"ค่ะ ที่พี่กันต์ไม่เคยเห็นว่าแฟนของกอหญ้ามาส่งมารับ เพราะกอหญ้าไม่เคยบอกเขาว่ากอหญ้าทำงานที่นี่"
"ถ้าอย่างนั้น ทำไมเมื่อกี้กอหญ้าบอกว่าเป็นแฟนคุณต้องตกใจด้วยละครับ"
"เอ่อ.."
ปอร์เช่หันมามองกอหญ้าที่ตอนนี้กำลังยืนจ้องหน้าเขาเขม็ง ยิ่งทำให้เขาไม่รู้จะพูดว่าอะไร ใจหนึ่งก็ดีใจมาก ๆ ที่กอหญ้าบอกว่าเป็นแฟน แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลที่เห็นเธออยู่ที่นี่
"เพราะเธอกำลังโกรธผมอยู่ พอได้ยินเธอบอกคนอื่นว่าเป็นแฟน เลยตกใจนิดหน่อยครับ"
"กอหญ้า .. เขาเป็นแฟนกอหญ้าจริง ๆ หรอ"
"ขอโทษนะคะพี่กันต์ แต่ปอร์เช่เป็นแฟนกอหญ้าจริง ๆ ค่ะ"
กอหญ้าตอบเขาด้วยสีหน้าหนักแน่น เพื่อยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ปอร์เช่ขยับเข้าไปใกล้เอื้อมมือไปโอบไหล่เธอเบา ๆ กอหญ้ามีอาการตกใจเล็กน้อย แต่ก็แสร้งยิ้มให้พี่กันต์อย่างช่วยไม่ได้ เพราะกลัวว่าหากเธอหลุดอะไรแปลก ๆ ออกมาพี่กันต์จะต้องจับได้แน่นอน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของราชันย์ทั้งหมด ราชันย์ที่ยืนกระดกเหล้าอยู่บนชั้น VIP มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า
เธอไม่คิดแม้แต่จะรักษาสัญญา ว่าระหว่างระยะสัญญาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น แต่กลับยืมฉีกยิ้มให้ผู้ชายคนนั้นโอบกอดอย่างไม่อายคน สายตากจดจ้องมองราวกับเหยี่ยวที่รอตะครุบเหยื่อ มือก็ยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากรัว ๆ ไม่ขาดสาย
เมื่อรู้สึกว่าทนไม่ไหว เขาวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะเดินก้าวเท้ายาว ๆ ลงมายังด้านล่างที่ตอนนี้มีเธอกับผู้ชายคนนั้น และห่างไปไม่ไกลมีกันต์คนดูแลกาสิโนยืนมองกอหญ้าด้วยตาละห้อยราวกับคนอกหักอยู่ ราชันย์เดินตรงไปหากอหญ้าช้า ๆ เมื่ออยู่ในระยะสายตา กอหญ้าที่เห็นว่าราชันย์เดินตรงมาหาเธอ ทำให้เธอตกใจสะบัดมือของปอร์เช่ออกทันที
"คุณราชันย์"
"ตกใจทำไม นี่แฟนหรอ"
"คือ.."
"ใช่ครับ ผมเป็นแฟนกอหญ้า ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ"
"ปอร์เช่!"
กอหญ้าที่เห็นแววตาหงุดหงิดของราชันย์ก็รู้ชะตาได้ทันทีว่าเธอจะต้องตายด้วยน้ำมือเขาแน่ ๆ เธอแค่ลากปอร์เช่มาหลอกพี่กันต์ แต่ไม่คิดว่าวันนี้ราชันย์เองก็อยู่ที่กาสิโนด้วย เรื่องนี้มันเกินความคาดหมายเกินไปแล้ว
"ตอนนี้เวลางาน เธอก็ควรทำงาน ไม่ควรเอาแฟนมาที่ทำงานแบบนี้นะสกุณา"
"คือคุณราชันย์.."
"จัดการคุยกันให้เรียบร้อย แล้วขึ้นไปคุยกับผมด้านบนหน่อย แยกแยะให้ออก อันไหนเวลางาน อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปน"
"มันไม่มากไปหน่อยหรอครับ คุณเป็นเจ้าของใช่ไหม"
"ถ้าใช่ แล้วจะทำไม"
"ก็ไม่ทำไมหรอกครับ ผมไม่ได้มากวนแฟนผมในเวลางาน แต่วันนี้ผมมา .. เป็นลูกค้า"
"งั้นก็ยินดีต้อนรับครับ แต่ผมจะต้องขอตัวพนักงานขึ้นไปคุยกันสักหน่อย หวังว่าคุณจะเข้าใจ"
"ปอร์เช่ นายตามสบายเลยนะ ไม่ต้องห่วงเรา"
กอหญ้ากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของเขา ยิ่งเป็นเหมือนการเติมน้ำมันลงบนกองไฟเพิ่มไปอีก ราชันย์ไม่รอช้ากระชากมือกอหญ้าทีเดียวก็ปลิวหวือลอยตามเขาไปทันที เขาลากแขนของเธอให้เดินตามมาอย่างไม่แคร์สายตากใคร มีพนักงานหลายคนที่มองมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมของเขา เพราะปกติในสายตาพนักงานที่นี่ มีแต่ผู้หญิงเดินตามเขาต้อย ๆ แต่เมื่อเห็นความคุกรุ่นของอารมณ์ผู้เป็นนายแล้วคงจะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้แน่นอน
"ทำไม คิดถึงกันมากถึงขนาดพากันมาพลอดรักถึงถิ่นฉันเลยหรอกอหญ้า"
ราชันย์ไม่พูดเปล่า เขาโยนร่างบาง ๆ ของเธอทีเดียวก็ปลิวหวือล้มลงบนโซฟาสีแดงสดกลางห้องด้วยความแรง เธอตกใจสุดขีดด้วยสัญชาตญาณมือของเธอยกขึ้นมาลูบที่หน้าท้องอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันที่เธอจะหายตกใจ ก็ถูกผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเจ้าหนี้และพ่วงมาด้วยตำแหน่งพ่อของลูกกระชากแขนเธอให้ขึ้นไปด้วยความเร็วอีกครั้ง เธอที่ไม่ทันได้ตั้งตัวต้องลอยไปตามแรงกระชากจากเขาอีกครั้ง
"คุณราชันย์ กอหญ้าเจ็บ"
"เจ็บแค่นี้อย่ามาสำออยไปหน่อยเลย"
"ปล่อยกอหญ้าก่อนได้ไหม คุณกำลังเข้าใจผิด"
"งั้นลองบอกมา ว่าฉันเข้าใจอะไรผิด"
"คือว่า.."
"คืออะไร ฉันรอฟังอยู่!"
แต่เมื่อเธอจะอธิบายเหตุผล เธอกลับต้องเงียบลงทันที หากเธอบอกว่าแค่เพื่อนที่บังเอิญมาเจอกัน ราชันย์จะเชื่อไหม แล้วถ้าบอกว่าเพราะเอาเพื่อนมาบังหน้า พี่กันต์จะเป็นยังไง คุณราชันย์จะทำร้ายเขาไหม เมื่อเธอคิดทุกอย่างตีกันปนเปเต็มหัว ทุกอย่างเลยทำได้แค่เงียบ เพราะเธอไม่รู้เลยว่าต้องพูดยังไงเพื่อให้ทุกคนไม่ต้องโดนผลกระทบนี้
"ว่าไง คืออะไรกอหญ้า"
"คุณราชันย์ กอหญ้าเจ็บ"
"เธอไม่ยอมพูด แสดงว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง?"
"คุณราชันย์ปล่อยกอหญ้าก่อนค่ะ"
"ดี ดีมากกอหญ้าเธอทำฉันโมโหมาก คิดถึงกันมากใช่ไหม งั้นฉันจะทำให้เธอไม่มีแรงลงไปหามันเลย!"
ร่างเล็ก ๆ ของเธอถูกผลักด้วยความแรงไปยังโซฟาตัวใหญ่ เขาจ้องเธอด้วยดวงตาที่คมกริบราวกับอินทรีย์ที่เห็นเหยื่ออันโอชะ มือหนาปลดกระดุมเสื้อช้า ๆ เผยให้เห็นแผงอกเป็นลอนสวย สุขภาพดี เข็มขัดและกางเกงถูกปลดออกอย่างงรวดเร็วยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ทุกการกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกกลัว หากเขายังอารมณ์รุนแรงแบบนี้ หากเขาใช้ความรุนแรงแบบนี้ เธอจะทำยังไง เด็กในท้องจะเป็นยังไง จะปลอดภัยไหม เมื่อเธอยิ่งคิดวนไปวนมาน้ำตาเม็ดใส ๆ ก็กลิ้งหลุน ๆ ลงมาอาบแก้มร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน
แต่มีหรือคนอย่างราชันย์จะสนใจ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ภาพที่เธอโอบกอดกับผู้ชายคนนั้นฉายซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ภาพนี้มันหายไป รู้แค่ตอนนี้เขาโมโหอย่างที่ไม่เคยโมโหมาก่อน และร่างกายของเขาต้องการสัมผัสของเธอเพื่อมาปลอบประโลมอารมณ์ที่รุ่มร้อนนี้ เขาถอดกางเกงออกเผยให้เห็นแค่ชั้นในราคาแพง เขาเอื้อมมือไปกระชากแขนของเธอแรง ๆ แต่กลับต้องชะงักค้างกลางอากาศเมื่อสัมผัสแรกที่เขาได้รับคือแรงสั่นสะท้านด้วยความกลัวจากคนเบื้องหน้า
กรี๊ด!!
“ร้องไปก็เท่านั้นกอหญ้า อยู่ที่นี่ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอหรอก”
“คุณราชันย์ ฉันกลัว”
“เธอจะกลัวอะไร ของมันเคย ๆ กันอยู่”
“คุณใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหมคะ ปล่อยมือฉันด้วย ฉันเจ็บ”
เขาไม่แม้จะฟังคำพูดของเธอเลย ด้วยซ้ำ มือหนากระชากแขนเล็ก ๆ ของเธอทีเดียวปลิวขึ้นมาหาเขาอย่างง่ายดาย มืออีกข้างคว้าแผ่นหลังของเธอให้ขยับเข้ามาแนบชิด จนเนินอกของเธอเบียดชิดกับหน้าอกแกร่ง ริมฝีปากหนาจูบไปที่เรียวปากของเธออย่างดุดัน ด้วยความที่เธอนั้นไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากของเธอที่โดนกระแทกกับฟันสวยของเขา ทำให้แตกเล็กน้อยแต่ก็พอที่จะรู้สึกเจ็บและได้กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งอยู่ในโพรงปาก
ราชันย์ที่อยู่ในอารมณ์โกรธเกรี้ยว ตะบันจูบเธออย่างหิวกระหาย ไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจ มือหนาที่จับข้อมือของเธอปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ก่อนที่มือของเขาจะลูบไล้ไปบนเรือนร่างเธออย่างจาบจ้วง เธอที่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ต่อให้ดิ้นรนไปก็คงหนีไม่พ้นเขา เธอทำได้แค่ยืนนิ่ง ๆ ให้ราชันย์ทำตามอารมณ์ของเขาอย่างจำยอม
“ทำไม! ไม่ดิ้นแล้วหรอ”
“คุณอยากทำอะไรกับกอหญ้าก็เชิญเลยค่ะ ถ้ามันทำให้คุณใจเย็นลงได้”
“เธออย่าคิดว่าใช้ไม้นี้กับฉันแล้วฉันจะหายโมโหนะกอหญ้า”
“คุณฟังกอหญ้าก่อนไม่ได้หรอคะ”
“ฉันให้โอกาสเธอพูดแล้ว แต่เป็นเธอที่ทิ้งโอกาสนั้นเองนะ”
เธอเม้มปากแน่น จ้องมองคนด้านหน้าที่เธอคิดว่าความจริงเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งแต่บัดนี้เขาทำลายความคิดนั้นของเธอไปเสียแล้ว เขาไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ ว่าเธอจะเจ็บไหม เธอจะกลัวหรือเปล่า หรือเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เป็นแค่นางบำเรอ สิ่งของขัดดอกสำหรับเขาจริง ๆ
ยิ่งคิดได้ดังนั้น สิ่งที่นางบำเรออย่างเธอจะทำได้ก็คงต้องทำให้เขาสบายตัวสบายใจในเรื่องอย่างว่าจริง ๆ เธอแหงนหน้ามองใบหน้าที่ดุดันของราชันย์อีกครั้ง ทั้งสายตา แววตา และความรู้สึก เขาไม่เหมือนราชันย์ที่เธอรู้จักก่อนนี้เลยสักนิด มือเล็ก ๆ ของเธอยกขึ้นมาลูบไล้อกแกร่งของเขา ในขณะเดียวกันสายตาของเธอเองก็ไม่ได้ละจากใบหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
เธอจ้องมองแววตาของเขาด้วยใจที่เจ็บปวด ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการก็แค่เรื่องบนเตียง ทำไมเธอจะทำให้เขาไม่ได้ มือของเธอลูบไล้ไปตามลอนสวย ก่อนจะขยับขึ้นมาที่ไหล่กว้าง ถอดเสื้อของเขาออกอย่างง่ายดาย ราชันย์เองก็ไม่ได้ขัดการกระทำของเธอ เขายังคงจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยความว่างเปล่าเดาไม่ได้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
เธอดันให้เขาล้มลงบนโซฟาที่เธอเพิ่งถูกกระชากมาเมื่อครู่ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ เดินตามขึ้นไปคร่อมร่างของเขาที่อยู่บนโซฟานั้น ชุดเดรสกระโปรงสั้นจู๋สีเงินที่สวมมาวันนี้ก็ช่างเอื้ออำนวยให้เธอเสียจริง บัดนี้มันถูกเรียวขาของเธอดันชายกระโปรงขึ้นมากองอยู่ที่หน้าขาในท่าที่เธอยังคร่อมเขาอยู่ ราชันย์เลื่อนมือหนาไปถกชายกระโปรงของเธอขึ้นให้ไปกองอยู่ที่เอวทันที
เขาไม่รอให้เธอต้องทำอะไรเพิ่ม ดันตัวเธอให้พลิกไปนอนหงายอยู่บนโซฟา ก่อนจะขยับตัวเองให้ลุกขึ้น ถอดชั้นในตัวเองออกเผยให้เห็นแก่นกายที่พร้อมจะเข้าสู่สนามรบ เขาเอื้อมมือไปรูดชั้นในของเธอออกด้วยมือข้างเดียว น้ำตาเม็ดเล็ก ๆ ของเธอกำลังเอ่อคลออยู่ที่ดวงตา อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกน้อยใจตัวเอง น้อยใจเขา ทั้งที่เธอก็ไม่รู้ว่าน้อยใจเขาเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกทุกอย่างกลับจุกอยู่ในอก
ราชันย์ดึงร่างเธอให้ขยับเข้ามาใกล้ท่อนเอ็นอุ่น ๆ ของเขา จับเรียวขาของเธอให้อ้าออกกว้าง เผยให้เห็นช่อบุปผาที่ชโลมไปด้วยน้ำหวานเล็กน้อย ส่วนปลายของแก่นกายขยับเข้าไปใกล้ช่อบุปผาจนอยู่ในระยะเดียวกัน
ส่วนปลายนั้นถูไถขึ้นลงไปมาช้า ๆ สร้างความเสียวซ่านเล็ก ๆ ให้กับคนเบื้องล่างเป็นอย่างดี ถึงแม้เริ่มแรกคิดว่าจะใช้เซ็กซ์ให้การทำให้เขาใจเย็นลง แต่กลับไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีปฏิกิริยากับเขาขนาดนี้ ราชันย์ขยับท่อนเอ็นไปมาอีกสักพักเมื่อเห็นว่าเธอเองก็พร้อมแล้วเขาขยับท่อนเอ็นอุ่นนั้นก่อนจะขยับเอวสอบทีเดียวจนมิดด้าม
อื้อ!!!