มองเห็นสีหน้าเศร้าหมองหลังจากที่เขาพูดว่าจะเอาที่ดินของเธอไปทำสวนสนุก เพราะนั่นก็หมายความว่าบ้านของเธอคงจะไม่หลงเหลืออีกแล้ว
อลิสาตามมาเปิดรั้วบ้านให้เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยขึ้นกับเธอก่อนกลับ
“อันที่จริงผมได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมาว่าบ้านของคุณกำลังจะถูกยึด ราคาที่ผมต่อรองไปผมว่าคุณกับแม่ควรจะรีบคว้ามันเอาไว้” เขาพูดขึ้นกับเธอเพียงสองคนที่หน้าบ้าน ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถ
“ด้วยราคาที่คุ้มค่าและทำเลที่น่าสนใจ ราคานี้ฉันขอไม่ลดค่ะ” อาลิสายังยืนยันคำเดิมอย่างไม่ยอมแพ้ ฌาวีร์ทึ่งในความสวยและเด็ดเดี่ยวของเธอ หญิงสาวคนนี้เป็นคนช่างเจรจาต่อรอง ซึ่งมันช่างถูกใจเขาเหลือเกิน
“ถ้าไม่ลดผมก็ไม่ซื้อ” เขาแกล้งพูดก่อนจะนึกยิ้มอยู่ในใจ
“งั้นก็เชิญค่ะ หมดธุระของคุณแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่แคร์
ฌาวีร์ขับรถออกจากบ้านของเธอไม่ทันไรเขาก็รู้สึกเสียดาย ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เสียดายที่ต่อรองราคาไม่สำเร็จ เพราะถึงเธอกับแม่จะไม่ลดราคาให้เขาก็จะซื้ออยู่ดี แต่ที่ต้องเสียดายก็คือเขาไม่มีโอกาสได้พูดความในใจกับเธอต่างหาก
“คุณแม่โทรตามผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” พอกลับไปถึงที่ทำงานในช่วงเย็นฌาวีร์ก็ตรงเข้าไปถามมารดาถึงห้องทำงานของคุณอุทุมพร
“แกหายหัวไปไหนมา..ฌาวีร์” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยเสียงเข้ม ฌาวีร์เดาว่าคนซื่ออย่างวิฑูรย์คงบอกความจริงกับมารดาไปหมดแล้ว ฌาวีร์จึงบอกความจริงกับผู้เป็นมารดา
“ผมไปเจรจาเรื่องซื้อที่ดินทำสวนสนุกมาครับ”
“บ้านพร้อมที่ดินที่ลูกให้วิฑูรย์ไปติดต่อนั่นน่ะเหรอ”
“ครับ”
“ไม่ต้องไปติดต่อให้เสียเวลาหรอก รอซื้อจากธนาคารได้เลย แม่ให้เลขาฯ ไปสืบมาหมดแล้ว” อุทุมพรบอกกับบุตรชาย เพราะอย่างไรพอธนาคารยึดราคามันก็จะต้องถูกกว่านี้ ซึ่งฌาวีร์ก็คิดแบบนั้น แต่เขาเองสงสารอลิสากับแม่ของเธอ เพราะศศิธรได้เล่าความจริงให้เขาฟังตอนที่พาเดินชมบ้านว่า สามีของเธอเป็นหนี้และก็ฆ่าตัวตาย เธอจึงอยากจะขายบ้านเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ของสามี
“งั้นก็แล้วแต่แม่เลยครับ” ฌาวีร์แกล้งพูดขึ้นและทำเป็นไม่สนใจ เพราะเขาคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็จะช่วยอลิสาและมารดาของเธอ แต่จะต้องคนปิดปากไอ้ผู้ช่วยจอมซื่ออย่างวิฑูรย์ให้ได้เสียก่อน!
“ที่แม่โทรตามแก ก็เพราะเย็นนี้เราจะแวะไปที่บ้านอรกัน” อุทุมพรบอกจุดประสงค์ที่โทรตามลูกชาย
“ไปทำอะไรครับบ้านน้าอร”
“ก็ไปแก้ตัวที่แกทำแม่เสียหน้าเมื่อกลางวันนี้ไงล่ะ” ฌาวีร์อยากจะบ้าตาย ก่อนที่มารดาจะยื่นกุญแจรถให้
“แกขับรถฉันไป ฉันไม่อยากนั่งจานบินของแกหรอก ใจจะวาย”
“ทำไมแม่ต้องให้ผมขับด้วยครับ”
“ทำไม หรือแกขับรถฉันไม่ได้..ห๊า!” อุทุมพรอารมณ์เสียกับความเรื่องมากของลูกชาย
“เปล่า!! แม่ก็ให้วิฑูรย์ขับไปสิครับ ถ้าแม่ไม่อยากขับเอง เดี๋ยวผมขับรถผมตามไปเองก็ได้นี่ครับ”
“ไม่เอา!!!..เดี๋ยวแกก็เล่นแผนสูงแบบเมื่อกลางวันนี้อีก แกต้องไปกับฉันเดี๋ยวนี้ฌาวีร์!!!” อุทุมพรออกคำสั่ง ฌาวีร์ไม่กล้าขัดใจ เพราะมารดาเคยลงโทษเขาอย่างจริงจังมาแล้ว โดยการไม่ให้เงินเขาใช้แม้แต่บาทเดียว
“เฮ่อ!!.เอาแต่ใจจริง ๆ” ฌาวีร์พึมพำและส่ายหัว แต่ก็เหนื่อยถ้าจะต้องทะเลาะกับผู้เป็นมารดาอีก จึงยอมขับรถของมารดาไปที่บ้านของอินทร์อร เพื่อไปทานมื้อเย็นตามที่มารดาสั่ง อังศนาดีใจที่เห็นฌาวีร์มาพร้อมกับมารดาของเขา แต่ฌาวีร์รู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด