ความวาบหวามยามเช้ากินเวลาเกือบสองชั่วโมง…
ทันทีที่ภารกิจบนเตียงจบลง ท่อนแขนกำยำก็ช้อนตัวเธอ เข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มบริการคนตัวเล็กด้วยท่าทีอ่อนหวาน ไม่ว่าเขาสัมผัสบริเวณส่วนใดของร่างกายล้วนแฝงความเสียวซ่านไป เสียหมด เมื่อผลัดกันแต่งตัวเรียบร้อย เขาอุ้มฟ้ารดาลงมาชั้นล่างของคฤหาสน์ การกระทำแสนประหลาดดึงดูดทุกสายตาให้จ้องมอง ไม่เว้นแม้กระทั่งร่มฉัตรซึ่งนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่อีกฝั่งหนึ่ง แต่มีหรือที่คนอย่างภารัณจะสนใจ ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ปลายเท้าฟ้ารดาแตะพื้น กระทั่งทั้งคู่หยุดยืนบริเวณหน้ามุข
“เหงาตอนไหนไลน์หาพี่นะ เย็นนี้ไม่แน่ใจว่าจะกลับมา ทานข้าวด้วยทันหรือเปล่า แต่ถ้าฟ้าอยากดินเนอร์ข้างนอกก็ ส่งข้อความมาบอกละกัน พี่จะรีบเคลียร์งานแล้วสั่งคนขับรถไปส่งฟ้า”
เขาวางเธอลงมือหนาก็ลูบเรือนผมงามด้วยความเอ็นดู พักหลังชายหนุ่มค่อนข้างยุ่งเนื่องด้วยบริษัทมีหลายโพรเจกต์ที่ต้องจัดการให้เสร็จสิ้น
“โอเคค่ะ ฟ้าอยู่บ้านสัญญาจะไม่ดื้อไม่ซน”
ฟ้ารดาผุดรอยยิ้มสดใส จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าจูบเบาๆ ข้างแก้มคนหน้านิ่ง
“รับปากแล้วนะ” แววตาดุๆ จ้องกลับประหนึ่งกำราบเด็กดื้อ แต่แท้จริงภารัณแค่อยากกระเซ้าเธอเล่น
“ค่ะ พี่รัณรีบกลับนะฟ้าคิดถึง”
รอบกายหนุ่มสาวบัดนี้เต็มไปด้วยไอรักคละคลุ้ง ท่าทีหวานชื่นตรงหน้าคล้ายคู่รักที่เพิ่งผ่านประตูวิวาห์หมาดๆ นึกดูอีกทีฟ้ารดาความจำเสื่อมก็ดีเหมือนกัน เพราะหลายเดือนก่อนหน้าความสัมพันธ์ทั้งคู่เรียกได้ว่าดิ่งลงเหว เขาทำตัวสารเลว ส่วน หญิงสาวถึงวางท่าไม่สะทกสะท้านแต่แท้จริงคงเจ็บปวดไม่น้อย
เธอก่อกำแพงบางอย่างในใจใช่ภารัณจะดูไม่ออก เพียงแต่เลือกเพิกเฉยปั้นหน้าเย็นชาไม่สำนึกทั้งที่การกระทำแบบนี้คือ ฆ่าตัวตายทางอ้อมชัดๆ
“อืม เจอกันคืนนี้”
พูดจบแววตาเขาก็ส่งประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา คำว่า ‘เจอกันคืนนี้’ ทำฟ้ารดาหน้าแดง เพราะสมองพานจินตนาการถึงลีลารักเร่าร้อนเมื่อครู่ ภาพภารัณเร่งเร้ากายเข้าหาขณะตน เปล่งเสียงครวญคราง และเสียวซ่านปานขาดใจยังติดหนึบอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม
“อ้ออีกอย่างหมอนัดเรื่องลูกเมื่อไรบอกวันพี่ล่วงหน้า หน่อยนะ ไม่ใช่อะไรหรอกช่วงนี้พี่ยุ่งมากกลัวไม่มีเวลาไปเจอ เจ้าแสบกับฟ้า”
นิ้วโป้งจรดนิ้วชี้นวดคลึงหลังมือนุ่มก่อนปล่อยลง พอคิดถึงเรื่องลูกทีไรแววตาเรียบเฉยพลันมีชีวิตชีวาจนต้องยกขึ้นลูบลำคอแก้เขิน ภารัณยิ้มบางๆ ให้เธอด้วยอยากกลบเกลื่อนความขี้เห่อของตัวเอง
“ค่ะ” ฟ้ารดาพยักหน้าจากนั้นก็โบกมือลาสามีที่ก้าวขึ้นรถหรูขับออกไป เธอมองตามกระทั่งสุดขอบรั้วคฤหาสน์พันล้าน
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองหลวงคือสถานที่ทำงานของภารัณ…
ชายหนุ่มก่อตั้ง ‘เดอะวันเรียลเอสเตต’ หลังเรียนจบพร้อมเพื่อนสนิทคนสำคัญอย่าง ‘อัสดง’ ลูกชายคนเดียวของรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ โครงการแรกที่พวกเขาทำเริ่มต้นด้วยหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมือง จากนั้นก็เพิ่มพูนขึ้นมาเรื่อยๆ ไต่ระดับตั้งแต่กลุ่มลูกค้าฐานะปานกลางจนตอนนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนมีเงิน
“หายหน้าหายตาไปเลยนะมึง น้องฟ้าเป็นไงบ้างวะกูได้ข่าวว่าวันนั้นเจ็บหนัก”
อัสดงถามพลางย่อกายนั่งลงตรงข้ามภารัณ
“ออกจากโรงบาลเรียบร้อยตอนนี้พักอยู่บ้าน” เสียงทุ้ม เรียบเฉยฟังดูไม่เคร่งเครียด สีหน้าเสือหนุ่มไม่ได้บอกแบบนั้น อัสดงสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างรอบตัวอีกฝ่ายชัดเจน และค่อนข้างแน่ใจว่าพลังงานที่ว่าดูท่าจะเป็นลบมากกว่าบวก
“เมียออกจากโรงบาลก็ต้องโล่งอกไม่ใช่เหรอวะ ทำไมมึง หน้าเหมือนตูดเลย”
“ก็ใช่แต่จะพูดไงดีล่ะ”
ภารัณพรูลมหายใจหนักๆ ตวัดปากกาในมือไปมาคล้ายกำลังคิดว่าควรปรึกษาปัญหาในใจกับอัสดงหรือไม่ แท้จริงระหว่างตนกับ ลูกรัฐมนตรีคนนี้สามารถพูดคุยได้แทบทุกเรื่องนั่นแหละ แต่อย่างไรก็ตามคนเรามักมีด้านมืดซ่อนไว้เสมอ ถึงสนิทขนาดไหน ใช่ว่าจะรู้จักทุกซอกทุกมุม
“ฟ้าท้อง”
สุดท้ายไม่เฉลยเรื่องราวทั้งหมด แต่บอกกล่าวเพียงส่วนสำคัญซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
“เฮ้ย คอนแกรตด้วยว่ะเพื่อน มึงต้องดีใจไม่ใช่เหรอวะกำลังจะเป็นพ่อคนนะเว้ย”
“กูดีใจเพราะมีลูกน่ะใช่ แต่ระหว่างกูกับฟ้าไม่แน่ใจว่าจะไปต่อได้แค่ไหน”
“เดี๋ยวนะ อย่าบอกว่าที่เขาลือกันเรื่องมึงมีเมียน้อยเป็นนางเอกพรีเซนเตอร์น้ำเมาที่มึงหุ้นกับไอ้ภพเป็นเรื่องจริง”
ระภพคือหนุ่มไฮโซเจ้าของโทรทัศน์ช่อง 23 เพื่อนสุดซี้ปึ้ก อีกคนในกลุ่มซึ่งภารัณลงหุ้นธุรกิจน้ำเมาด้วยไม่นาน แท้จริงกลุ่มเขายังมี ชนนท์ ลูกชายเจ้าพ่อโรงแรมชื่อดังซึ่งมีสาขาแทบทุกจังหวัดในประเทศไทย
พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนซึ่งอยู่ด้วยกันแทบทุกช่วงเวลาใน รั้วมหาวิทยาลัย ทว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ เพื่อเติบโตตามเส้นทางที่ตนเลือก แต่นานทีหากมีวันว่างก็นัดสังสรรค์ไม่ขาดหาย
“คนอย่างกูไม่นิยมมีหลายเมีย” ภารัณเน้นย้ำหนักแน่น
“ค่อยโล่งอก จริงๆ กูเข้าใจนะเจอของสวยๆ งามๆ แม่งก็ อยากได้เป็นธรรมดา แต่สำหรับกูการแต่งงานกับใครสักคนนั้นต้องมั่นใจว่าตัวเองจะทำหน้าที่สามีได้ดีพอ แค่เรื่องพื้นฐานอย่าง ความซื่อสัตย์เนี่ยถ้ายังทำไม่ได้ กูว่าอย่ามีเมียเหอะ อยู่โสดๆ ซื้อกินยังดีกว่า” อัสดงเอ่ยจริงจัง แม้ลุคภายนอกเขาดูเป็นหนุ่มสังคม แสนเจ้าชู้ คั่วไปเรื่อยแต่ไม่เคยคิดย่างกรายไปทำผิดศีลธรรม
“เอาเถอะ กูไม่รู้ระหว่างมึงกับน้องฟ้ามีปัญหาอะไร แต่มึงอย่าลืมวันแรกที่อยากได้เขาเข้ามาในชีวิตแล้วกัน น้องฟ้าเป็นคนดี แค่ไหน ข้อนี้กูว่ามึงน่าจะรู้ดีกว่าใคร”
“พูดงี้ไม่ได้แอบรักเมียกูใช่ไหม”
เขาหรี่ตามองเพื่อนเหมือนจับพิรุธ
“เพิ่งรู้สึกเหรอ”
อัสดงตอบรับกวนๆ นั่นยิ่งทำให้ภารัณปลายเท้ากระดิก
“ฮ่าๆ นี่กูเป็นเพื่อนมึงยังตีนกระตุกขนาดนี้ ถ้าวันนึงเลิกกันขึ้นมาน้องฟ้ามีผัวใหม่มึงไม่บ้าตายเหรอวะ”
“ไม่เสือก”
เสือหนุ่มตวัดตามอง แค่จินตนาการว่าอนาคตอาจมีใครสักคน เข้ามาทำหน้าที่สามีเธอแทนแบบที่เพื่อนปั่นหัว ภารัณก็กำหมัดแน่นแล้วนี่น่ะหรือคนที่บอกตัวเองไม่รักฟ้ารดา และสร้างเหตุการณ์หลายอย่างเพื่อบีบให้เธอยอมตัดขาดความสัมพันธ์ ช่างย้อนแย้งเหลือเกิน
“เอาเหอะกูสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ไม่กวนมึงแล้วดีกว่าอย่าลืมดูข้อมูลเรื่องประมูลในซองด้วย”
อัสดงส่ายหน้าพลางพ่นลมหายใจพรืด เจ้าของร่างสูงโปร่งเอ่ยจบก็วางเอกสารลงบนโต๊ะก่อนหมุนปลายเท้าก้าวออกนอกห้องทำงานทันที
คล้อยหลังอัสดงมือแกร่งยกกุมขมับ เขามีหลายเรื่องให้ ปวดหัว ทั้งงานและความรักระยะหลังมานี้เหมือนเครียดไปเสีย ทุกอย่าง ชายหนุ่มเอนกายพิงเก้าอี้หนังสีดำ จากนั้นก็ปิดเปลือกตาลงเชื่องช้าทบทวนเหตุการณ์ซึ่งผ่านมากว่าหลายสัปดาห์ ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ในหัวสมองมีแต่เรื่องฟ้ารดา… แค่ฟ้ารดาผู้เดียว
ผ่านไปพักใหญ่จึงลืมตาขึ้น มือหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องบางกดเข้าไปในกล่องข้อความไม่พบหญิงสาวที่รอคอย แต่ดันเป็นใคร บางคนซึ่งก่อกวนไม่เลิก
การกระทำเจ้าหล่อนน่ารำคาญเหลือทน สุดท้ายชายหนุ่มจำต้องตอบกลับอีกฝ่ายเพื่อตัดจบปัญหาค้างคา เพราะคนอย่างเขาไม่เคยใช้งานใครฟรี ทันใดนั้นโลเคชันสถานที่นัดหมายถูกส่งกลับมายังกล่องข้อความเช่นเดิม ผับหรูย่านทองหล่อคือปลายทางสำหรับการเปิดม่านเจรจาในค่ำคืนนี้
นาฬิกาเดินหน้าเข้าสู่เวลาย่ำค่ำ ท้องฟ้ายังคงมีแสงสว่างรำไรอีก ไม่นานราตรีกาลอันมืดมิดคงมาเยือน
สองขาก้าวเข้ามาในผับหรูซึ่งมีเพื่อนสนิทเป็นหุ้นส่วน คนสำคัญ รอบกายไม่มีลูกค้าเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน ภารัณก้มดูนาฬิกาข้อมือเรือนแพงพบว่าอีกไม่กี่นาทีเวลานัดหมายก็มาถึง บริกรในเครื่องแต่งกายเรียบร้อยโค้งกายต้อนรับ และนำทางไปยังห้องวีไอพีซึ่งมธุรสจองไว้
ชายหนุ่มแค่นยิ้มไม่แปลกใจทำไมหญิงสาวเลือกที่นี่ ระภพ ถือหุ้นใหญ่ลับๆ แถมยังเป็นเจ้าของต้นสังกัดที่ดูแลมธุรสอยู่
นั่นหมายความว่าวีรกรรมฉาวโฉ่ไม่มีทางเล็ดลอดออกไป มันไม่มีวันปล่อยดาราสาวผู้ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำให้เสียหาย เหตุผลหลักก็เพราะหล่อนคือสินค้าชั้นดี สำหรับเจ้าพ่อวงการบันเทิงการสนับสนุนหรือลงทุนกับใครสักคนเกิดขึ้นเพราะหวัง เม็ดเงิน ไม่ใช่ความหลงใหลหรืออะไรเทือกนั้น
“มาแล้วเหรอคะ”
เมื่อประตูอ้าออกก็พบนางเอกสาวนั่งจิบไวน์รออยู่ เจ้าของ ร่างขาวผ่องสวมเกาะอกผ้ากำมะหยี่สีแดงคลี่ยิ้มทักทายผู้มาใหม่ ภารัณเห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจแรงราวกับว่าการเผชิญหน้ากัน ครั้งนี้ช่างน่าหนักอกหนักใจ สองขาก้าวเข้าไปย่อกายนั่งลงบนโซฟาโค้งยาว
“ทำไมคุณไม่ส่งเลขบัญชีให้ผม” เสียงเข้มถามตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม เพราะอยากจบปัญหาครั้งนี้เต็มแก่ แต่อีกฝ่ายดันไม่ให้ความร่วมมือ
“ไม่เจอกันนาน หวานคิดถึงคุณมากนะคะ”
“หวาน” คนหน้านิ่งจ้องหล่อนด้วยแววตาจริงจัง
“คุณรัณอย่าทำซีเรียสขนาดนั้นสิคะ จิบไวน์ก่อนหวานเตรียมไว้ให้คุณแล้ว”
หล่อนขยับกายเข้าหา ช้อนสายตาออดอ้อนด้วยจริตยั่วยวน
ชายหนุ่มผู้แสนเย็นชาส่ายหน้าปฏิเสธ ขณะเดียวกันมือสากก็เลื่อนแก้วกลับไปตามเดิม
“คุณดื่มเองสิ ทำไมต้องเอามาประเคนให้ผม”
เขาเลิกคิ้วถามจากนั้นก็หยิบเครื่องมือสื่อสารออกจากกระเป๋ากางเกง วางมันลงบนโต๊ะหินอ่อนในระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกล ดังนั้นจึงสามารถบันทึกบทสนทนาในห้องลับนี้ได้อย่างชัดเจน
“หวานก็ดื่มอยู่นี่ไงค่ะ”
หล่อนปั้นหน้าใสซื่อแม้ความจริงวางแผนเผด็จศึกภารัณไว้ เสร็จสรรพ ในแก้วนั่นมียาแต่เมื่อถูกปฏิเสธแสดงว่าเขาไหวตัวทัน
“ผมหมายถึงแก้วนี้” ภารัณยกแก้วไวน์จ่อริมฝีปากชมพู เจือแดง ท่าทีใกล้ชิดเกินเหตุของชายหนุ่มถ้าเมื่อก่อนหล่อนคงดีใจเนื้อเต้น
“ดื่มสิครับ”
กลิ่นน้ำหอมราคาแพงบนเรือนกายกำยำซึ่งขยับเข้าใกล้จน เนื้อแนบเนื้อทำดาราสาวอึดอัด มธุรสลอบกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยกลัวเสือร้ายนำเรื่องนี้ไปบอกเจ้านายหนุ่ม การวางยาปลุกเซ็กซ์ใครสักคนไม่ใช่สิ่งควรทำ มธุรสรู้ดี แต่จะฝืนอย่างไรเล่าเมื่อใจอยากครอบครองเขา ยอมเอาชื่อเสียงมาเสี่ยงเข้าร่วมขบวนการหลอกฟ้ารดา หล่อนไม่มีทางกลับไปมือเปล่า
“หวานเมาแล้ว ไม่เอาดีกว่าค่ะ”
พอปฏิเสธก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยือกเย็น สีหน้าคนหล่อเวลานี้ทั้งน่ากลัวและน่าเกรงขาม เขาวางแก้วกระทบโต๊ะเสียงดัง
“พอเถอะหวานเลิกเล่นละคร มันไม่เนียนผมดูออก” เสียงทุ้มติดรำคาญ
“คุณเอาเลขบัญชีมาจะได้จบเรื่องบ้าๆ นี้สักที”
“แต่หวานอยากอยู่กับคุณ หวานชอบคุณ” มธุรสคว้าท่อนแขนกำยำจากนั้นก็ตัดสินใจลุกขึ้นนั่งคร่อมตักแกร่งทันที
“คุณอยากเป็นเมียน้อยผมหรือไง” ชายหนุ่มว่าขณะดวงตา คู่คมจ้องลึกลงไปในตาคู่สนทนา
“ถ้าหวานยอมเป็นเมีย คุณจะยอมให้หวานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณได้ไหม”
“นางเอกชื่อดังอย่างคุณยอมเป็นเมียน้อยผัวคนอื่น ไม่สนศีลธรรมบ้างเลยเหรอ” เรียวปากหยักยิ้มบางๆ แต่ดวงตาเขาไม่ได้ยิ้มตามแม้แต่น้อย
“ความทุกข์ของคนอื่นหวานไม่แคร์หรอกค่ะ”
“นั่นสินะ คุณดูเป็นคนแบบนั้นไม่งั้นคงไม่กล้ารับงานนี้หรอก จริงไหม”
มือหนาสัมผัสบนร่างอรชรซึ่งผู้ชายค่อนประเทศถวิลหา… แต่ไม่ใช่คนอย่างภารัณ
เมื่อลงหลักปักใจกับใครแล้วเขาไม่มีทางเปลี่ยน ดังนั้นจึงผลักมธุรสจนหล่อนกระเด็นเกือบตกโซฟา ร่างสง่าลุกยืนเต็มความสูง มือคว้าโทรศัพท์เครื่องบางซึ่งแอบบันทึกบทสนทนาอุบาทว์ไว้ แต่ต้น คลิปนี้หลุดออกไปอนาคตในวงการบันเทิงหล่อนคงจบเห่ ต่อให้มีอีกสิบระภพก็ไม่สามารถกู้หน้าดาราสาวกลับมาได้
“คุณรัณนี่มันหมายความว่ายังไง” เสียงหล่อนเบาหวิว
“เมื่อกี้คุณบอกความทุกข์ของคนอื่นคุณไม่แคร์ใช่ไหม แต่ โทษที คนอื่นที่คุณว่านั่นเมียผม และบังเอิญว่าผมแคร์ฟ้ามากด้วย”
“…”
“เพราะผมรักเมียผม!” พูดจบก็หันหลังเดินหนี ก่อนประตูบานใหญ่จะปิดลงภารัณได้ยินเสียงกรีดร้องปนสาปแช่งเป็นระยะแต่มีหรือปีศาจเลือดเย็นจะสนใจ หากหยิบยื่นโอกาสแล้วดันไม่คว้าไว้ก็ช่วยไม่ได้ มธุรสโง่เอง