บทที่ 8 ความรู้สึกเริ่มก่อตัว

1619 Words
เจียวลู่เดินมาหยุดหน้าจางลี่ซือที่กำลังตกใจกับดาบเล่มยาวซึ่งขวางกั้นตนอยู่ ก่อนจะเอ่ยปากว่า… “มีรับสั่งจากหยางอ๋องเมื่อครู่อนุญาตให้ซือหวางเฟยเข้าใกล้ลูกปีศาจเสือขาว พวกเจ้าถอยไป” เมื่อเห็นว่าองครักษ์คนสนิทอย่างเจียวลู่ออกตัวต่างก็ล่าถอยและประสานมือขึ้นคำนับขออภัยจางลี่ซือในฐานะหวางเฟยด้วยความนอบน้อม นางไม่ติดใจเอาความอะไรเพราะรู้ว่าทหารทุกนายทำตามหน้าที่ อีกทั้งนางเพิ่งขออนุญาตเมื่อครู่ จะให้คนพวกนี้หยั่งรู้คำสั่งทันทีก็หาใช่เรื่องไม่ เดินผ่านเลยไปถึงกรงลูกสัตว์ปีศาจเสือขาว ทันทีที่นางเข้าไปใกล้มันก็ลุกขึ้นมาขู่ทันที ทหารที่เฝ้ากรงอยู่รีบปรี่เข้ามาคุ้มกันจางลี่ซือทันที ทว่านางกลับยกมือขึ้นห้ามและแหวกการอารักขาเข้าไปใกล้กรง ต่อมาจางลี่ซือก็ถูกเจียวลู่ยกแขนขึ้นป้องห้ามนางเอาไว้ “อย่าเข้าใกล้กรงไปมากกว่านี้จะดีกว่าพะยะค่ะซือหวางเฟย มิเช่นนั้นจะเกิดอันตรายต่อตัวท่านได้” “ข้าไม่เป็นไร ลูกปีศาจเสือตัวนี้บาดเจ็บ ข้าเพียงแต่จะทำการรักษาให้มัน” “ขอประทานอภัยพะยะค่ะ เสี่ยงอันตรายเกินไปกระหม่อมจำเป็นต้องทูลต่อหยางอ๋อง หากทรงทราบต้องไม่พอใจแน่พะย่ะค่ะ” ท่าทางและสีหน้าของเจียวลู่แสดงออกว่าไม่มีทางยอมให้นางเข้าใกล้สัตว์ปีศาจตัวนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนางเองเพราะเจียวลู่มีหน้าที่อารักขาและดูแลนางให้สุขสบายปลอดภัย “เจียวลู่!”จางลี่ซือเรียกบุรุษด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ท่าทางของนางวางมาดเช่นคนมีอำนาจบาทใหญ่ “มิได้พะยะค่ะ!”แต่ทางเจียวลู่เองผู้ที่เป็นทหารองครักษ์มานานไม่มีทางโอนอ่อนให้กับนางเป็นแน่ “ข้าผู้นี้คือใคร” “ซือหวางเฟยพะยะค่ะ” “การที่ข้าจางลี่ซือผู้ดำรงตำแหน่งหวางเฟยนั้นเพิกเฉยต่อสัตว์ตัวเล็ก ๆ เจ้าว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำหรือไม่ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปชื่อเสียงของหยางอ๋องจะต้องแปดเปื้อนเป็นแน่ เจ้ายอมอย่างนั้นหรือ?” “ระ เรื่องนั้น…” “ข้าเพียงแต่เมตตาลูกปีศาจเสือขาวตัวนี้เท่านั้น หากเจ้าจะทูลต่อหยางอ๋องข้าก็มิห้ามแต่อย่ามาขวางทางข้าในการทำหน้าที่ของหวางเฟย” จางลี่ซือเดินไปหยุดอยู่หน้ากรงแล้วยื่นมือออกไปเพื่อหลอกล่อให้ลูกปีศาจเสือเดินมาหานาง มันตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวไม่ต่างจากตัวนางในอดีต …เจ้าช่างเหมือนข้าเหลือเกิน ต้องเสียท่านแม่ไป อยู่ท่ามกลางคนในตระกูลที่ดูถูกเหยียดหยามข้า แล้วตอนนี้ก็ยังถูกส่งตัวมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยอีก… “เปิดกรงให้ข้าที” “มิได้พะยะค่ะ” ทหารตอบด้วยน้ำเสียงแข็งขัน เจียวลู่ย่อตัวลงเสมอนางก่อนจะเอ่ยปากว่า… “หากท่านต้องการเปิดกรงสัตว์ดุร้ายจำต้องทูลขออนุญาตจากหยางอ๋องก่อนพะยะค่ะ” นางถอนหายใจก็จะตัดสินใจเดินกลับไปขออนุญาตจากอันตงหยาง แน่นอนว่าบุรุษตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น… “ไม่!” ได้ยินดังนั้นนางก็คอตก ทำหน้าหงอยขึ้นมาทันที ทว่าก็ไม่อาจหันหลังกลับ นางมีใจกล้าที่จะขออนุญาตจากอันตงหยางให้ได้ แม้จะโดนสายตาเย็นยะเยือกจ้องมองจนแทบทะลุก็ตาม “แต่หม่อมฉันสามารถรักษามันได้นะเพคะ ทรงอนุญาตให้หม่อมฉันเปิดกรงสัตว์เถอะเพคะ” “มันอันตรายเกินไป เจ้าเคยโดนพิษของมันแล้วนี่ จำมิได้หรือ?”ว่าจบก็ก้มหน้าก้มตาอ่านตำราในมือต่อ แน่นอนว่าจางลี่ซือไม่ยอมแพ้ “นั่นแม่ของมันนี่เพคะ แต่อันนี้ลูกของมัน ตัวเล็กนิดเดียวเองเพคะ”นางว่าพลางใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บรรจบกันในท่าจีบมือเพื่อประกอบการพูด “อย่าหาดูถูกว่าสัตว์ตัวเล็กจะไม่มีพิษ อย่างไรก็ไม่ได้” “หยางอ๋องเพคะ นะเพคะ ทรงอนุญาตหม่อมฉันนะเพคะ” “…”บุรุษยังคงนิ่งเฉย ดวงตาคมไม่เหลือบมองนางแม้แต่น้อย จ้องมองตำราเช่นคนมีสมาธิ แต่หารู้ไม่ว่าอันตงหยางไม่มีสมาธิเลยสักนิดเพราะความออดอ้อนของนาง “หยางอ๋องเพคะ ท่านผู้มีเมตตา ให้ซือเอ๋อร์ผู้นี้ได้ทำตามหน้าที่หวางเฟยเถอะเพคะ” คราวนี้นางใช้ไม้ตายคุกเข่าเกาะขอบโต๊ะสำหรับอ่านตำราของบุรุษ ช้อนตาขึ้นมองอันตงหยางดั่งลูกแมวน้อย แต่บุรุษก็ไม่มีท่าทีสนใจนางเลยแม้แต่น้อย “จงมีเมตตากับสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อตนเอง” “หยางอ๋องเพคะ”ยื่นมือออกไปจับชายเสื้อของบุรุษแล้วใช้สายตาออดอ้อนเว้าวอนสุดฤทธิ์”ทรงอนุญาตหม่อมฉันนะเพคะ” หลังจากรบเร้าอยู่นานอันตงหยางก็ทอดถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยปากว่า… “ได้ แต่หากมันทำร้ายเจ้าขึ้นมาข้าจะฆ่ามันทันที” “เพคะ!?” “หรือว่าเจ้าไม่มั่นใจว่าลูกปีศาจเสือตัวนั้นจะไม่ทำอันตรายเจ้า” “เอ่อ รับทราบเพคะ ขอบพระทัยเพคะหยางอ๋อง” แล้วทั้งสองก็เดินคู่กันไปยังสถานที่ขังลูกปีศาจเสือทันที อันตงหยางออกคำสั่งให้เปิดกรง ขางลี่ซือค่อย ๆ ขยับไปหาลูกปีศาจเสือตัวนั้นแล้วดูท่าทางมันครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือออกไปหามัน “ไม่เป็นไรนะเจ้าเสือน้อย ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”นางว่าด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทางอ่อนหวาน อันตงหยางไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองนั้นได้เผลอมองนางอย่างไม่ละสายตา ทว่าเสี้ยววินาทีที่นั้นเองลูกปีศาจเสือได้ใช้เท้าหน้าของมันยกขึ้นมาตวัดใส่ฝ่ามือของจางลี่ซือจนนางเผลอร้องด้วยความเจ็บ แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นลูกปีศาจตัวเล็ก ๆ แต่อย่างไรก็เป็นปีศาจ กรงเล็บของมันจึงมีพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต อันตงหยางตวัดดาบขึ้นมาพร้อมเพรียงกับเหล่าทหารหมายปลิดชีพลูกปีศาจเสือตัวนี้ ทว่าจางลี่ซือกลับลุกขึ้นปกป้อง นางจับข้อมือของบุรุษแล้วพยายามบอกว่านางไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย “หยางอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่เป็นอะไร บาดแผลสามารถสมานเองได้เพคะ ว้าย!”ร่างนางถูกบุรุษผลักไปด้านหลังโดยมีเจียวลู่คอยรับเอาไว้ จางลี่ซือร้องเสียงหลงเมื่ออันตงหยางเงื้อดาบขึ้นเตรียมตวัดลงมา”กรี๊ด!!” ปรี่เข้าไปโอบกอดบุรุษเต็มรักพร้อมกับร่ำไห้สะอึกสะอื้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนรอบข้าง อันตงหยางชะงักค้าง ก้มลงมองสตรีตัวน้อยในอ้อมอก “ลูกปีศาจเสือตัวนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากหม่อมฉัน ได้โปรดประทานอภัยให้มันด้วยเพคะ ฮืือ” จางลี่ซือตัวสั่นเทา บุรุษยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ปิดกรงก่อนจะโอบอุ้มร่างบางขึ้นมาไว้ในวงแขนแกร่งพร้อมทั้งออกคำสั่งเสียงเรียบ “ตามหมอมา” พานางมารักษาตัวที่เรือนไท่หยาง ทว่านางยังคงกอดบุรุษแน่นด้วยกลัวว่าอันตงหยางนั่นจะกลัับไปสังหารลูกปีศาจเสือ อีกทั้งนางยังคงต้องการไออุ่นของใครสักคนในการปลอบโยนให้หายผวา ภาพที่อันตรงหยางเงื้อดาบขึ้นสูงนั้นยังคงติดตานางอยู่ คล้ายกับฝันร้ายของนางหวนกลับมาทำให้นางไม่สามารถหยุดร่ำไห้ได้อีกทั้งยังตัวสั่นไม่ต่างอะไรจากลูกแมวตกน้ำ อันตงหยางจึงจับร่างนางนั่งตักแล้วให้หมอตรวจเช่นนั้น ผลออกมาว่าในร่างกายนางมีพิษของสัตว์ปีศาจอยู่แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม นอกนั้นก็ไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงเพียงแค่มีอาการตกใจอย่างมากเท่านั้นจึง จึงได้จุดกำยานเพื่อให้นางสงบจิตสงบใจและผ่อนคลาย กลิ่นกำยานหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุน ทำให้จางลี่ซือรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังไออุ่นที่โอบกอดตัวนางนั้นทำให้นางเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา บุรุษก้มมองสตรีตัวน้อยในอ้อมกอด ก่อเกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา นางช่างตัวเล็ก น่าทะนุถนอม แม้จะมีท่าทางหวาดกลัวตนแต่ก็พยายามเข้าหา เอาอกเอาใจ แม้จะรู้ว่านางมีจุดประสงค์เพื่อให้เขาเอ็นดูก็ตาม แต่… จะไม่ให้เอ็นดูนางได้อย่างไร นางเล่นนั่งอยู่บนตักอีกทั้งยังหลับสบายอยู่ภายในอ้อมกอดของเขาจะมีสตรีใดกล้าทำแบบนางได้เล่า มีแต่ก้มหน้าก้มตาหลบ วิ่งหนีป่าราบเพียงแค่เหลือบสายตามองเท่านั้น “เจียวจิ้น”เอ่ยปากเรียกองครักษ์หน้าห้องเสียงเรียบ เมื่อผู้เป็นนายเรียกตนก็รีบเปิดประตูห้องเพื่อรับคำสั่งทันที “พะยะค่ะ” “ป่าวประกาศให้ทหารรู้โดยทั่วกันว่าข้าอนุญาตให้ซือหวางเฟยเข้าออกเขตสัตว์ปีศาจได้ แต่ต้องมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา” “รับทราบพะยะค่ะ”เมื่อได้รับคำสั่งก็รีบเดินออกไปทันที “เจียวลู่”ขณะที่เรียกหาเจียวลู่ก็ลึกขึ้นโอบอุ้มร่างบางขึ้นมา ก่อนจะวางนางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา “คอยดูแลนางอยู่ที่นี่ หากนางตื่นมาแล้วอยากกลับเรือนโม่ลี่ฮวาจงตามใจนาง” “รับทราบพะยะค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD