ตอนที่ 10 โลกใบใหม่

1099 Words
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ แบมแค่ดีใจมากไปหน่อย” “อย่ามัวแต่ดีใจ รีบกินเข้าฉันมีประชุมเช้านะ ไหนจะต้องไปบ้านคุณแม่อีก ไม่รู้จะถึงโรงพยาบาลกี่โมง” “ค่ะๆ แบมจะรีบกินให้หมดเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” แล้วเธอก็รีบตักโจ๊กขึ้นมากินหลังจากเช็ดน้ำตาตัวเองที่มันยังไม่แห้งสนิท และเพราะรีบมากเธอก็เกือบจะสำลักอาหาร ดีที่เขายื่นแก้วน้ำให้ทัน “กินช้าๆ หน่อยก็ได้ ฉันยังไม่อยากเห็นใครมาตายที่บ้านตอนนี้” “ก็คุณบอกว่ารีบนี่คะ” เธอลืมตัวหันไปมองค้อนเขา “อย่ามาประชด” เขาว่าให้ ก่อนจะยกน้ำมาดื่มแต่ก็พบว่าแก้วน้ำของตัวเองเขาดันส่งไปให้เธอดื่มเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อกี้ เขาเลยเอื้อมมือไปหยิบแก้วของเธอมาดื่มแทนโดยที่เธอได้แต่มองตาปริบๆ “อิ่มหรือยังล่ะ ถ้าอิ่มแล้วก็ไปกันเลย” “ค่ะ อิ่มแล้ว” “งั้นก็ไปเถอะ ออกสายเดี๋ยวก็รถติดยาว” “คนอะไรขี้บ่นจริงๆ” เธอพึมพำออกมา “ว่าอะไรนะ” “เปล่าค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร ไปครับน้องธรณ์ไปบ้านคุณย่ากันนะ” แล้วเธอก็เป็นคนอุ้มลูกชายลงจากเก้าอี้เอง ก่อนจะจูงมือเขาให้เดินเคียงกันไปโดยมีสาวใช้ถือกระเป๋าเป้ของลูกชายตามไปด้วย ไม่นานพวกเขาก็ออกเดินทางด้วยรถเอสยูวีคันใหญ่แล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของบิดามารดาเขาอย่างรวดเร็ว โดยที่ลูกชายนั่งอยู่เบาะหน้าคู่คนเป็นพ่อเพราะเขาติดตั้งคาร์ซีทไว้ตรงนั้น เธอก็เลยต้องนั่งเบาะหลังไปโดยปริยาย คฤหาสน์นิธิพลวัฒน์ ภีมพิมลแหงนหน้ามองคฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์คลาสสิกโทนครีมตัดน้ำตาลตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนร่มรื่น ต้นลีลาวดีเรียงรายตลอดทางเดินส่งกลิ่นหอมจางๆ คล้ายต้อนรับผู้มาเยือน “ถึงบ้านคุณย่าแล้วครับคุณแม่” ลูกชายหันมาบอกด้วยท่าทางร่าเริง “ครับ” เธอพยักหน้ารับน้อยๆ แม้ในใจจะเต้นตึกตักเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะยินดีต้อนรับเธอหรือไม่ หรือพวกเขาจะตั้งแง่รังเกียจผู้หญิงคนนี้เหมือนพ่อของลูก ตรงที่นั่งคนขับเธียรทรรศน์เหลือบมองผ่านกระจกหลังเพียงเสี้ยววินาที ก่อนหันกลับไปจับพวงมาลัย สีหน้าเขานิ่งราวกับคนที่ไม่อยากให้ใครอ่านความคิดออก รถจอดสนิทตรงลานหน้าบ้านก่อนที่พวกเขาจะก้าวลงจากรถ และเมื่อประตูบ้านเปิดออกหญิงวัยกลางคนรูปร่างสมส่วนใบหน้าสวยหวานสะอาดตา แววตาอ่อนโยน ก็เดินออกมาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวล “มาถึงกันแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงของวาสิตามารดาของเธียรทรรศน์ฟังดูอบอุ่นเสียจนภีมพิมลต้องก้มหลบสายตาเพราะรู้สึกอายกับสิ่งที่เธอทำลงไป “คุณย่า!” หนุ่มน้อยขวัญใจของบ้านวิ่งเข้าไปกอดเอวคุณย่าของเขาแน่น วาสิตาก้มลงอุ้มหลานขึ้นมาแนบอกด้วยท่าทางคุ้นเคย “คิดถึงย่ามั้ยครับ” ท่านถามแบบนี้ทุกครั้งที่หลานมา แม้จะได้เจอกันแทบทุกวันอยู่แล้วก็ตาม “มากครับ!” รอยยิ้มของวาสิตากว้างขึ้น ก่อนสายตาจะเลื่อนไปยังหญิงสาวที่ยืนข้างรถ ภีมพิมลรีบยกมือไหว้อย่างรู้หน้าที่ก่อนจะเอ่ยทักทายออกไป “สวัสดีค่ะคุณป้า” คิดว่าเธอคงไม่ต้องแนะนำตัวให้มากความเพราะเมื่อวานนี้เขาคงจะเล่าเรื่องของเธอให้มารดาฟังทั้งหมดแล้ว รวมถึงชื่อของเธอด้วย “ไม่ต้องเรียกป้าหรอกลูก เรียกคุณแม่เหมือนตาเธียรเถอะจ้ะ” ภีมพิมลชะงักเล็กน้อยดวงตากลมโตไหววูบก่อนจะยิ้มเก้อ “ค่ะ…คุณแม่” เธียรทรรศน์ปิดประตูรถแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ผมต้องฝากแม่ดูแลธรณ์กับ…แม่ของเค้าไปก่อนนะครับ วันนี้ผมมีประชุมยาวอาจจะมารับสองคนนี้ค่ำหน่อย ไม่ต้องรอกินมื้อเย็นนะครับ ผมจะจัดการมาก่อนเข้าบ้านเลย” “ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ เดี๋ยวแม่ดูแลให้เอง” วาสิตาพยักหน้ารับรู้ก่อนตอบออกไป “ขอบคุณครับ ดูแลลูกให้ดีล่ะ แล้วอย่ารบกวนคนที่นี่เค้า” เขาหันไปบอกภีมพิมลเสียงเข้ม ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไป ไม่นาน ธรรศกรก็เดินตามออกมาเขายืนอยู่ที่ประตูบ้าน ยิ้มบางๆ ให้คนมาใหม่อย่างเป็นมิตร “เข้ามาสิลูก” น้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงความใจดีทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา “สวัสดีค่ะคุณลุง” “ลุงอะไรกัน เรียกพ่อเถอะ ยังไงก็แม่ตาธรณ์ถือเป็นลูกสาวของพ่ออีกคนนะ” “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” แล้วเธอก็เดินตามทุกคนเข้าไปในบ้าน บรรยากาศในบ้านหอมเครื่องหอมบางอย่างเจือด้วยกลิ่นดอกลีลาวดีจากสวน เฟอร์นิเจอร์ไม้สักทุกชิ้นที่เธอเดินผ่านถูกขัดจนเงาวับ ผ้าม่านสีครีมพลิ้วไหวตามแรงลมจากช่องหน้าต่างให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายได้อย่างประหลาด น้องธรณ์ลงจากอ้อมแขนคุณย่าแล้ววิ่งไปนั่งที่พรมกลางห้อง แล้วเล่นตัวต่อรูปสัตว์ด้วยความเพลิดเพลิน แต่ภีมพิมลกลับยืนเก้ๆ กังๆ แล้วมองไปรอบๆ เพราะทำตัวไม่ถูกนัก วาสิตาจึงหันมาชวนคุยอย่างอ่อนโยน “แล้วนี่กินมื้อเช้ากันมาหรือยังล่ะลูก” “เรียบร้อยแล้วค่ะ เช้านี้แบมทำโจ๊กหมูเด้งให้สองพ่อลูกเค้ากินค่ะ” “อร่อยมากเลยครับคุณย่า” หลานชายรีบพูดขึ้น เรียกรอยยิ้มให้คนถูกอวยได้เป็นอย่างดี “ถ้างั้นเดี๋ยวไปช่วยแม่เตรียมของว่างหน่อยนะจ๊ะ” “ได้ค่ะ” หลังจากรับคำผู้ใหญ่ เธอก็เดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปในครัวอย่างไม่อิดออด ครัวของบ้านนี้กว้างขวาง สะอาด และเป็นระเบียบ เครื่องครัวจัดวางเป็นหมวดหมู่จนเธอรู้สึกเกรงใจที่จะหยิบจับอะไร วาสิตาเปิดตู้เย็นหยิบแป้งพายสำเร็จรูปและไส้ทาร์ตผลไม้ออกมา “แม่ว่าจะทำทาร์ตผลไม้ไว้ให้ตาธรณ์กินตอนบ่าย หนูพอจะช่วยแม่จัดหน้าผลไม้ได้มั้ยจ๊ะ” “ได้ค่ะ” มือเรียวของภีมพิมลค่อยๆ จัดเรียงสตรอว์เบอร์รี กีวี และบลูเบอร์รีลงบนฐานครีมวานิลลาอย่างบรรจงและสวยงาม กลิ่นหอมหวานลอยคลุ้ง วาสิตามองสิ่งที่อีกฝ่ายทำด้วยสายตาพึงพอใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD