ฝากของกลับเรือน

1390 Words
หลงจู๊รู้ข่าวจากเสี่ยวเอ้อว่ามีชาวบ้านนำปลาเป็นๆ มาขายก็รีบเร่งมาตรวจดูของด้วยตนเองทันที “สวรรค์ ยังไม่ตายจริงด้วย” เขามองปลาที่ยังมีชีวิตอย่างพอใจ ปลาเช่นนี้หากขายในวันแรกไม่หมดก็ยังสามารถเก็บไว้ได้ เหลาอาหารย่อมต้องการเป็นอย่างมาก “ท่านรับซื้อหรือไม่” หลี่เฉียงเร่งถามทันที เขายังต้องไปซื้อของที่หว่านหนิงนางสั่งอีกมาก “ซื้อๆ อาต๋า เจ้ารีบนำปลาไปชั่งเร็วเข้า” หลี่เฉียงขวางทางไว้ไม่ให้เสี่ยวเอ้อเข้าไปยกของลงจากเกวียนวัว “ประเดี๋ยว ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าจะซื้อเท่าใด” “อ้อ ใช่ ๆ จินละแปดสิบอิแปะ เจ้าเห็นเป็นเช่นไร” หลี่เฉียงยกยิ้มอย่างพอใจ “ได้” เขาเดินหลบไปอยู่ด้านข้าง เพื่อเปิดทางให้เสี่ยวเอ้อยกปลาไปชั่ง ปลาหลายสิบตัวที่หว่านหนิงนางจับมาได้ แต่ละตัวมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งจิน บางตัวเกือบสามจินเลยทีเดียว “ท่านหลงจู๊ ทั้งหมดหกสิบจินขอรับ” หลี่เฉียงรีบคำนวณอย่างไว ว่าเขาจะต้องได้เงินเป็นจำนวนเท่าใด เขาต้องได้เงินทั้งหมด ห้าตำลึงเงินกับอีกสองร้อยอิแปะ นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ตอนแรกคิดว่าจะได้ไม่เกินสามตำลึงเสียอีก หลงจู๊ยื่นเงินส่งให้หลี่เฉียง พร้อมทั้งบอกเขาว่าหากจับมาได้อีกให้นำมาขายที่เหลาอาหารได้เลย “จะไปซื้อของเลยหรือไม่” ลุงจางเอ่ยถามหลี่เฉียงที่นำเงินค่าเกวียนที่เหลือจ่ายเพิ่มให้เขา “ขอรับ” ระหว่างที่หลี่เฉียงนั่งอยู่ในเกวียนวัวเพื่อไปร้านขายผ้า สายตาของเขาก็หันไปมองที่หอพนันอย่างห้ามใจไม่อยู่ เขาเม้มปากแน่น ทั้งยังกำมือไว้แน่น เพื่อไม่ให้ตนคิดชั่วร้องบอกให้ลุงจางเปลี่ยนทิศทางเดินเกวียน เมื่อเกวียนวัวจอดลงที่หน้าร้านขายผ้า เขาเดินเข้าไปด้านใน หลี่เฉียงซื้อของตามที่หว่านหนิงนางสั่งมาทุกอย่าง เพียงแต่ซื้อในปริมาณที่น้อยลงกว่าที่นางบอกไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องจ่ายเงินออกไปถึงสองตำลึงเงิน “ท่านลุงจางข้าฝากของกลับไปให้ภรรยาของข้าด้วยขอรับ” เขานำของขึ้นไปไว้ด้านบนเกวียนวัว “อ้าว แล้วเจ้าไม่กลับไปพร้อมข้าเช่นนั้นรึ” ลุงจางเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการต่อ ฝากท่านซื้อข้าวสารกับเครื่องปรุงกลับไปให้นางด้วย” เขายัดเงินสองร้อยอิแปะใส่มือของท่านลุงจาง ก่อนจะเดินไปยังทิศทางของหอพนันทันที ลุงจางได้แต่มองตามแผ่นหลังของหลี่เฉียงไปอย่างทอดถอนใจ เรื่องที่เขาติดพนันและสุรา คนทั่วทั้งหมู่บ้านคงไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้ “น่าเห็นใจอาหนิงนางนัก” ลุงจางส่ายหัว พร้อมทั้งไปซื้อข้าวของให้หว่านหนิงอย่างเห็นใจ ความยับยั้งชั่งใจของเขาหมดลง พร้อมทั้งหลงลืมถ้อยคำที่หว่านหนิงนางย้ำเตือนเขาวันละหลายหนไปจนสิ้น เขามีเงินมาเพียงสามตำลึงที่เหลือจากการขายปลาเท่านั้น และหวังว่าครั้งนี้เขาจะมีโชคไม่น้อย อยากจะนำเงินกลับไปให้หว่านหนิงนางได้ภูมิใจในตัวเขาบ้าง เป็นเวลาเย็นที่ลุงจางกลับมาถึงหมู่บ้าน เขาร้องเรียกหว่านหนิงอยู่ที่หน้าเรือน นางที่นั่งรออยู่ที่แคร่ไม้อยู่แล้วก็รีบเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว “อ้าว แล้วอาเฉียงเล่าเจ้าคะ” นางเห็นเพียงลุงจางที่ยกของลงมาให้นาง “สามีเจ้ามีเรื่องที่ต้องจัดการ เขาให้ข้านำของมาให้เจ้าก่อน” หว่านหนิงกำมือแน่น นางแค้นใจจนแทบอยากจะตามไปทุบตีเขาถึงในเมือง แต่หากไปเวลานี้ กว่าจะเดินทางถึงคงต้องมืดอย่างแน่นอน “ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะ” นางเอ่ยขอบคุณลุงจางเสียงเบา ก่อนจะรับของแล้วกลับเขาในเรือน นางตรวจดูข้าวของก็เห็นว่าครบทุกอย่างตามที่นางสั่ง เพียงแต่มีจำนวนไม่มากนัก นางคิดว่าด้ายเพียงเท่านี้ นางคงปักผ้าเช็ดหน้าได้เพียงแค่ไม่กี่ผืนเท่านั้น ข้าวสารที่ได้มามีเพียงแค่สามจินเท่านั้น เกลือ น้ำตาลอีกอย่างละจิน หว่านหนิงนางได้แต่ปลงตก “ท่านใจร้ายกับข้านักสวรรค์ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าก็คงได้ตายจริงๆ” นางจุกจนพูดไม่ออก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ายามนี้เงินที่เหลือจากการขายปลามาได้ คงถูกหลี่เฉียงนำไปเล่นอยู่ที่หอพนันเสียแล้ว นางเก็บของเขาที่ ก่อนจะทำอาหารง่ายๆ กินรองท้อง เพื่อจะได้เริ่มลงมือปักผ้าเสียที หว่านหนิงใช้ถ่านที่อยู่ในครัวมาฝนจนแหลมเพื่อใช้แทนดินสอมาร่างแบบ ผ้าไหมผืนงามที่หลี่เฉียงซื้อมา เป็นเพียงผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยๆ เท่านั้น แบบแรกที่นางคิดจะปักลงไปคงทำได้เพียงรูปผีเสื้อที่กำลังตอมดอกหมู่ตาน (โบตั๋น) อยู่เท่านั้น ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืดดีนัก หว่านหนิงนางจึงลงมือปักผ้าทันที ต่อไปนี้นางคงไม่อาจไว้ใจหลี่เฉียงให้ไปจัดการเรื่องขายของแทนนางได้ ผ้าทั้งสามผืนที่นางจะปักขึ้น นางคงต้องเดินทางไปขายที่เมืองด้วยตนเอง หลี่เฉียงที่อยู่ในหอพนัน แม้จะมีเงินเข้ามาเพียงสามตำลึงเงิน แต่วันนี้มือของเขาขึ้นไม่น้อย ไม่รู้ว่าพกความโชคดีมามากเพียงใด เขาเล่นได้เงินมาหลายสิบตำลึง แม้จะอยากดื่มสุรามากเพียงใด แต่พอนึกถึงว่าสิ่งที่เขาทำผิดกับหว่านหนิงนางมากแล้ว เขาจึงไม่กล้าที่จะดื่ม กลัวว่านางจะไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องเดียวกับเขา หลี่เฉียงเล่นพนันตลอดทั้งคืน เมื่อรู้ตัวอีกทีฟ้าก็สว่างเสียแล้ว เขาเดินออกจากหอพนันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อนึกถึงข้าวของที่ซื้อให้หว่านหนิงเมื่อวานดูน้อยเกินไป เขาจึงเดินไปที่ร้านผ้าที่ซื้อเมื่อวาน ซื้อผ้าและด้ายเพิ่มให้มากมาย เขาจ่ายไปถึงสี่ตำลึงเงิน เพียงเท่านี้จะนับเป็นอันใด ในเมื่อเขามีเงินอยู่อีกหลายสิบตำลึง หากนำไปมอบให้นางไม่รู้ว่านางจะดีใจมากเช่นใด (หลี่เฉียงเอ่ย หลี่เฉียง) หลี่เฉียงยังยอมจ่ายค่าเช่ารถม้ากลับหมู่บ้านอีกสองตำลึงเงิน เพื่อให้กลับไปถึงหมู่บ้านได้เร็วขึ้น “หนิงหนิงข้ากลับมาแล้ว” หลี่เฉียงร้องเรียกนางเสียงดัง แต่เมื่อเข้าไปด้านในเรือนก็ไม่พบร่างของนางอยู่ด้านใน “หนิงหนิง” เขาเริ่มจะหวาดกลัวว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับนาง เพราะข้าวของทั้งหมดยังอยู่ครบไม่มีสิ่งใดขาดหายไป มีแค่ตัวนางที่หายไป “หนิงหนิง เจ้าอย่าทำให้ข้ากลัว” เขาเดินไปดูด้านหลังเรือน ที่ลำธารก็ไม่มีร่างของนาง หลี่เฉียงทิ้งข้าวของทั้งหมดไว้ที่กลางห้องโถง ตัวเขาวิ่งออกจากเรือน เพื่อไปดูที่เรือนของป้าตู้ “ท่านป้าตู้ ท่านป้าตู้ขอรับ” เสียงที่ร้อนรนของเขาทำให้ตู้ลู่จื้อที่อยู่ที่เรือนรีบเปิดประตูออกมาดู “เจ้าหน้าขาว เจ้าเห็นภรรยาของข้าหรือไม่” ตู้ลู่จื้อมองสำรวจหลี่เฉียงแล้วกดยิ้มที่มุมปากเยาะเย้ยเขา “เจ้ามาถามหาเมียเจ้าที่เรือนของข้าเช่นนั้นรึ” “เห็นหรือไม่ ว่านางไปที่ใด” เขาพุ่งเข้าไปดึงคอเสื้อของตู้ลู่จื้อด้วยความโมโห “เหอะ ไม่เห็น” ความจริงเขารู้ดีว่านางอยู่ที่ไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD