‘ความรู้สึกอึดอัดนี้มันคืออะไรเนี่ย แล้วทำไมคุณราชันย์ต้องมายืนทำหน้ายักษ์จ้องเขม็งแบบนี้ด้วย ไม่เห็นจะเข้าใจเลย’
เธอลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินไปห้องน้ำ เพราะเริ่มจะรับไม่ไหวกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ ทันทีที่เธอลุกขึ้นนั้น สายตาดุ ๆ ก็หันขวับมาจ้องเธอทันที ทำให้กอหญ้าได้แต่ลุกขึ้นมายืนนิ่ง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาออกจากตรงนั้น
“จะไปไหน”
“ไปห้องน้ำค่ะ”
“ไปสิ”
ทันทีที่เธอได้ยินการอนุญาตจากบุคคลตรงหน้า เท้าน้อย ๆ ก็รีบก้าวฉับ ๆ ออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เธอก้าวเท้าด้วยความเร็วเพื่อที่จะออกมาจากที่ตรงนั้นเดินตรงดิ่งมาที่ห้องน้ำหญิงที่อยู่ไม่ไกลมาก เมื่อเธอเข้ามาทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว มือน้อย ๆ ก็ควักมือถือออกมาเช็กนิดหน่อย ก็เห็นว่ามีข้อความจากปอร์เช่
เธอเดินออกจากห้องน้ำโดยที่มือของเธอก็ยังง่วนอยู่กับการตอบข้อความของเพื่อนสนิท ทันทีที่เธอเดินพ้นประตูห้องน้ำออกมาเล็กน้อยก็ต้องชะงักเท้าเล็ก ๆ เพราะสายตาที่จ้องมือถือนั้นเห็นเท้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้า กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อน ๆ นี้ไม่ผิดแน่ เธอเงยหน้าออกจากจอมือถือเล็กน้อยก็ต้องหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้มองหน้าเธอสลับกับมือถือในมือของเธอไปมาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
“คุยกับใคร”
“คือ..”
“ทำไมซื้อมือถือไม่บอกฉัน แล้วมีเงินหรอ”
“เอ่อ..”
“ฉันรอฟังอยู่”
“คุยกับเพื่อนค่ะ กอหญ้ายืมเงินเพื่อนมาซื้อ”
“แล้วทำไมไม่เคยบอกฉัน”
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบยังไงเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้โกหกเพราะปอร์เช่คือเพื่อนจริง ๆ แต่ก็เป็นผู้ชาย ไม่ตอบน่าจะปลอดภัยกว่า ถ้าตอบไม่ถูกใจเดี๋ยวมีเรื่องอีก
“ไปเถอะ หนังจะฉายแล้ว”
“ค่ะ”
เธอกดปิดเสียงมือถือยัดลงกระเป๋าตามเดิม ก่อนจะเดินตามเขามาที่หน้าโรงภาพยนตร์ที่มีพราวฟ้ากับมังกรยืนรออยู่แล้ว เมื่อพวกเรามาถึงทุกคนก็เดินเข้าไปในโรงทันที ที่นั่งทุกตัวเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย อาจเพราะหนังเรื่องนี้กำลังโด่งดังและเป็นที่น่าติดตามมาก เมื่อเรานั่งได้สักครู่หนังก็เริ่มฉายพอดี เธอจดจ่อกับการดูเรื่องนี้มาก แต่เมื่อผ่านไปได้ไม่นานอากาศเย็น ๆ กับความรู้สึกอ่อนเพลียที่วันนี้เดินซื้อของทั้งวัน ทำให้เธอรู้สึกง่วงนอนอย่างมาก มากเสียจนรู้สึกได้ว่าเธอไม่สามารถฝืนเปลือกตาให้ดูต่อได้
เวลาผ่านไปจนเมื่อหนังจบทุกคนทยอยออกจากโรงหนังกันไปจนหมด เหลือแค่พวกเขาสี่คนเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม พราวฟ้าและมังกรหันมามองกอหญ้ากับราชันย์ ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกันเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้
“ปลุกน้องเถอะราชันย์ เราจะนั่งอยู่นี่ไปทั้งคืนหรือไง”
ราชันย์ไม่ตอบ ได้แต่หันมองกอหญ้าที่นอนหลับซบอยู่ที่ไหล่ราชันย์อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ราชันย์ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเขย่าเธอเล็กน้อยแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววว่าเธอจะตื่นขึ้นมา
“นอนต่อห้านาทีนะคะแม่”
ราชันย์อุ้มกอหญ้าขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที ที่คาดว่ายังไงเธอก็คงไม่ตื่นขึ้นมาง่าย ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากโรง ตรงไปยังที่จอดรถที่พวกเขาจอดไว้ทันที
“ไปคนละคันละกัน เจอกันที่คอนโด”
“โอเค”
เขาอุ้มเธอมาวางบนที่นอนเบา ๆ ก่อนจะออกมาด้านนอก ยืนมองหน้าพราวฟ้านิ่ง ๆ ด้วยหัวคิ้วที่แทบจะชนกันอย่างไม่สบอารมณ์มาก ๆ
“ไม่ต้องมามองแบบนี้เลย ทำไม หวงน้องหรอ”
“ทำไมให้กอหญ้าแต่งตัวโป๊แบบนั้น”
“มันไม่โป๊ไหมราชันย์ นายอย่ามาเว่อร์ไปหน่อย ชุดนั้นเหมาะกับกอหญ้ามากไม่เห็นหรอ”
“ไอ้ราชันย์จะมาตาเขียวขู่ฟ่อ ๆ เหมือนหมาทำไม ไหนบอกว่ากอหญ้าไม่ได้สำคัญไง”
“ก็ไม่ได้สำคัญ แต่ไม่ชอบให้แต่งตัวไปล่อเสือล่อจระเข้ขี้เกียจตามเก็บกวาด”
“พอ ๆ ไปแยกย้าย วันนี้เรานอนนี่นะพราว เฮียขี้เกียจขับรถ”
“ดีเลยเฮีย พราวยังคุยกับกอหญ้าไม่พอเลย”
“แกก็ไปนอนได้แล้วราชันย์ ไปเฝ้าของเล่นไป ระวังของเล่นหาย”
“ห้องนอนเล็กยังไม่ได้เก็บกวาด แกไปจัดการเองแล้วกันนะไอ้พี่ชาย ไปนอนละ”
“ปากบอกไม่สนใจ ๆ แต่ห่างน้องไม่ได้เลยนะ”
กอหญ้าลืมตาค้าง เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับอกขาวของคนด้านข้าง ไม่ผิดแน่ ราชันย์ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ โดยที่เธอกำลังนอนทับแขนแกร่งของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่เวลาที่เขาหลับไม่มีพิษมีภัยแบบนี้ก็ดูน่าหลงใหลดีจริง ๆ เธอมองใบหน้าของเขาอย่างไม่ละสายตา
“มองขนาดนี้อยากได้รางวัลสักหน่อยมั้ย”
“คุณราชันย์”
“ทำไม? สีหน้าเปลี่ยนไวจังนะ”
เธอขยับตัว ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที ราชันย์เองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาลุกขึ้นมาสะบัดแขนข้างที่เธอหนุนเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นบิดร่างกาย
“คุณราชันย์อยากทานอะไรเป็นอาหารเช้าคะ”
“เธออยากทานอะไรก็ทำมาเลย อ่อ! ทำเผื่อมังกรกับพราวฟ้าด้วยละกัน”
“พี่พราวยังไม่กลับหรอคะ”
เธอไม่รอให้ราชันย์ที่กำลังอ้าปากจะตอบคำถามเธอ ได้ส่งเสียงตอบ เธอรีบวิ่งออกจากห้องนอนไปทันที ที่ได้ยินว่าพราวฟ้ายังอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกชอบพราวฟ้าเอามาก ๆ อาจเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งก็ว่าได้
เมื่อเธอออกมาด้านนอกก็เห็นพราวฟ้ากำลังทำอาหารอยู่ในครัว และมีมังกรที่นั่งเท้าคางมองเธอทำอาหารอยู่ไม่ไกล ภาพที่เห็นทำให้กอหญ้าเผลอยิ้มออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะเดินเข้าไปขัดจังหวะสายตาของมังกร ด้วยการยืนโน้มหน้าไปมองมังกรช้า ๆ แต่ก็ไม่แม้แต่จะแรกความสนใจของเขาที่ตั้งอกตั้งใจมองพราวฟ้าได้เลยเธอหันไปมองพราวฟ้าสลับกับมองมังกรที่ตอนนี้ยิ้มจนแก้มปริ ก่อนที่เขาจะเห็นเธอที่ยืนจ้องหน้าเขาสลับกับพราวฟ้าไปมาด้วยอาการตกใจจนแทบจะหงายหลัง
“คุณมังกรมองพี่พราวขนาดนี้มดขึ้นห้องครัวแล้วนะคะ”
“ก็พราวฟ้าสวยมากเวลาทำอาหารนี่นา”
“พบคนคลั่งรักแล้วหนึ่ง”
“กอหญ้าไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกพี่มังกรแล้วกัน”
“จะดีหรอคะ”
“ดีสิ เราเรียกพราวฟ้าว่าพี่ ก็ต้องเรียกพี่ว่าพี่สิ”
“กอหญ้าจะพยายามนะคะ”
เธอยิ้มหวานให้มังกรก่อนจะเดินเข้ามาดูพราวฟ้าที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหาร พราวฟ้าหันมายิ้มหวานให้เธอ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ผักที่กองอยู่ด้านหน้าเป็นเชิงบอกให้กอหญ้าช่วยจัดการให้หน่อย กอหญ้าเห็นดังนั้นก็พยักหน้าให้เธอ เดินไปล้างมือก่อนจะหันมามองที่กองผักทั้งหลาย
“พี่พราวจะทำอะไรคะ กอหญ้าจะได้หั่นถูก”
“อันนั้น อันนั้น แล้วก็อันนั้น พี่จะผัดจ๊ะ ส่วนกองนู้น นู้น และก็นั่น พี่จะทำต้มจืด”
“โอเคค่ะ ไว้ใจลูกมือคนนี้ได้เลย”
ทั้งสองคนลงมือเตรียมวัตถุดิบจนเรียบร้อยอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีผู้ชายสองคนกำลังจ้องเธอทั้งคู่อยู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งสองคนมองตามพราวฟ้าและกอหญ้าไปมา ราวกับผู้ชายที่เจอของที่ชื่นชอบมาก ๆ เช่นนั้นก็ไม่ปาน
“เรียบร้อย! หอมไหมคะเฮีย”
“หอมมากเลยครับพราว ต้องอร่อยมากเหมือนเดิมแน่ ๆ”
“งั้นเฮียกับราชันย์เลิกตาหวานเยิ้ม แล้วเก็บน้ำลายที่ทำท่าจะหก เดินไปนั่งรอที่โต๊ะดี ๆ นะคะ”
“กอหญ้า ช่วยพี่ยกอาหารหน่อยนะ”
กอหญ้ายิ้มให้เธอแทนคำตอบ ก่อนจะเดินไปเปิดหม้อต้มจืดผักรวม ทันทีที่ฝาหม้อเปิดออกกลิ่นที่ปะทะจมูกเธอกลับทำให้เธอต้องเบ้หน้าออกอย่างทันควัน มือเล็ก ๆ ยกฝาหม้อปิดทันที
“พี่พราว ต้มจืดกลิ่นแปลก ๆ หรือเปล่าคะ”
“หืม กลิ่นแปลก ๆ หรอ ไหนพี่ดูหน่อย”
พราวฟ้าเดินมาเปิดหม้อดมกลิ่น ก่อนจะตักออกมาใส่ถ้วยเล็กเพื่อชิมรสชาติ ซึ่งทุกอย่างก็ปกติ กลิ่นก็หอมเหมือนปกติที่เธอทำ พราวฟ้ายืนทำหน้างง หันไปมองหน้ากอหญ้าที่ตอนนี้ทำหน้าเหยเก ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย พราวฟ้าส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าทุกอย่างปกติ เธอเห็นกอหญ้ายิ้มให้เธอเล็กน้อยเท่านั้น
“งั้นกอหญ้าไปยกข้าวสวยแล้วกันนะ เดี๋ยวอันนี้พี่ยกไปเอง”
“ค่ะ”
พราวฟ้ามองตามกอหญ้าอย่างสงสัย ก่อนจะหันกลับมาดมกลิ่นต้มจืดอีกครั้ง ตักใส่ถ้วยพร้อมกับเดินไปตั้งโต๊ะอาหารทันที กอหญ้าถือจานข้าวมาวางให้ทุกคน ก่อนจะยืนมองถ้วยต้มจืดด้วยหน้าแหย ๆ เธอนั่งลงมองกับข้าวที่เมื่อครู่ตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ ด้วยอารมณ์ที่เรียกได้ว่าแทบไม่อยากอาหารเลยก็ว่าได้
“ต้มจืดใส่อะไรแปลก ๆ หรือเปล่า ทำไมกลิ่นมันแปลก ๆ”
“แปลกยังไงวะ กลิ่นปกติดีนะ”
“เออ สงสัยไม่ค่อยสบายมั้ง จมูกได้กลิ่นเพี้ยน ๆ”
เมื่อทานอาหารเรียบร้อยแล้ว พราวฟ้ากับกอหญ้าก็เก็บจานชามมาจัดการล้างจนเรียบร้อย ทั้งคู่เดินมานั่งเปิดทีวีดูที่โซฟากลางห้อง กอหญ้าเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะไม่สบายเพราะรู้สึกมึนหัว และง่วงเอามาก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
“เฮีย พราวจะออกไปซื้อผลไม้ด้านล่างคอนโดสักหน่อย เอาอะไรไหมคะ”
“เดี๋ยวเฮียไปเป็นเพื่อน”
ทั้งคู่เดินลงมายังร้านขายผลไม้ด้านล่างคอนโด เธอเดินเลือกซื้อผลไม้ที่อยากได้ ก่อนที่สายตาเธอจะเหลือบไปเห็นมะม่วงลูกโตที่ดูท่าจะเปรี้ยวน่าดู เธอหยีหน้าทันที ก่อนจะซื้อมะม่วงลูกนั้นมาด้วย และเพิ่มอีกหลายลูก มังกรมองพราวฟ้าสลับกับมะม่วงในมือเธอก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาชิ้นหนึ่ง
“หึย! เปรี้ยวมากเลย พราวกินได้หรอ”
“พราวไม่ได้ซื้อมากินเองสักหน่อย พราวเอามาฝากกอหญ้า เผื่อน้องอยากกิน”
“กอหญ้าจะกินได้หรอ มันเปรี้ยวมากเลยนะ เอาไปคืนเถอะ”
“เฮีย เมื่อเช้ากอหญ้าก็บอกว่าต้มจืดกลิ่นแปลก ๆ แล้วสังเกตน้องแทบไม่ทานอะไรเลยนะเฮีย ราชันย์เองก็บอกว่ากลิ่นต้มจืดแปลก ๆ เฮียมันกลิ่นแปลกจริง ๆ หรอ”
“คิดมากน่าพราว เฮียไม่เห็นว่ากลิ่นมันจะแปลกยังไง หอมเหมือนที่พราวทำให้เฮียทานบ่อย ๆ ปกติเลยนะ”
“สงสัยพราวจะคิดมากไป ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้วไม่คืนละเฮีย เราขึ้นไปกันเถอะ”