กริ๊งงง
เสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าดังสนั่นไปทั่วห้องนอน คนที่กำลังหลับสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เธอดึงร่างกายลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างรวดเร็วแต่ทว่าไม่นานก็ถูกเชือกที่มัดข้อมือไว้กับหัวเตียงกระชากกลับมา
“อะไรเนี่ย!”
ข้อมือเล็กกระชากไปกระชากมา สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงงและหงุดหงิด เธอมั่นใจว่าเมื่อคืนเธอเมาแต่ไม่รู้เมาอีทีท่าไหนถึงได้กลับมานอนอยู่ห้องในสภาพนี้
ห้อง...
ดวงตากลมโตเบิกกว้างกวาดสายตามองไปรอบห้อง แม้จะไม่ได้สว่างมากเพราะไม่ได้เปิดผ้าม่านแต่ทว่าแสงรำไรที่เล็ดลอดเข้ามาก็ทำให้อังเปารู้ได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ
“ทีนี่...”
แกร๊ก!
บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างชายหนุ่มคนหนึ่งที่อังเปาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี เพียงแต่เธอไม่คาดคิดว่าคนตรงหน้าตอนนี้จะเป็นเขา
“ตื่นได้สักทีนะ”
ฟึ้บ!
สุ้มเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดผ้าม่านสีทึบสร้างความสว่างให้กับห้องนอน คนที่เพิ่งตื่นได้ไม่นานหลับตาปี๋เนื่องจากสายตาไม่สู้แสงก่อนจะค่อยๆ ปรับโฟกัสปรือตาลืมขึ้นทีละน้อย
“นายมัดฉันไว้ทำไม อย่าบอกนะว่าชอบอะไรแบบนี้”
“นี่พี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
“พี่? นี่นายเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกฉันเหรอ” อังเปาได้แต่ขบคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมท่าทางของหมอนี่ในวันนี้ถึงได้ดูเปลี่ยนไปนัก
“ก็นะยังไงพี่ก็แก่กว่า แถมยังแก่กว่าตั้งสองปีจะไม่เคารพหน่อยก็คงไม่ดี”
“เพิ่งคิดได้หรือไง”
“อืม เมื่อคืนเลยแหละ” อินทรยื่นหน้าเข้าไปใกล้รุ่นพี่คนสวยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นทำให้อังเปาขนลุกแปลกๆ ตกลงเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเธอจำอะไรไม่ได้เลย
“ปล่อยฉันก่อนอยู่แบบนี้มันเมื่อย”
“ขอโทษผมก่อนสิแล้วจะปล่อย”
“ขอโทษอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยทำไมต้องขอโทษนายด้วย”
“ก็ได้ งั้นก็อยู่แบบนี้แหละ แต่สภาพพี่ตอนนี้มัน...”
เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยเฉพาะใบหน้า อินทรใช้สายตาจับจ้องและหลุดหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นทำให้อังเปาขาดความมั่นใจขึ้นในทันที ในหัวเธอตอนนี้คิดได้เพียงว่ามันต้องเกิดอะไรแปลกๆ ขึ้นบนใบหน้าเธอแน่นอน
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่”
“นี่! ฉันบอกให้ปล่อยไง”
“ต่อให้พี่จะแผดเสียงเหมือนควายออกลูกดังขนาดไหนก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ห้องผมมันเก็บเสียง”
จะเล่นอย่างนี้ใช่ไหมไอ้เด็กบ้า! หงุดหงิดชะมัด
อังเปาได้แต่กัดฟันกรอดจ้องหน้าคนที่ได้เปรียบกว่า เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผ่อนออกเบาๆ สงบสติอารมณ์
“นี่น้องอิน ปล่อยพี่เปาได้ไหม อยู่แบบนี้พี่เปาเจ็บนะ”
คำพูดนั้นทำให้อินทรขำกร๊ากออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่คิดว่าเธอจะมาไม้นี้
“นี่! ขำบ้าอะไรย้ะ”
คนถูกหัวเราะเยาะเริ่มขาดความอดทนตวาดใส่หน้าหนุ่มรุ่นน้องอีกครั้ง ท่าทางเขาตอนนี้มันหาเรื่องกันชัดๆ
“จำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้จริงเหรอ”
“ฉันเมาขนาดนั้นจะไปจำอะไรได้ล่ะ นายรู้ไหมว่าภาพฉันตัดไปตั้งแต่อยู่ที่ร้านแล้ว”
“ทำไมถึงกล้าขนาดนั้นนะ” แววตาเด็กหนุ่มเปลี่ยนไป เขามองเธอด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกหลากหลายอารมณ์จนอังเปาเองก็ไม่รู้ว่าเขามองเธอแบบนั้นทำไม
“อะไร ทำไมถึงได้จ้องฉันแบบนั้นล่ะ”
“พี่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ทำไมถึงได้กล้าไปเมาเละในร้านที่ไม่มีใครรู้จักแบบนั้นล่ะ”
“ใครบอกไม่มีคนรู้จัก นายไง ฉันเห็นนายเล่นดนตรีอยู่บนเวที”
“แล้วไง เห็นแค่นั้นพี่ก็คิดว่าตัวเองจะปลอดภัยงั้นเหรอ”
ทำไมเขาถึงได้ดูหงุดหงิดนะ
“ก็ใช่น่ะสิ เห็นไหมว่าสุดท้ายนายก็แบกฉันกลับมา แล้วดูจากสภาพฉัน...” เธอมองตัวเองก่อนจะสลับเงยหน้ามองเจ้าของห้องแล้วยกยิ้ม “คงยังไม่โดนนายทำอะไรสินะ”
“หึ! เคารพในความกล้าของพี่นะ แต่เข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมไม่ได้แบกพี่กลับมาแต่เป็นพี่ต่างหากที่ตามผมกลับมาเอง”
“ฉันเนี่ยนะ! ฉันมั่นใจว่าตัวเองเมาจนเดินไม่ได้แน่นอน”
“งั้นเหรอ แล้วนี่ล่ะ” ว่าจบอินทรก็เปิดคลิปวิดีโอที่ถ่ายสภาพอังเปางอแงเมื่อคืนให้เธอดู
‘ทำอะไรน่ะ’
‘อุ้ม’
‘ฮะ?’
‘อุ้มหน่อย’
อังเปาเห็นสภาพเหมือนเด็กปัญญาอ่อนของตัวเองก็ทนมองไม่ได้อีกต่อ เธออับอายจนพูดไม่ออก แม้จะรู้ว่าหากตัวเองเมาเกินลิมิตก็จะมีหลุดความบ้าออกมาบ้าง แต่ทว่าไอ้ท่าทางเมื่อนี้...มันบ้าเกินไปแล้ว!!
“ลบเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ลบทำไมล่ะ ตลกขนาดนี้เก็บไว้ดูตอนเครียดยังไม่สาย”
เธอลืมไปได้ไงว่าตระกูลนี้มันปีศาจทั้งตระกูล เธอเคยโดนไอ้เด็กอายันแกล้งยังไง ตอนนี้ไอ้เด็กบ้าอินทรก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด ตอนนี้ก็คงทำได้แค่..
“ฉันเจ็บแขนจริงๆ นะ ปล่อยได้ไหม”
อังเปาทำหน้าตาสลดบีบน้ำตาป็อกๆ ไหลรินออกมา เธอทำหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ผู้ชายคนไหนที่เห็นน้ำตาของเธอแล้วจะไม่ใจอ่อน
“หาว ง่วงจังเมื่อคืนพี่แย่งที่นอนผมไปทั้งคืนเลยนะ”
อินทรไม่สนใจอังเปาเลยสักนิด เขาเอ่ยจบก็เอนกายล้มตัวลงบนที่นอนข้างเธอ ตะแคงตัวมองหน้าคนที่กำลังทำการแสดง
“กลัวน้ำตาเยอะเกินไปหรือไงถึงได้ชอบร้องไห้นัก”
“แล้วนายล่ะ กลัวฉันหนีไปหรือไงถึงได้ไม่ยอมแก้มัดอยู่ได้”
“เมื่อคืนพี่เมามาก ผมก็เลยจับโยนไว้ในห้องนอนแต่ใครจะคิดล่ะว่าพี่จะพยศไม่เลิกเดินออกไปกวนผมที่โซฟาอยู่ได้ โยนเข้ามากี่ครั้งก็ออกไปกวนเท่านั้น สุดท้ายก็เลยจับพี่มัดไว้” อินทรเอ่ยเสียงเนือยๆ พร้อมกับหลับตาพริ้ม เขาง่วงมากจริงๆ
“แต่ตอนนี้ฉันหายเมาแล้วนายก็ปล่อยฉันก่อนสิย้ะ อยู่แบบนี้มันเมื่อยนะ”
“นั่นสินะ ผมเองก็ง่วงมากแล้วเหมือนกัน”
อินทรที่กำลังจะเคลิ้มหลับลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ชันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือไปปลดสายเชือกที่ข้อมือหญิงสาวปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“หลุดสักทีเจ็บชะมัด” คนพี่ลูบข้อมือเบาๆ ก่อนจะลุกเดินออกไปเข้าห้องน้ำ จัดการเช็ดหน้าให้สะอาดแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
แต่พอกลับมาถึงก็เห็นอินทรนอนหลับปุ๋ยไปราวกับเด็กน้อย
“หลับง่ายชะมัด” เธอยืนมองคนที่กำลังหลับอยู่ครู่หนึ่งก็เดินสำรวจรอบห้องนอน
ห้องนี้มีลักษณะคล้ายกับห้องของอังเปาไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่การตกแต่งไม่เหมือนกันเท่านั้น เธอกวาดสายตามองรอบๆ จนไปสะดุดกับกรอบรูปใบหนึ่ง เป็นรูปภาพของอินทรตอนเด็กๆ ถ่ายคู่กับพ่อของเขา
“เพราะพ่อหน้าตาดีแบบนี้เองสินะ ลูกถึงได้หล่อใช้ได้”
เธอวางกรอบรูปดังกล่าวไว้ที่เดิมก่อนจะเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น ถือวิสาสะเปิดตู้เย็นดื่มน้ำ
ตู้เย็นของหมอนี่มีของสดไม่ใช่น้อย นั่นหมายความว่าเขาน่าจะทำอาหารเป็น
“ดูมีประโยชน์กว่าไอ้เด็กอายันขี้ประจบตั้งเยอะ”
พูดแล้วก็โมโหเพราะไอ้เด็กไม่หายเป็นเพราะมันแท้ๆ ถึงทำให้เธอโดนตบ อังเปาถอนหายใจเดินมาหยิบกระเป๋าที่โซฟา ขณะกำลังจะก้าวออกจากห้องก็เจอกระดาษโพสต์อิทแผ่นหนึ่งเขียนข้อความไว้
‘ก่อนออกไปล็อกประตูให้ด้วย และต่อจากนี้ไม่ต้องมาเจอกันอีก’
ฝันไปเถอะย้ะ! จีบนายให้มาสยบแทบเท้าฉันได้เมื่อไหร่ ไม่นานฉันจะเฉดหัวนายทิ้งแน่นอน แต่กว่าจะถึงตอนนั้นฉันจะทำทุกอย่างให้นายรักฉันให้ได้ รักแบบที่คิดว่าชาตินี้จะรักใครไม่ได้อีก พอสำเร็จฉันก็จะพานายไปเปิดตัวแหกอกแม่นายซะ หึ!