มันไม่มีความหมายอะไรเลย ไม่มีจริงๆ ทั้งที่เธอทำเพื่อเขา ทำทุกสิ่งเพื่อความรักของเรา ไม่เคยชายตาแลผู้ชายคนไหนที่พยายามเข้ามาข้องแวะกับเธอเลยสักคน แต่ชนนท์กลับไม่เห็นค่า ไม่เพียงนอกใจเธออย่างเลือดเย็น ซ้ำยังกล่าวโทษความผิดทุกอย่างมาให้เธออีก
นี่หรือคือคนที่เธอรัก?
“ที่แท้... คุณคิดกับฉันแบบนี้”
น้ำเสียงสั่นเครือที่เต็มไปด้วยแววตัดพ้อทำให้ชนนท์ถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่เผลอใส่อารมณ์กับเธอมากเกินไป
แต่ใครใช้ให้เธอเอาแต่โทษคนอื่นล่ะ?
ถึงพวกเขาจะผิดที่หักหลังเธอ แต่ใช่ว่าอัยยาเองจะไม่ผิดเลยเสียเมื่อไร สิ่งที่เขาพูดไปล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ที่เธอกับเขาต้องเดินมาถึงทางตันทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอบังคับให้เขาต้องเลือกเดินแยกทาง
ชนนท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตั้งใจจะเอ่ยอะไรสักคำเพื่อหลีกเลี่ยง ไม่อยากจะทะเลาะกับอัยยาไปมากกว่านี้ เขาแค่เป็นห่วงเธอ อยากไปรับเธอกลับบ้านเท่านั้น แต่ยังไม่ทันได้พูดก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังมาตามสายว่า
“ไม่ต้องคุยแล้ว”
หลังจากนั้นสายก็ถูกตัดฉับ เขาโทร. กลับไปจนมือแทบหงิกก็ไม่มีคนรับ มีแต่เสียงบอกให้ฝากข้อความ คล้ายคนทางนั้นได้ปิดเครื่องไปแล้ว
ชนนท์มองโทรศัพท์ในมือแล้วกำแน่น สีหน้าดำคล้ำด้วยความฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ ในใจร้อนรุ่มเมื่อคิดว่าอัยยากับผู้ชายคนอื่นกำลังอิงแอบแนบซบกันอยู่ อารมณ์ก็ยิ่งพลุ่งพล่านเกือบจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้ง
“หยา... ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้?”
เสียงพึมพำของชนนท์เหมือนแว่วทะลุเข้ามาในหูของอัยยาทุกถ้อยทุกคำ ร่างกายชาดิกไร้ความรู้สึกโอนเอนพิงไปที่ประตูรถอย่างอ่อนแรง โทรศัพท์ที่ถืออยู่ร่วงตกลงบนเบาะรถ คำพูดของเขาเมื่อครู่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวทำให้เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ขอโทษนะคะ ฉันทำให้คุณเห็นเรื่องที่น่าอายซะแล้ว”
เธอรีบปาดน้ำตา เมื่อเห็นเงาสะท้อนของชายหนุ่มสะท้อนอยู่ในกระจกรถ จึงได้สติว่าไม่ได้อยู่ตามลำพังคนเดียว
ทีปต์มองหญิงสาวโดยไม่พูดอะไร ทั้งตัวคนดูอ่อนล้ามีแต่ความโศกเศร้า สายตาแดงก่ำว่างเปล่าเหมือนสูญสิ้นไม่เหลืออะไรเลย เธอพยายามฝืนยิ้มที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก กำลังจะหันหน้าหนี แต่เขาเอื้อมมือดึงตัวเธอเข้ามาสู่อ้อมอก โอบกอดเอาไว้หลวมๆ
ภายในรถที่วิ่งไปอย่างนิ่มนวลมีเพียงลมหายใจของพวกเขาที่คละเคล้าอบอวลอยู่รอบๆ ตัว...
อัยยาตกตะลึง อยากจะผลักเขาออก แต่เป็นเพราะเจ็บปวดเกินไป ทำให้ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน ได้แต่แอบอิงอยู่ในอกอุ่น ค่อยๆ หลับตาอย่างอ่อนล้า เธอเองไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น ไม่อยากถูกใครมองด้วยสายตาสมเพช แต่ไม่รู้ทำไมพอสบดวงตาลุ่มลึกของเขา ถูกโอบกอดด้วยท่อนแขนกำยำก็พลันรู้สึกอ่อนไหว น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ทีปต์ปล่อยให้เธอปลดปล่อยน้ำตาออกมาเปรอะเสื้อสูทเปียกชุ่ม ตั้งแต่ต้นเขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แค่กอดเธอไว้เท่านั้น ทำตัวเป็นแค่แสดงอาทิตย์ที่มอบความอบอุ่นจางๆ ให้กับเธอ เฝ้ามองเธอร้องไห้ด้วยความปวดร้าวและสิ้นหวังอยู่เงียบๆ ในใจเขาวูบโหวงอย่างไร้สาเหตุ รู้สึกว่าการที่เธอสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดเขาโดยไม่มีเสียงคงเจ็บปวดยิ่งกว่าการกรีดร้องออกมาดังๆ เสียอีก
จู่ๆ ก็อดอิจฉาผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ยิ่งเธอเสียใจมากแค่ไหน ก็แปลว่าเธอรักแฟนหนุ่มมากเท่านั้น
“น้ำตาของคุณมีค่า คุ้มกันไหมที่คุณจะยอมเสียมันให้กับคนที่ไม่คู่ควร” เขาเอ่ยอย่างเย็นชา
อัยยากำเสื้อสูทของเขาแน่น พยายามกล้ำกลืนความเสียใจลงไป แต่ไม่ง่ายเลย ในลำคอของเธอจุกเหมือนถูกของแข็งอุดเอาไว้จนหายใจไม่ออก ในอกเจ็บแปลบเหมือนถูกเข็มนับร้อยนับพันทิ่มแทง
“ฉันรู้ค่ะ ฉันพยายามแล้ว แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี”
ทีปต์เคลื่อนฝ่ามือใหญ่แนบกุมแก้มนวล เงยหน้าเธอให้มองสบตากับเขา แล้วเอ่ยถาม
“งั้นผมจะใช้เวทมนตร์ช่วยทำให้คุณหายเจ็บดีไหม”
“เวทมนตร์?”
“ถ้าอยากรู้ก็หลับตาสิ”
คล้ายจะมีรอยยิ้มอยู่ในท่าทีที่ดูมีเลศนัย แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้อัยยาทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงสนิท
รออยู่เพียงอึดใจเดียว อัยยาก็รู้สึกได้ถึงริมฝีปากเย็นๆ ประทับจูบลงมาบนกลีบปากเธอ กายเธอสะท้านแต่ไม่ได้หลีกหนี ความอบอุ่นของเลือดเนื้อในวงแขนที่โอบกอดเธอ ทำให้อุณหภูมิที่เย็นเฉียบในตัวอัยยาละลาย หัวใจและร่างกายที่หนักอึ้งเหมือนจมดิ่งอยู่ในมหาสมุทรมืดมิดค่อยๆ เบาสบายลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างช้าๆ ให้เธอได้ไขว่คว้าสูดอากาศเข้าปอดเต็มที่ รอดพ้นจากความอึดอัดทรมานที่ถาโถมใส่ไม่ยั้ง
กลิ่นหอมสดชื่นของน้ำยาโกนหนวดดึงดูดความสนใจเธอราวกับมีมนต์สะกด ทำให้เธอหลงลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ มีความหวั่นไหวเข้ามาแทนที่ หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตัก สัมผัสได้ถึงความหวามหวานและรุ่มร้อนที่เคลื่อนคล้อยอยู่บนริมฝีปากเธอ จูบของเขาไม่ได้อ่อนโยนแต่ก็ไม่รุนแรง ลมหายใจหอมสะอาดคลอเคลียอยู่แถวๆ แก้มนวลจนแดงระเรื่อ ก่อนจะลามเลียไปยังใบหู ได้ยินเสียงทุ้มต่ำกระซิบถ้อยคำที่ฟังแล้วสบายใจว่า
“เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง อีกไม่นานเธอจะลืมความเจ็บปวดนี้”
น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นเหมือนจะหอบเอาความเจ็บปวดเสียใจออกไปจนหมด อัยยาตวัดสองมือโอบรอบลำคอเขา จูบตอบคล้อยตามการนำพาที่แสนจะวาบหวามรัญจวนของเขา