บทที่ 5 ขอต้อนรับสู่โลกของผม 1

883 คำ
จดหมายลาออกที่วางเด่นอยู่กลางโต๊ะรับแขกสร้างความรู้สึกหลากหลายให้แก่ผู้คนในห้อง ทีปต์เลิกคิ้วขึ้นเพียงนิด ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้เขาแปลกใจเสียจริง ขณะที่แพรวาลอบยิ้มด้วยความสาแก่ใจ มีความสุขเหลือเกิน หล่อนรอเวลานี้มานานแล้ว รอที่จะได้เขี่ยอัยยาไปให้พ้นทาง รอจนแทบจะรอไม่ไหวอีกต่อไป ฟากสองพ่อลูกตระกูลเกื้อกอบกูลต่างก็นิ่งอึ้ง สีหน้าเคร่งขรึม โดยเฉพาะชนนท์ที่คาดไม่ถึงว่าอัยยาจะทิ้งไพ่เด็ด งัดจดหมายลาออกมาข่มขู่เขา “หยา! คุณคิดว่าที่ทำงานเป็นอะไร เป็นสนามเด็กเล่นยังงั้นเหรอ คิดจะเลิกก็เลิกง่ายๆ” “นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการเหรอคะ ใช้วิธีสกปรกมาบีบให้ฉันลาออก ฉันก็สนองให้สมใจพวกคุณแล้วไงคะ” ชนนท์เกิดติดอ่างขึ้นมากะทันหัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อัยยาพูดมามีส่วนจริง เขาจงใจใช้วิธีที่น่าละอายเล่นงานเธอ เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาต่างหากที่อยู่เหนือกว่าเธอ เธอไม่ควรแข็งข้อกับเขา “คุณอย่าพูดจาไร้สาระ ผมทำทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของบริษัททั้งนั้น คุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้บริหาร ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ทุ่มเททำงานเพื่อบริษัทของพวกเรา” “พวกเรา?” อัยยาเลิกคิ้วเหมือนค้นพบสิ่งที่น่าสนใจมาก ชนนท์ช่างกล้าพูดเหลือเกินนะ บริษัทเป็นของครอบครัวเขา ไม่เคยมีคำว่า ‘เรา’ เรื่องนี้เธอเพิ่งรู้แจ้งแก่ใจก็ตอนที่เห็นธาตุแท้ของเขา! เสียดายที่ก่อนหน้านี้เธอโดนความรักบังตาเลยทุ่มเททำเพื่อเขาและบริษัท ยอมอดตาหลับขับตานอนนั่งคร่ำเคร่งกับกองเอกสารเพื่อความก้าวหน้าของเจนวาย ตะลอนไปทั่วทุกที่เพื่อเฟ้นหาศิลปินที่มีความสามารถ ต้องเหน็ดเหนื่อยจนหมดเรี่ยวหมดแรง เพื่อสร้างคอนเนกชัน ถึงเธอจะไม่ชอบงานสังคม แต่ก็ขยันออกงานคบค้าสมาคมพวกคนรวยเขี้ยวลากดิน ดื่มเหล้าจนแสบกระเพาะไปหมด แถมยังต้องทำงานล่วงเวลา เปิดโทรศัพท์มือถือแสตนด์บายยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อแก้ปัญหาสารพัดให้กับเด็กในสังกัด สุดท้ายพอเจนวายเติบโตกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ ขุนพลอย่างเธอพอเสร็จศึกก็ถูกเขาฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม! ทั้งหมดที่ทุ่มเททำเพื่อเขา ถึงชนนท์แกล้งหลับตามองไม่เห็นก็แล้วไป แต่รังแกกันถึงขั้นนี้ คงหวังจะให้เธอช้ำใจจนตายเลยรึไง อัยยายิ้มขื่น ไม่เคยรู้สึกรังเกียจผู้ชายตรงหน้าเท่าครั้งนี้มาก่อน ความรู้สึกดีๆ ที่ยังมีหลงเหลืออยู่ เธอขอโยนให้หมาเสียยังจะดีกว่า พอกันที... เธอขอลาขาดจากผู้ชายเฮงซวย! “เลิกพูดจาสวยหรูหลอกเด็กอมมือเถอะค่ะ ใครๆ ก็ดูออกว่าคุณจงใจกลั่นแกล้งฉัน” “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้แกล้งคุณ ผมกำลังให้โอกาสคุณได้แสดงศักยภาพต่างหากละ ถ้าคุณปั้นแพรให้กลายเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งได้ ความดีความชอบทั้งหมดก็จะเป็นของคุณ” “ว้าว!” อัยยาอุทานตาโต ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าฉันจะตื่นเต้นดีใจกับขนมล่อเด็กของคุณรึไงคะ คุณอยากจะปั้นใครก็เชิญ แต่ฉันจะไม่อยู่ให้คุณสนตะพายเล่นหรอกค่ะ” “หยา! ทำไมคุณถึงเป็นคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้นะ” ชนนท์ขึ้นเสียงอย่างโมโห วิชาญเห็นเรื่องชักจะบานปลายจึงออกหน้าไกล่เกลี่ย “หนูหยาใจเย็นๆ ก่อนดีไหม อย่าเพิ่งวู่วาม” “หยาใจเย็นมามากพอแล้วค่ะ ขอโทษนะคะคุณลุง แต่หยาขอลาออก ขอบคุณที่คอยดูแลหยามาตลอดนะคะ” เธอก้มหัวให้ชายชราแล้วยืดอกขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย ยิ้มอย่างมาดมั่น กำลังจะหันหลังเดินจากไปก็ถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ดึงตัวไว้ ก่อนที่เจ้าของร่างสูงตระหง่านจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ล้วงมืออีกข้างที่ว่างลงในกระเป๋ากางเกง ท่วงท่าดูดีสบายๆ ผิดกับคำพูดที่เอ่ยออกมาทำให้คนใจฝ่อ “ผมได้เห็นวิสัยทัศน์ของทางเจนวายแล้ว คงต้องขอบอกตามตรงว่าเราคงร่วมงานกันได้ยาก เพราะมีความคิดเห็นที่สวนทางกันหลายอย่าง” “เดี๋ยวก่อนสิครับคุณทีปต์ คุณมีอะไรไม่พอใจตรงไหน บอกทางเราได้ไหมครับ เราน่าจะคุยกันได้” วิชาญรีบเอ่ยอย่างร้อนรน หากการเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว กำไรหลายพันล้านจะหายไปในชั่วพริบตา เขาจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด “เรื่องนี้ผมคิดว่าคุณวิชาญก็น่าจะพอทราบนะครับ” วิชาญหน้าถอดสี เหลือบมองทีปต์กุมมืออัยยาไว้ไม่ยอมปล่อยก็เหมือนจะเข้าใจ ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเขาคงไม่ธรรมดา คิดๆ แล้วก็พลางให้นึกโมโห สังหรณ์แล้วเชียวว่าไอ้ลูกโง่จะต้องก่อเรื่องทำให้ทีปต์ขุ่นเคืองใจ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม