ทีปต์มองหญิงสาวที่เดินดุ่มๆ ลากตัวเขาออกมาด้วยโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ได้พูดอะไร แต่ในสมองกำลังประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ดูเหมือนเธอกับผู้ชายคนนั้นจะเป็นแฟนกัน คงเกิดการทะเลาะเพราะเรื่องหึงหวง ส่วนเขาถูกลากเข้าไปเอี่ยวด้วยเพราะบังเอิญอยู่กับเธอ จึงถูกเข้าใจผิดไปโดยปริยาย
เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมายืนอยู่ตรงกลางสมรภูมิของคู่รักหรอกนะ ใครใช้ให้ยายเด็กส่งของคนนี้ส่งสินค้าผิดให้เขากันล่ะ…
เขาเพิ่งเดินทางกลับจากสิงคโปร์ หลังติดต่อเจรจาธุรกิจสื่อบันเทิงกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของที่นั่นสำเร็จ บริษัทอิศราคอร์ปของเขาดำเนินงานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของเมืองไทย เป็นผู้ผลิตและนำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ครอบคลุมไปจนถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ สื่อดิจิทัล คอนเทนต์รายการทีวีและซีรีย์นำเข้าจากต่างประเทศชั้นนำ ทีปต์จึงมีความคิดขยายขอบข่ายงานให้กว้างขึ้น นอกจากนำเข้ารายการบันเทิงแล้ว เขาก็คิดที่จะผลิตซีรีย์และรายการจากประเทศไทยออกฉายทั่วเอเชียบ้าง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมองหาบริษัทสื่อบันเทิงในประเทศที่มีศักยภาพ และบริษัทเจนวายก็เข้าตาเขาที่สุด วันนี้พอลงเครื่องปุ๊บ เขาจึงนัดผู้บริหารของเจนวายมาพูดคุยตกลงกัน จากข้อมูลที่ให้เลขาสืบมาทำให้รู้ว่าวิชาญรักภรรยามาก ประจวบกับหล่อนชื่นชอบน้ำหอมเป็นพิเศษ เขาจึงตั้งใจสั่งน้ำหอมรุ่นใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มีวางขายมอบเป็นของฝากให้แก่ภรรยาเขา หวังสร้างความประทับใจแรก เพื่อช่วยเปิดทางให้การเจรจาง่ายขึ้น
แต่ยายเด็กส่งของนี่กลับทำเรื่องดีๆ ของเขาพังไม่เป็นท่า น้ำหอมราคาแพงกลายเป็นอุปกรณ์สยิวไปเสียได้ โชคยังดีที่วิชาญโทรมาขอเลื่อนนัดเขาออกไปก่อนเพราะติดปัญหาเร่งด่วนบางอย่าง ไม่อย่างนั้นขืนเขาส่งมันให้ภรรยาของคู่ค้าละก็ วิชาญจะมองเขาอย่างไร เขาไม่ต้องกลายเป็นคนบ้ากามตัณหาจัดจนหมดความน่าเชื่อถือไปเลยหรือ ไหนจะธุรกิจที่กำลังจะเจรจาตกลงกันอีกล่ะ คงไม่แคล้วต้องเกิดความเสียหาย สูญเสียเม็ดเงินนับพันล้านบาทเลยทีเดียว
ทั้งหมดเป็นเพราะยายเด็กส่งของตรงหน้าเขาคนเดียว!
ความคิดของทีปต์สะดุดลง อีกฝ่ายหยุดเดินเมื่ออยู่ตรงลานจอดรถหน้าทางเข้าโรงแรม เธอปล่อยมือหันมาเอ่ยกับเขาอย่างนักขายมืออาชีพว่า
“สินค้าที่คุณลูกค้าซื้อไปแล้ว ถ้าหากไม่พอใจหรือมีปัญหา สามารถแจ้งเปลี่ยนได้ภายในเจ็ดวันที่หน้าเว็บเพจของทางร้านค่ะ หมดเรื่องแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
ทีปต์เลิกคิ้ว เธอคิดจะปัดความรับผิดชอบแล้วชิ่งหนีเขาไปง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ...
คิดอะไรตื้นๆ เกินไปรึเปล่า?
เขาหนีบคอเสื้อแม่สาวเจ้าเล่ห์ที่เดินผ่านหน้าเขาไป คิดจะแยกตัวใครตัวมัน ทำให้เธอชะงักนิดหนึ่ง เสื้อรั้งคอทำให้เดินต่อไม่ได้ จึงเริ่มสะบัดตัว ทั้งดิ้นทั้งขืนตัวหมายจะก้าวขาให้ออก แต่มือที่เหนียวหนึบเหมือนกาวตราช้างตรึงขาเธอไว้จนก้าวอย่างไรก็ก้าวไม่ออก
เธอหันขวับมองเขาตาเขียวปั๊ด ทีปต์ยิ้มรับอย่างเยือกเย็น
“ก่อนไป คุณลืมอะไรรึเปล่า”
“ฉันก็บอกคุณไปชัดเจนแล้วไงคะว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้ติดต่อทางร้าน”
“คุณเป็นคนผิดแล้วคิดจะโบ้ยให้คนอื่นรับเหรอ”
อัยยาฟังแล้วฉุนกึก เขาสั่งของ เธอก็มาส่งให้แล้วตรงตามเวลาเป๊ะ เขาจะเอายังไงกับเธออีก
“เอ๊ะ...คุณลูกค้า! ไม่ทราบว่าฉันไปทำอะไรให้คุณเสียหายเหรอคะ คุณถึงได้ตามจิกกันไม่ปล่อยสักที”
“คุณส่งของผิด ผมสั่งน้ำหอม แต่คุณกลับส่งของพรรค์นั้นให้ผม คุณทำงานชุ่ยขนาดนี้ จะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไง”
เขาพูดพร้อมกับยัดของใส่มือเธอ ตอนเห็นอุปกรณ์ลามกอนาจารอยู่ในนั้น เขาโกรธจนควันออกหู
“คุณบอกว่าสั่งน้ำหอมเหรอ?”
อัยยาหน้าเหวอ ก่อนจะพลันเข้าใจ แทบจะยกมือตบหน้าผากในความซื่อบื้อของตัวเอง จริงๆ เด็กที่ร้านไม่ได้แปะชื่อผู้รับผิด แต่เป็นเธอที่เข้าใจผิดไปเอง
ผู้ชายคนนี้สั่งน้ำหอม ส่วนอุปกรณ์แสนสยิวพวกนี้เป็นแพรวาที่ใช้ชื่อปลอมสั่งงั้นหรือ?
หญิงสาวขบฟันเม้มปากแน่น เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ แพรวาจงใจประกาศให้เธอรู้ถึงความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างหล่อนกับชนนท์สินะ ที่ให้เธอมาส่งของสยิวคงหวังจะเห็นเธอเห็นภาพบาดตาบาดใจของพวกเขา เสียใจจนอกแตกตาย แต่บังเอิญเธอมีลูกค้าอีกรายมาส่งของที่เดียวกัน สินค้าจึงถูกสลับกันเพราะความผิดพลาดของเธอเอง
“นังตัวแสบ...” เธอสบถเสียงลอดไรฟัน อยากจะรู้จริงๆ ว่าบนโลกนี้ยังจะมีใครที่หน้าด้านไร้ยางอายเหมือนน้องสาวนอกไส้อีกไหม
“คุณพูดว่าอะไรนะ” ทีปต์เลิกคิ้วถาม