4
[DENIS]
ต้องตา ต้องใจ
วันต่อมา...
ฉันไม่ง้อเดมี่ เธองอนก็ให้งอนไป ยังคงทำงานของฉันตลอดทั้งวัน ซึ่งวันนี้ไม่มีอะไรน่าปวดหัว เรือที่ขนของของยากูซ่าเทียบท่าหมดแล้ว จากที่ใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ส่วนเรื่องร้านอาหารก็ขายดีมาก ดีจนตอนนี้เงินไหลเข้ารัวๆ จองคิวข้ามวันข้ามเดือนเพื่อจะเช็คอินกินให้ได้
ฉันจึงอยากผ่อนคลายบ้างเพราะเหนื่อยมาหลายวันแล้ว พอดวงอาทิตย์ตกดินก็สะบัดแปรงแต่งหน้าไปบาร์โฮส ซึ่งบาร์โฮสแห่งนี้หรูที่สุดในประเทศไทย นอกจากโฮสจะหน้าตาดี มีระดับ สะอาดสะอ้าน ยังเก็บความลับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
•••
-BISHAMON CLUB-
ทุกครั้งที่มาบาร์โฮสฉันไม่พกบอดี้การ์ดติดตัวมามาก มีแค่ธณินที่คอยคุ้มกันห่างๆเท่านั้น ที่นี่ยังคงให้บรรยากาศเหมือนเดิม แสงสลัว เพลงคลอเบาๆ ปลอดภัยเต็มไปด้วยการ์ด แต่ระหว่างที่เดินผ่านตู้กระจกจะไปเลือกชายหนุ่มรูปงามมานวดเท้าเล่นๆ
พนักงานก็รีบเดินก้มหน้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว
"สวัสดีครับนายหญิง" ที่นี่จะไม่มีใครเรียกชื่อลูกค้า ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าฉันเป็นใคร
"ฉันจะไปเลือกเด็ก"
"ตอนนี้เด็กยังไม่สะดวกครับ นายหญิงรอที่ห้องรับรองสักสิบนาทีนะครับ ผมจะพาไปให้เลือกถึงที่"
ฉันปรายตามองอย่างหงุดหงิด แต่สายตาดันไปสะดุดกับร่างสูงโปร่งใส่สูทยาว ที่กำลังยืนหันข้างล้วงกระเป๋ากางเกงหันหน้าไปที่หนุ่มๆ
สันจมูก ไรผม สีผิว การแต่งตัวที่สง่า... ฉันพูดได้เต็มปากว่าผู้ชายคนนี้หล่อที่สุดเท่าที่เที่ยวบาร์โฮสมา
"ฉันเลือกคนนั้น" พนักงานหันขวับไปมอง
"คะ คนนั้นไม่ได้ครับ"
"ทำไม มีใครจ่ายมากกว่าฉันงั้นเหรอ?"
"ไม่ได้จริงๆครับ คนนั้นไม่ได้เด็ดขาดครับ"
"ห้าแสน"
"ไม่ได้ครับ"
"หนึ่งล้าน"
"นะ นายหญิง"
"ฉันจะเอาคนนั้น! ถ้าไม่ได้ฉันจะถอนเมมเบอร์ที่นี่!" พนักงานหน้าซีด แหงล่ะเพราะฉันเป็นลูกค้าเบอร์หนึ่งจ่ายไม่อั้น แต่ละเดือนหมดไปหลายล้าน
"อย่าถอนเลยนะครับ ผะ ผมจะไปถามดูครับ" พนักงานรีบเดินไปที่ห้องกระจกพูดอะไรบางอย่างกับโฮสที่ยืนอยู่ ส่วนฉันกอดอกรอ พยายามมองหน้าผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง
... แค่ด้านข้างเอง แต่จำเป็นต้องหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าเห็นหน้าเต็มๆแล้วโดน แล้วใช่ ฉันได้หิ้วกลับไปกินที่เพนท์เฮาส์แน่ๆ
"ธณิน"
"ครับคุณเดนิส"
"ไปซื้อถุงยางอนามัยให้ฉัน" ธณินเงียบกริบ แต่เมื่อฉันหันไปมอง มือขวาของฉันกลับยืนอึ้งตาเบิกกว้าง
"อะไรนะครับ... ถะ ถุงยางอนามัย?"
"ใช่ จะถามซ้ำทำไมหรือหูหนวก?"
"ปกติคุณเดนิสไม่ใช้ ผมเลยตกใจครับ"
ฉันยักไหล่แล้วหันกลับไปมองโฮสคนนั้นต่อ ซึ่งพอดิบพอดีที่เขาหันมาและยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองฉันจากด้านบน ฉันกระตุกยิ้มที่มุมปาก ไม่ผิดหวังกับใบหน้าที่คาดการณ์ไว้เลย
ใครส่งพระเจ้ามาเป็นโฮสเนี่ย
"นายหญิงครับ" พนักงานกลับลงมาแล้ว
"สรุปได้ไหม ถ้าไม่ได้ฉันจะถอนเมมเบอร์ออก"
"ครับๆ ได้ครับ รบกวนเชิญนายหญิงรอที่ห้องรับรองได้เลยครับ"
ฉันยิ้มที่มุมปากแล้วเดินตามพนักงานไป ส่วนธณินอ้ำอึ้งไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ฉันจึงไล่ให้ไปจัดการธุระให้เสร็จๆ เพราะยังไงฉันก็ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว ตอนนี้จึงเข้ามาอยู่ในห้องรอโฮสคนนั้นคนเดียว นั่งจิบไวน์ไขว่ห้างฟังเพลงที่ตัวเองชอบเรื่อยๆ
ที่ฉันชอบอีกอย่างที่นี่รู้รสนิยมลูกค้า ก่อนจะเข้าห้องรับรองจะฉีดน้ำหอมกลิ่นที่ลูกค้าชอบ เปิดเพลงที่ลูกค้าฟัง รินไวน์ที่ลูกค้าดื่มประจำเตรียมการให้หมด รวมถึงอาหารออเดิร์ฟต่างๆ ทางบาร์โฮสรู้ว่าฉันชอบชีสบอร์ดก็ยกมาเสิร์ฟให้อย่างเตรียมพร้อม
เหลือแต่...
'แกร๊ก'
ฉันหันไปมอง... พนักงานกำลังเดินนำโฮสคนนั้นเข้ามาในห้องและมาหยุดยืนตรงหน้าฉัน คงเป็นเบอร์ตองคนใหม่สินะถึงได้ใส่สูทยาวและแต่งตัวมีคลาสขนาดนี้
ฉันไล่มองจากล่างขึ้นไปบน สบตากับสายตาราบเรียบที่จ้องกลับมา อื้ม... ไร้ที่ติ หล่อและดูสุขุม แต่แปลกที่เขาไม่มีป้ายชื่อเหมือนคนอื่นๆเลย
คงจะใหม่เอี่ยมเลยสินะ
"ชื่ออะไร?" ฉันถาม
"เคนจิครับนายหญิง" ไม่ใช่เขาตอบ แต่เป็นพนักงานตอบ
"ลูกครึ่งเหรอ?"
"ใช่ครับนายหญิง แต่โฮสคนนี้มาใหม่อาจจะไม่ค่อยพูดหน่อยนะครับ"
ฉันพยักหน้าแล้วยกไวน์ขึ้นจิบ ระหว่างไวน์รสดีไหลลงคอไม่ลืมสำรวจร่างสูงตรงหน้าอีกรอบ ตัวสูง รูปร่างดี โฮสที่นี่ใส่สูททุกคนก็จริง แต่สูทของเขาเป็นสูทที่ไม่เหมือนคนอื่น เป็นโฮสที่ไม่เหมือนโฮสเลย
แต่เอาเถอะมาใหม่และงานดีขนาดนี้ แถมไม่ค่อยพูดมากอีก ฉันชอบ
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ"
พนักงานก้มคำนับฉัน ก่อนจะหันไปก้มคำนับโฮสแล้วเดินออกไป แต่ฉันงงนิดหน่อย... ทำไมต้องคำนับเขาซะขนาดนั้น หัวนี่แทบจะติดพื้นแล้ว
แต่เมื่อพนักงานออกไปทิ้งฉันอยู่กับโฮสสองคน โฮสเคนจิก็เอาแต่ยืนนิ่งมองหน้าฉัน
เขาไม่พูดไม่จา ไม่หือไม่อือ และที่สำคัญไม่ยิ้ม
"นั่งลงสิ"
ร่างสูงเดินมานั่งข้างๆฉันทันที แต่ความหมายของฉันคือนั่งข้างล่างเพื่อเตรียมนวดเท้าให้!
"นี่นาย"
"..."
"ฉันสั่งให้นั่งข้างล่าง"
เขามองนิ้วที่ฉันชี้และมองหน้าฉัน แต่เมื่อสบตาใกล้ๆฉันกลับลืมที่จะออกคำสั่งเขาเลย แววตาคู่นั้นถึงจะราบเรียบเหมือนทะเลไร้คลื่น แต่ฉันเห็นอะไรซ่อนอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด
"ไม่สะดวก"
พูดไทยยังไม่ชัด โอเคงั้นฉันจะอะลุ้มอล่วยให้ ฉันจึงถอดรองเท้าแล้วยกขาสองข้างวางบนตักเขา คนนั่งอยู่ก้มมองทันที
"นวดให้ฉัน ถ้านวดดี... ฉันจะพานายกลับด้วย"
ตาชั้นเดียวตวัดมองฉันทันที ก่อนที่ฉันจะเผยยิ้มที่มุมปากกลับไปและคว้าแก้วไวน์มาจิบ
แต่สุดท้ายเคนจิก็ยอมทำตามคำสั่ง เขานวดเท้าให้ฉันด้วยมือข้างเดียว นวดไม่โปร นวดแย่มากๆ และที่สำคัญเหมือนเขากำลังขย้ำอะไรสักอย่างอย่างไม่เต็มใจ
"ก่อนจะเป็นโฮสไม่ได้อบรมมารึไง!" ฉันตวาด
"ไม่ถนัดนวดเท้า"
"แล้วถนัดอะไรฮะ!"
"แน่ใจว่าอยากรู้?"
เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ใช่... ฉันไม่เคยเจอโฮสคนไหนที่ถามย้อนและกล้ามองหน้าฉันแบบนี้มาก่อน สายตาตอนนี้นอกจากจะน่าค้นหา เย็นชา มันแฝงไปด้วยความท้าทายลึกๆ
ซึ่งฉันชอบความท้าทายนี้
"ทำสิ่งที่นายถนัดสิ"
"อื้อ!"
ทุกอย่างมันเร็วมาก ฉันมีทักษะป้องกันตัวยังไม่สามารถสกัดมือเขาได้ มือใหญ่คว้าฉันดึงไปจูบและรั้งท้ายทอยไว้ ลิ้นนุ่มๆค่อยๆแทรกซึม ความหวานกรุ่นไปด้วยสาเกหลอมละลาย จนมือที่คิดจะต่อต้านดันอกเขาไว้เริ่มอ่อนปวกเปียก
ริมฝีปากคู่นั้นค่อยๆขบเบาๆตามกลีบปากช้าๆ เอียงใบหน้าครอบครองฉันอย่างลึกซึ้งทุกอณู มันนุ่มนวลและร้อนแรงในคราวเดียวกัน ฉันขยับไปไหนเขาก็ตามครอบครองไปซะทุกที่ และรู้ตัวอีกทีมือเร็วๆของเคนจิก็ได้ล้วงไปที่สาบเสื้อด้านหลังปลดตะขอบราฉันแล้ว
จากนั้นเขาย้ายมือมาด้านหน้ากอบกุมอกฉัน ปัดปลายนิ้วเล่นกับยอดถันจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน
"อื้อ... "
ฉันถอนจูบเชิดหน้าขึ้น จนริมฝีปากที่จองจำอยู่จูบแผ่วๆที่ปลายคาง เขาหอมตามลำคอที่ร้อนผ่าวของฉันทีละข้าง... ทีละข้าง บ้างก็ขบเบาๆ ขณะที่มือซนเล่นกับหน้าอกไปด้วย
ตอนที่นิ้วชี้ยาวปัดหยอกเย้า... อารมณ์ของฉันกู่ไม่กลับเลย ฉันอยากเสียตัวให้โฮสคนนี้ได้ยังไง รู้ตัวทุกอย่างแต่เขาดึงดูดมากจริงๆ มันหยุดไม่ได้
"พอ"
ฉันจับมือออก และรีบดันอกเขาออกไป
"ไม่ชอบ?"
น้ำเสียงและแววตามองฉันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ความต้องการตอนนี้ฉันไม่รู้ เขาเป็นคนแรกที่ฉันเดาอารมณ์ไม่ได้ แต่สำหรับฉัน... ฉันรู้อารมณ์ตัวเอง และรู้ว่าตอนนี้ต้องการอะไร
"เปล่า เราจะไปต่อที่เพนท์เฮาส์ของฉัน"