บทที่ 7 งานเลี้ยงซ่อนเร้น 2

891 คำ
เธอพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ หลายครั้งติดๆ กัน ปากยังคงเม้มแน่นด้วยความเจ็บใจแกมกังวล รู้ดีว่าประภาคงไม่ให้เธอไปร่วมงานอย่างสบายๆ แน่ นางจะต้องเตรียมแผนการบางอย่างเอาไว้รอเล่นงานเธออย่างไม่ต้องสงสัย งานนี้เธอต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมที่จะบุกเข้าถ้ำเสือ แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เธอเองจำเป็นต้องกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกสักครั้ง เพื่อค้นหาสิ่งของสำคัญ... พินัยกรรม! ก่อนตายแม่เธอเคยพูดเรื่องนี้ค้างไว้ ท่านพูดเหมือนมีลางว่าอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับท่าน ท่านจึงให้ทนายประจำตระกูลธฤตวันจัดการทำพินัยกรรม เนื้อหาระบุอย่างเรียบง่ายว่าหลังจากท่านจากไป ทรัพย์สินทุกอย่างให้ตกเป็นของเธอ แม่บอกเธอเรื่องนี้ในเย็นวันหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะขับรถแหกโค้งพุ่งตกแม่น้ำในสัปดาห์ต่อมา ท่าทีของท่านดูหวาดกลัวและระแวดระวัง ตอนที่ท่านกำลังจะบอกที่ซ่อนพินัยกรรม สิทธาก็เปิดประตูห้องเธอเข้ามาเสียก่อน ท่านจึงหยุดและแกล้งกลบเกลื่อนชวนเธอคุยเรื่องอื่นแทน ตอนนั้นเธอก็เริ่มเอะใจ แต่ยังไม่ทันได้ถามให้รู้ความก็มาเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นกับแม่เสียก่อน ซ้ำยังไม่ได้ค้นหาให้ถี่ถ้วน เธอก็ถูกพวกสรณ์สิริไล่ออกจากบ้านอีก จนถึงตอนนี้อัยยาเลยไม่รู้ว่าพินัยกรรมฉบับนั้นซ่อนอยู่ที่ไหน? รอยยิ้มมาดมั่นผุดขึ้นบนริมฝีปากคู่บาง การกลับบ้านครั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเลวร้ายสักทีเดียวนัก เธอมั่นใจว่าพินัยกรรมต้องถูกซุกซ่อนอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านแน่ๆ เธอจะอาศัยโอกาสที่ประภาหยิบยื่นมาให้นี่แหละ เป็นมีดที่ทิ่มแทงพวกสรณ์สิริสวนกลับไปให้ทะลุถึงหัวใจเลยคอยดู! หญิงสาวในชุดเซ็กซี่สีแดงเพลิงโชว์แผ่นหลังนวลเนียน สวยสะกดสยบทุกสายตา สร้างความฮือฮาทันทีที่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์หลังงาม “ใครน่ะ? สวยมาก!” แขกเหรื่อในงาน โดยเฉพาะบรรดาชายหนุ่มต่างก็เหลียวหลังมองคนคอแทบหัก ทำเอาชุดสีขาวบริสุทธิ์อ่อนโยนของแพรวาที่เป็นดาวเด่นอยู่ก่อนดูหมองและจืดชืดลงทันตา รอยยิ้มสดใสเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจของหล่อนหุบฉับ ก่อนจะพยายามฝืนปั้นหน้าอย่างเต็มที่ เหลือบมองไปยังแฟนหนุ่มที่ควงแขนอยู่ข้างกาย ใจก็เริ่มแกว่ง เมื่อเห็นชนนท์จ้องอัยยาไม่กะพริบตา สีหน้าพลันหม่นลง แพรวาอยากจะเบี่ยงเบนความสนใจของเขา แต่อัยยากำลังเดินตรงมาทางนี้ หล่อนไม่อยากแพ้ ไม่ต้องการให้คนนอกคอกได้ใจว่าชนนท์สนใจมันมากกว่าหล่อน แพรวาจึงพุ่งตัวออกไปจับไม้จับมือของอัยยาด้วยความดีใจ “พี่หยามาแล้ว แพรดีใจจริงๆ ที่พี่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเราในวันนี้ด้วย” อัยยาปรายตามองว่าที่เจ้าสาวเพียงนิด ทีแรกตั้งใจจะเดินผ่านพวกเขาไปโดยไม่มอง แต่ก็ยังถูกมือตุ๊กแกของแพรวารั้งเอาไว้จนได้ “ไม่คิดว่าคุณก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย” ชนนท์เอ่ยทักทาย บอกไม่ถูกว่ากำลังดีใจหรือกระอักกระอ่วน ทำตัวไม่ถูกกันแน่ อัยยามองคนพูดอย่างไม่ไยดี ตอกกลับจนแทบหน้าชาว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะโดนบังคับ ฉันคงไม่มาเหยียบให้เท้าสกปรกหรอก” “หยา... อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม ถึงเราจะเลิกกันไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะ” เขาพยายามข่มความไม่พอใจ “ขอโทษที แต่ฉันไม่นิยมคบคนเลวๆ” เธอดึงมือออกจากแพรวาด้วยความรังเกียจ ราวกับหล่อนเป็นโรคร้าย แล้วเชิดหน้าเดินตรงไปหยุดยืนอยู่ต่อหน้าประภา ลูกชายและลูกสะใภ้ “ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้” สิทธาถามอย่างไม่สบอารมณ์ อัยยายักไหล่ ยกมือดูนาฬิกาที่แสดงหน้าปัดบอกว่าเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว จงใจพูดยั่วโมโหเจ้าภาพว่า “ฉันมาให้ก็บุญแล้ว” “แก...!” สิทธาโกรธจนควันออกหู จ้องหน้าอัยยาเขม็ง ยิ่งเห็นชุดที่เธอสวมใส่เข้ามาในงานเหมือนคิดจะมาแย่งซีนลูกสาวของเขา ก็ยิ่งโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ “แกแต่งตัวมาแบบนี้ คิดจะมายั่วใครฮ้ะ!” “ใครมองก็ยั่วคนนั้นแหละ” “ยังกล้ายอมรับออกมาอีกเรอะ แกนี่มันหน้าไม่อายจริงๆ” “ฉันก็ต้องเลียนแบบความหน้าด้านของพวกคุณเอาไว้บ้างสิ ไม่อย่างนั้นจะสมน้ำสมเนื้อกันได้ยังไงล่ะ” “แก๊!” สิทธาชี้หน้าเธอ โกรธจนตัวสั่น แทบจะกินเลือดกินเนื้อเธอเสียให้ได้ “อ้าว... อย่าเพิ่งโกรธจนหัวใจวายตายไปซะก่อนล่ะ” สิทธาถูกเธอยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองแทบแตก ข้างขมับปูดโปนเต้นตุบๆ อยากจะปรี่เข้าไปทำร้ายนังเด็กปากพล่อยที่กล้าแช่งชักเขาให้หายแค้น แต่ถูกเสียงทรงอำนาจของประภาเอ่ยห้าม “ตาสิท! วันนี้เป็นวันมงคลของลูกสาวแก อย่าสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม