และแล้ววันที่ฉันตั้งตารอก็มาถึง ชุดพื้นเมืองสุภาพสีขาวพร้อมกับผ้าถุงราคาแพงถูกสวมเข้ามาในตัว ใบหน้าถูกแต่งแต้มโดยช่างฝีมือดีตั้งแต่ไก่เริ่มโก่งคอโห่ร้อง บริเวณรอบบ้านแทบจะไม่ได้จัดตกแต่งอะไรเพิ่ม ไม่ได้มีญาติพี่น้องมาร่วมเป็นสักขีพยาน มีเพียงพ่อ แม่ และฉันที่รออยู่ในบ้านสวนที่ร่มรื่น รอเวลาให้ถึง 9.09 น. เพื่อจะเริ่มพิธี แต่จนป่านนี้ 8.45 น. แล้วยังไม่มีรถคันไหนเลี้ยวเข้ามาเลย “ว่าแล้วเชียว! มันต้องชิ่งหนี” พ่อตบเข่าฉาดใหญ่ขณะที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาในบ้านในจุดที่เตรียมเอาไว้สำหรับผูกข้อมือ “พี่ไทน์เขาไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นสักหน่อย” “เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน แกรู้ได้ยังไงว่ามันนิสัยยังไงฮะ” “หนูก็บอกพ่อแล้วไงว่าเคยเรียนมัธยมด้วยกัน เรารู้จักกันมา 6 ปีแล้วนะพ่อ แต่เพิ่งจะมาคบกันตอนมหาลัยเฉย ๆ” ฉันเอ่ยเถียงออกไปแทนพี่ไทน์ ถึงเราจะไม่ได้สนิทกันมาก่อน แต่เท่าที่ฉันตามส่องและเกาะติดชีวิตเขาม