"ทำไมกูต้องทำงั้นวะ ใครเข้ามากูจะกระทืบให้เละเป็นขี้แน่"
คำพูดที่ร่างกำยำแปลงออกมาทำพวกมันชะงักที่จะเข้ามาทันที และคนที่หัวเสียที่สุดคือไอ้หมอก ที่รอให้ลูกหาบเข้ามาถึงตัวเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาแม้แต่คนเดียว
"ไฟไปเถอะ ฝนตกลงมาแล้ว" คนตัวเล็กกระตุกเสื้อเขาเบาๆ เพราะตอนนี้เม็ดฝนเม็ดเล็กๆ ได้ร่วงโรยลงมาจนโดนผิวเนื้อของเธอ อีกทั้งวันนี้เธอยังใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้น
ไฟไม่ได้พูดอะไรเขาเอื้อมมือคว้าไว้ที่ข้อมือเล็กก่อนจะดึงให้เดินไปอีกทาง แต่แล้วเดินไปได้แค่เพียงสามก้าวข้อมือของเธอก็โดนใครอีกคนกระชากออกด้วยความแรงจนปลิวหลุดออกจากมือเขา
"อ๊ะ!" ปิ่นมุกอุทานอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นทีเผลอ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงหลุดหล่นลงพื้นจนหน้าจอแตก และเธอไม่มีโอกาสที่ก้มลงเก็บเพราะอีกฝ่ายดึงแขนแรงมากจนต้องนิ้วหน้า
เธอตั้งตัวไม่ติด รู้สึกใจหวิวลอยจนหล่นไปกองกับพื้น
"หึ! คิดเหรอว่ากูจะยอมให้มึงไปง่ายๆ ตัวมึงน่ะไปได้แต่ผู้หญิงกูขอ..." หมอกเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอบกุมข้อมือของเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ
"ปล่อยนะ" คนตัวเล็กพยายามบิดแขนออกจากการควบคุมของหมอนี่ แต่ยิ่งต่อต้านอีกฝ่ายกับเพิ่มแรงจนต้องนิ้วหน้า
มือเธอต้องแดงอย่างไม่ต้องสงสัย สีผิวของเธอตัดกับอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน
"เป็นพวกชอบลอบกัดทีเผลอว่างั้น?" ไฟจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง เขาไม่ได้แสดงสีหน้าเซอร์ไพรส์หรือตกใจอะไร ได้แต่แค้นหัวเราะในลำคอเท่านั้น คนนอกไม่รู้ว่าตอนนี้ข้างในเขาแทบจะลุกเป็นไฟแล้ว
"เผลอไม่เผลอกูก็แย่งมาได้แล้วกัน หึ! สวยไม่เบาเลยนี่หว่า" อีกฝ่ายยิ้มมุมปากพลางก้มหน้ามองเธอ อีกทั้งยังพยายามจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็กอีกด้วย
"ปล่อยเธอซะ.." ไฟเอ่ยเสียงนิ่งเรียบแต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน เพื่อให้อีกฝ่ายปล่อยเธอ ปิ่นมุกสบตาไฟนิ่งเขาเองก็มองใบหน้าเธอเช่นเดียวกัน...
เม็ดฝนที่เทลงมาเริ่มหนักขึ้นจนเส้นผมเปียกลู่ เสื้อสีขาวเริ่มเปียกและแนบชิดลงบนผิวกายจนเห็นไปถึงเสื้อซับในลูกไม้สีดำ...
"กูไม่ปล่อย คืนนี้กูจะเอาเด็กมึงว่ะ สวยๆ แบบนี้เอาให้ครางลั่นห้อง..." ยิ่งได้เห็นผิวเนื้อขาวที่แนบกับเสื้อ อีกฝ่ายกับส่งสีหน้าหื่นกระหายมาให้คนตัวเล็กจนรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน
"กูบอกให้มึงปล่อย..." ไฟเริ่มกดเสียงอีกครั้งเพื่อหวังให้ไอ้หมอกปล่อยเธอ เขาไม่อยากรอเวลาอีกต่อไปแล้ว ฝนที่ตกลงมาทำเสื้อสีขาวของเธอเปียกโชก เขาไม่อยากให้ใครเห็นทั้งนั้น
"แล้วทำไมกูต้องปล่...อั๊ก!!"
อีกฝ่ายพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนร่างกำยำโผล่เข้ามาถีบกลางอกเข้าอย่างจัง จนฝ่ามืออีกฝ่ายที่กุมข้อมือเธอหลุดออกทันที วินาทีนั้นไฟซัดใบหน้าอีกฝ่ายซ้ำทันที พวกเขาตะบี้ตะบัน กันอยู่ครู่ใหญ่จนเปียกปอนด้วยกันทั้งคู่
แต่ถือว่าโชคยังดีที่เหล่าบรรดาลูกหาบของอีกฝ่ายไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามปราม หรือเข้ามาร่วมวงในครั้งนี้ เพราะอาจเห็นแรงกระทืบที่ไฟกระทำต่ออีกฝ่ายจนเรียกว่าเละ... แต่เหมือนไฟยังไม่สะใจตั้งท่าจะเข้าไปกระทืบซ้ำอีกครั้งทั้งที่อีกฝ่ายร้องโอดโอยนอนกุมหน้าท้อง ใบหน้าเปื้อนเลือดอยู่บนพื้น
"ไฟพอแล้ว นะขอร้องล่ะ" คนตัวเล็กรีบเข้ามากอดเอวหนาเอาไว้ เพราะดูเหมือนคนที่นอนอยู่บนพื้นจะไม่ไหวแล้ว โดนเขาซ้ำอีกรอบหมอนี่ได้ตายแน่
เดี๋ยวก็ติดคุกหรอก...
"กูบอกให้ปล่อยแต่แรกก็จบแล้วไอ้สัส ต้องรอให้กูลงมือก่อนถึงจะยอมปล่อยว่างั้นเหอะ" ไฟชี้นิ้วอย่างคาดโทษ เขาฟิวส์ขาดจนแทบจะฆ่าใครได้ในตอนนี้ แต่เธอรู้ว่าเขาเองก็เจ็บด้วยเช่นกันเพราะโดนอีกฝ่ายสวนหมัดเข้าใส่ทีเผลอ
"ไปเหอะ ฝนตกหนักแล้ว"คนตัวเล็กกระตุกเสื้อเขารัวๆ ก่อนจะดึงแขนเขาให้ออกมาจากตรงนั้น แต่ร่างกำยำก็มิวาย สอดส่องสายตาไปจนทั่วก่อนจะเอ่ยทิ้งท้ายไว้
"พวกมึง! มึง! แล้วก็มึง! ดูสภาพลูกพี่ของพวกมึงเอาไว้ ถ้าไม่อยากเละแบบนี้อย่ามายุ่งกับคนของกู" คนของเขาในที่นี้อาจมีหลายความหมายอาจไม่ใช่แค่เธอ แต่เป็นเพื่อนของเขาด้วย
ร่างกำยำเปลี่ยนมากอบกุมมือเล็กของเธอก่อนจะเป็นคนจูงมือเธอออกไป แต่ถึงอย่างนั้นมือเดินผ่านโทรศัพท์ของเธอที่หล่นจนหน้าจอแตกอีกทั้งยังเปียกไปด้วยหยาดน้ำฝนที่กระหน่ำลงมา เขากลับก้มลงหยิบมันขึ้นมาส่งให้กับเธอ แล้วเดินจูงมือเล็กไปยังรถมอ'ไซต์ของตัวเองทันที
เม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายทำให้เส้นทางบนถนนถูกบดบังจนขาวโพลนไปหมด เขาที่ขับมอเตอร์ไซค์ถึงกับต้องเปลี่ยนแผน จากที่คิดว่าจะพาเธอไปส่งที่บ้าน เขากลับเลี้ยวรถไปยังที่หนึ่งทันที เพราะกลัวว่าถ้าดันทุรังจะขับรถฝ่าฝนไปอาจเกิดอุบัติเหตุก่อนถึงบ้านได้
รถเวฟไอหนึ่งสองห้าวิ่งมาจอดใต้หอพักแห่งหนึ่งก่อนจะจอดแน่นิ่งในลานใต้ถุน ร่างกำยำถอดหมวกกันน็อคออกก่อนจะพาเธอจูงมือขึ้นบันไดมายังชั้นสองของหอพัก ที่นี่ดูไม่เก่าหรือใหม่ แต่มันดูเหมือนหอพักผู้ชายที่สามารถเอาผู้หญิงขึ้นมาได้ เพราะรองเท้าที่อยู่หน้าห้องส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ชายเกือบทั้งหมดมีเพียงบางห้องที่มีรองเท้าของผู้หญิงปะปน
เขาจูงมือเธอจนมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่ง ไฟไขกุญแจเข้าไปแล้วกระตุกมือเธอให้เข้าไปในนั้น ร่างกำยำเปิดสวิตช์ไฟพร้อมกับเปิดเครื่องปรับอากาศ ทั้งเธอและเขาในตอนนี้ต่างคนต่างเปียกโชกไปด้วยหยาดฝน
"ห้องนายเหรอ" คนตัวเล็กที่ไม่รู้จะเอ่ยอะไรเลยลองถามเขาออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านี่คงเป็นห้องเขา กลิ่นหอมประจำตัวคละคลุ้งไปทั่วห้องคงเป็นห้องคนอื่นไม่ได้อย่างแน่นอน
"อือ เธอไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวเป็นหวัด นี่ผ้าเช็ดตัว" เขาพูดพร้อมกับยื่นผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนผนักเก้าอี้ส่งให้คนตัวเล็ก สายตาคู่คมเผลอมองไปยังอกดูมๆ ของเธอที่แนบชิดไปกับเสื้อสีขาว ชุดชั้นในลูกไม้สีดำมันช่างเตะตาเขาจริงๆ เขาไม่ได้ตั้งใจมอง แต่มันโคตรจะเด่นในตอนนี้
ท่องไว้... แค่สาวข้างบ้านที่เริ่มสนิทกัน (?)
"ไม่มีชุด" คนตัวเล็กเอ่ยออกมา จะให้เธอใส่ชุดที่เปียกตัวเดิมก็กระไรอยู่ แต่เขาก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเองก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกเธอ
"เลือกได้เลยอยากใส่ตัวไหนก็เอาออกมา แต่ห้ามใส่สีขาว"
"ทำไม" คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่น ทำไมต้องห้ามใส่สีขาวด้วย ปกติเธอชอบใส่เสื้อสีขาวแต่เขากลับห้ามเธอ
แต่คำพูดต่อมาของเขานั้น...
"อยากให้ดูเหรอ พอดีไม่ได้อยากดูอะไรของใครเท่าไหร่" 'มั้ง... แต่ให้ดูกูก็ไม่ขัดอยู่' ประโยคหลังเขาไม่ได้เอ่ย พอดีไม่ใช่คนดีอะไรกับเขา
ตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อลองตั้งสติดูก็แทบจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เธอเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อแล้ว เธอเปียกขนาดนี้มันต้องถอดหมดอยู่แล้ว ถ้าใส่สีขาวมันคงเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอได้ชัดเจนแน่ เขาจึงอยากให้เธอเลือกเสื้อผ้าที่ดูทึบแสง
ปิ่นมุกเม้มปากแน่น ก่อนจะเดินไปหยิบชุดในตู้เสื้อผ้าเขาออกมาหนึ่งตัวเป็นเสื้อสีเทาที่ดูใหญ่กว่าตัวเธอเกือบเท่าตัวก่อนจะรีบเดินไปยังห้องน้ำเขาทันที
ปิ่นมุกใช้เวลาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และจัดการตัวเองอีกนิดหน่อยราว 20 นาที ร่างแบบบางเหลือบมองตัวเองในกระจกเขาเพื่อดูความเรียบร้อย เมื่อไม่มีอะไรผิดปกติจึงบิดประตูห้องน้ำออกไป...
กึก!
เท้าที่ก้าวออกมาชะงักอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ เมื่อภาพตรงหน้าของเธอคือไฟที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง ร่างกำยำในตอนนี้กำลังเปลือยท่อนบนโชว์ผิวขาวๆ พร้อมกับรอยสักประปรายบนเรือนร่าง ท่อนล่างใส่กางเกงวอมขายาวสีเทา และดูเหมือนว่าเขาจะอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ไปอาบห้องใคร?
"เธออาบน้ำนานมาก ฉันไปอาบห้องเพื่อนมา เธอก็ยังอาบไม่เสร็จ กะจะอาบให้น้ำหมดกรมประปาเลยเหรอ" เขาบ่นพึมพำแต่ตาก็ยังไม่เหลือบขึ้นมามองเธอ เอาแต่พิมพ์แชทคุยกับใครก็ไม่รู้
"ปกติไม่ได้อาบนานขนาดนี้ แต่ฉันซักเสื้อด้วยต่างหาก" ก็เสื้อเธอเปียกเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรใส่กลับก็ต้องซักมันสักหน่อย แซวแรงนะนายเนี่ย!
ด้านนอกฝนยังคงกระหน่ำลงมา เธอเองที่ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงจึงเดินเข้าไปใกล้เขา เมื่อปลายเท้าหยุดอยู่ตรงริมเตียงข้างเขา ตรงนี้คนตัวเล็กสามารถเห็นรอยช้ำนิดๆ บนผิวตรงบริเวณหน้าอกเขาได้ อีกทั้งริมฝีปากเขายังมีรอยเลือดปริ่มเล็กๆ ตรงกลางริมฝีปากล่าง
เธออยากจะเบือนหน้าหนี หรือไปทำอะไรตรงอื่นซะ แต่นั่นแหละไม่รู้ทำไมถึงสนใจแผลเล็กๆ ของเขาจนได้
"นายมีเลือดตรงนี้"
คนตัวเล็กที่ไม่ทันได้คิดอะไร ก็เอื้อมปลายนิ้วชี้เข้าไปแตะริมฝีปากล่างของเขาแผ่วเบา เหมือนว่าร่างกำยำตรงหน้าจะชะงักไป ดวงตาคู่คมเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา มือหนาวางโทรศัพท์ลงข้างกาย โดยที่สายตายังคงจับจ้องไปยังใบหน้าสวยของเธอ
กลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมอาบน้ำลอยคละคลุ้งแตะจมูกเขาจนเผลอสูดมันเข้าปอด ก่อนที่เขาจะหลุบมองปลายนิ้วที่แตะอยู่บนริมฝีปากล่าง
แผล็บ~
ไฟแลบเลียริมฝีปากล่างที่คิดว่าหน้าจะมีเลือดปริ่มอยู่ตรงนั้น แต่มันดันโดนปลายนิ้วของเธอเข้า
ตั้งใจหรือแค่บังเอิญเธอเองก็ไม่อาจรู้ แต่เมื่อทำท่าทางจะชักมือกลับเขากลับยึดมือข้างนั้นของเธอเอาไว้
"มือเป็นรอย เจ็บหรือเปล่า" มือหนาเปลี่ยนจากจับข้อมือของเธอแปลเปลี่ยนเป็นสอดประสานเข้ากับร่องนิ้วของเขาก่อนจะดึงมันเบาๆ เข้าไปดูใกล้ๆ
เธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่าข้อมือแดงเล็กน้อย อาจเพราะเธอผิวขาวจัดโดนกระชากจึงขึ้นรอยได้ง่าย ตอนนี้บนข้อมือเธอก็ไม่ได้แดงจนดูน่าเกลียดอะไร
"ไม่เจ็บแล้ว มันแค่แดงน่ะ" คนตัวเล็กไม่ได้ชักมือกลับปล่อยให้เขาใช้สายตาสำรวจตรงส่วนนั้นไปอย่างเงียบๆ
มันจะไม่อะไรเลยถ้าหากสิ่งที่เขาทำหลังจากนี้จะทำให้ใบหน้าของเธอขึ้นซับสีแดงจาง เพราะไฟประทับริมฝีปากลงบนข้อมือของเธอแผ่วเบา ปลายจมูกเขาคลอเคลียอยู่ตรงนั้น ลมหายใจปัดเป่าข้อมือของเธอจนร้อนผ่าว ไม่ต่างจากใบหน้าของเธอนัก
"ทำไรเมาเหรอ" เธอเอ่ยถามเสียงแผ่ว พยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่นเพราะความตื่นเต้น หัวใจแทบจะกระดอนออกมาจากอกอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าเขาทำไปเพราะอะไร ความสัมพันธ์ระหว่างเธอทั้งคู่ก็ดูคลุมเครือมาโดยตลอด แค่เพื่อนยังไม่ใช่ ไม่รู้ไฟกำลังคิดจะทำอะไร
หาที่ลงอย่างงั้นหรือเปล่า แต่ที่แปลกใจที่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านเขา ดวงตาของเขาฉ่ำเยิ้มไปด้วยอารมณ์บางอย่างในยามที่ลอบมองเรือนร่างของเธอ ชุดของเขาตัวใหญ่ก็จริงแต่ความใหญ่ของมันก็ทำให้ไหล่ข้างหนึ่งหลุดลงมายังต้นแขน เขากลืนน้ำลายลงคอในขณะที่มองภาพนั้น
ก่อนที่เขาจะเอ่ยตอบออกมาอีกครั้ง...
"แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ"