โต๊ะอาหารในมุมติดวิวทะเลถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสำหรับ นักลงทุนมือทอง ภารัณและวรัญญามาก่อนเวลาเกือบสิบนาที ทันทีที่มิสเตอร์เหว่งปรากฏตัวชายหนุ่มและเลขาก็ค้อมศีรษะเป็นการให้เกียรติพลางยื่นมือทักทาย “ต้อนรับผมอบอุ่นเสมอเลยนะ อาคุณรัณ” มิสเตอร์เหว่งคือชายชรารุ่นใหญ่หัวใจยังเด็ก เพราะใบหน้า เปื้อนยิ้มและนำเทรนด์ตลอดเวลา ท่านชื่นชอบศิลปะและประกาศมันผ่านเครื่องแต่งกายสีสันฉูดฉาด แต่มาดนักลงทุนผู้เก่งกาจยังคงติดตัวท่านผ่านคำพูดคำจาคมคายและวิสัยทัศน์กว้างไกล “ผมดีใจที่ได้เจอท่านที่นี่อีกครับ” “นั่งลงๆ ทั้งคู่นั่นแหละไม่ต้องพิธีรีตองอะไรหรอก” มิสเตอร์เหว่งตบบ่าภารัณ ขณะส่งแววตาเอ็นดูกึ่งแซวสองหนุ่มสาว “อาคุณรัณพาเลขาคู่ใจมาด้วยตลอด สงสัยรอบหน้าผมคงต้องพาเมียกับลูกมาแนะนำให้พวกคุณรู้จักบ้าง” “ยินดีครับ” ภารัณเพียงยิ้มบางๆ ปล่อยคำพูดไหลไปตามน้ำ ไม่คิดแก้ตัวหรืออธิบายเพิ่มเติมด้วยเห็นว่าไม่สำคัญ