“ใครล่ะ... ไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันยอมรับของเหลือเดนต่อจากฉันน่ะ”
“อืม...ยังระบุชัดเจนไม่ได้หรอกค่ะ แต่เท่าที่เห็นก็กดบัตรคิวรอกันอยู่หลายคนนะคะ ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ คบทำความรู้จักกันไปก่อน จะได้ไม่พลาดอีก”
มธุมาสยกนิ้วม้วนปลายผมเล่น พูดกับเขาเหมือนพูดคุยสัพเพเหระกับเพื่อนสนิท ดวงตาสวยเฉี่ยวของมธุมาสวิบวับเหมือนดวงดาวที่สุกสกาวอยู่บนนภาราตรี เธอหัวเราะเสียงใสดังกังวานเหมือนแก้ว แต่ฟังแล้วขัดหูเขาชะมัด ซ้ำยังระคายหูมากๆ จนแทบทนไม่ไหว ริมฝีปากบางหยักโค้งขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะยิ้มและคล้ายจะเยาะอยู่ในที
“มันอยากมากจนทนไม่ไหวเลยรึไง”
“เรื่อง ‘ส่วนตัว’ ขอไม่ตอบนะคะ เพราะเราไม่ได้ ‘สนิท’ กัน” เธอเน้นช้าชัดให้พ่อคนสมองปลาทองพึงสำเหนียกเสียใหม่ว่า
เราไม่เคยเป็นอะไรกัน!
ถึงจะแต่งงานกันมาเกือบสี่ปี แต่ไม่เคยนอนร่วมเตียง ไม่เคยแนบชิดเคียงกายกันสักครั้ง ฉะนั้นคำว่า ‘เหลือเดน’ ที่กัญจน์พูดจึงออกจะเกินจริงไปมากโข
“เสร็จเรื่องแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” มธุมาสลุกขึ้นคล้องกระเป๋าไว้บนแขน ยืนเชิดหน้าใส่เขา ไม่หลงเหลือความรักในเศษเสี้ยวแววตา ไม่มีความอาวรณ์หรือเสียดายเลยสักนิด
“หย่ากันแล้วก็ขอให้เราจบกันแค่นี้ ต่างคนต่างอยู่ อย่ามาข้องแวะกันอีกเลย ฉันหวังว่าสุภาพบุรุษอย่างคุณกัญจน์คงจะไม่ใจคอคับแคบ คิดเล็กคิดน้อย หาทางกลั่นแกล้งบริษัทเล็กๆ ของฉันหรอกมั้งคะ”
พูดจบก็หันหลังเดินจากมา โดยไม่รอดูสีหน้าถมึงทึงที่เหมือนจะฆ่าคนได้ของท่านประธานหนุ่ม จงใจยืดไหล่หลังตรงอย่างสง่าให้เขาได้เห็น แม้แววตาจะหลุบต่ำซุกซ่อนความปวดร้าวคราวที่หวนนึกถึงวันวาน...
ในช่วงฤดูร้อนแดดเปรี้ยง อากาศอบอ้าวจนเธออ้อนชวนกัญจน์ไปเล่นน้ำในสระ จู่ๆ ก็เกิดเป็นตะคริวที่น่อง ปวดจนขยับขาไม่ได้ ร่างของเธอจมดิ่งลงสู่ก้นสระที่ลึกกว่าสองเมตรอย่างรวดเร็ว
ในช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตายกัญจน์ว่ายน้ำช่วยเธอขึ้นมาจากสระอย่างทุลักทุเล ทั้งปั้มหัวใจทั้งผายปอดจนเธอสำลักน้ำออกมาจนหมด รอดตายอย่างหวุดหวิด
“มาร์ไม่เป็นอะไรแล้วนะ” เธอลืมตาก็เห็นรอยยิ้มดีใจแกมโล่งอกลอยเด่นห่างจากใบหน้าไม่ถึงคืบ ริมฝีปากเขายังคลอเคลียแถวๆ ริมฝีปากเธออยู่เลย
มธุมาสพยักหน้าตอบเขาเบาๆ ในสมองมึนงง แต่หัวใจกลับระส่ำขัดเขิน เมื่อรู้ตัวว่าเพิ่งเสียจูบแรกไปหยกๆ ถึงจะเป็นเหตุสุดวิสัยที่เขาทำเพื่อช่วยชีวิตเธอก็เถอะ
สาวน้อยในตอนนั้นหน้าแดงแก้มแดง ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม เอาแต่หลุบหลบสายตาคมๆ ของเขาที่มองมา
เธอในวัยสิบหกหัวใจผลิบาน ได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก...
เหมือนกัญจน์จะรู้ความในใจเธอ เขาช่ยประคองเธอขึ้นอยู่ในอ้อมแขน กระซิบบอกเธอเสียงทุ้มต่ำเจือแววล้อว่า
“พี่คือจูบแรกของมาร์ใช่มั้ย”
มธุมาสยิ่งก้มหน้างุดแทบจะมุดหายเข้าไปในอกกว้างของเขา ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ทิ้งไว้เพียงรอยแดงซ่านบนใบหน้าเป็นหลักฐานยืนยันชั้นดี
เด็กหนุ่มในวัยยี่สิบเอ็ดหัวเราะเบาๆ แล้วเชยคางเธอขึ้นให้มองสบตาหวามหวานของเขา เอ่ยเสียงแผ่ว แต่ดังสะท้อนก้องอยู่ในใจเธอว่า
“ไว้รอมาร์โตกว่านี้อีกหน่อย เรามาเป็นแฟนกันนะ”
“พี่กัญจน์” เธอมองเขาตาโต อุทานอย่างไม่เชื่อ
“มาร์จะแต่งงานกับพี่ใช่มั้ย” เขาถามย้ำ
เด็กสาวจ้าของใบหน้าแดงซ่านเผยยิ้มดีใจ หัวใจเต้นแรงลิงโลดแทบทะลุออกมานอกอก ตอบรับเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงหวานจ๋อยว่า
“ค่ะ มาร์จะแต่งกับพี่กัญจน์คนเดียว”
มธุมาสยิ้มขื่น จบแล้วความรักของเรา คำสัญญาของเรา...