ตอนที่ 11
อยากรับผิดชอบ
หลังอาหารมื้อเย็นเสร็จ อคิณ ก็ขึ้นห้องนอนของตัวเองเพื่อจัดการธุระส่วนตัว ด้วยวันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน จนอยากจะล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ที่คุ้นเคยที่นอนมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเมื่อเดินออกจากห้องน้ำมีเพียงผ้าขนหนูที่พันกายไว้ เสียงมือถือของเขาดังขึ้น ชายหนุ่มหรี่ตามองเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย ด้วยปกติแล้วจะไม่มีใครมีเบอร์นี้ของเขาและกล้าโทรมาในเวลานี้
แต่เมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา ชายหนุ่มก็กดรับสาย
“คิณครับ”
(คุณทำบ้าอะไร! โอนเงินค่าแกงสองถุงมาตั้งสองแสน)
เสียงหวานที่เอ่ยอย่างขุ่นเคืองจาปลายสายนั้น ทำให้มุมปากของ อคิณ ยกโค้งขึ้น ด้วยรู้ว่ายังไงเธอต้องหาทางโทรมาหาเขาแน่ หลังสแกนจ่ายเงินแล้ว เขาจึงวางนามบัตรตัวเองทิ้งไว้
เบอร์ที่โทรมาก็คงเป็นเบอร์เธอด้วยซินะ
ว่าแล้วก็เขาเลื่อนดูและกดเซฟทันที
“รู้ได้ไงว่าเป็นเงินฉัน อาจเป็นเงินคนอื่นก็ได้”
อคิณ เพิ่งจะรู้ตัวว่านอกจากการได้พูดคุยกอดหอมกับหนูมังกรแล้ว การได้ยั่วอารมณ์เมษา มันทำให้เขาเริ่มจะอารมณ์ดีและมีความสุข ด้วยนานเท่าไหร่ เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันที่เขาไม่ได้ยิ้มแย้มและอารมณ์ดีแบบนี้
เสียงของเธอแม้จะแข็งและดุเข้ม ทว่ามันแฝงด้วยเสน่ห์ยั่วยวนอย่างประหลาด ที่ทรงอานุภาพ ...นี่ละนะที่เขาว่า เสียงแม่ของลูก ฟังแล้วก็แสนไพเราะจนอคิณต้องอมยิ้มออกมา
(ไม่ใช่เงินคุณจะเป็นเงินใคร เมย์เช็คกับธนาคารแล้ว บอกหมายเลขบัญชีคุณมา เมย์จะโอนกลับไม่งั้นเคลียร์บัญชีไม่ได้ ค่าแกงสองถุงหนึ่งร้อยยี่สิบบาท เมย์จะโอนที่เหลือคืนพร้อมค่าวัคซีนมังกรด้วย)
จะเอาแค่ค่าแกงหนึ่งร้อยยี่สิบบาท
อะไรกัน! จะไม่ยอมรับอะไรจากเขาเลยรึไง?
“ไม่ต้องคืน ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันขอมีส่วนรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายของลูก”
เป็น อคิณ ที่เสียงเข้มขึ้นมาเสียเอง
(ฉันยังไม่ได้รับปากคุณ อีกอย่างนี่มันมากเกินไป)
“ไม่มากหรอกครับ น้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับเวลาที่ผ่านมาที่เมย์ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพียงลำพังคนเดียว อีกอย่างอีกสองเดือนต้องพาลูกเข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เหมือนปลายสายนิ่งไปสักพัก
(คุณรู้ได้ยังไง?)
มากกว่านี้เขาก็รู้
“เอาเป็นว่าฉันรู้ ขอให้เธอรับเงินจำนวนนั้นไว้ เพราะถึงอย่างไงฉันก็ต้องโอนไปให้อีก และถ้าหากเธอยังดื้อดึงที่จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากฉัน เงื่อนใขที่เธอขอร้องไว้ ฉันไม่รับปากนะ”
ถ้อยคำของเขา เหมือนจี้จุดอ่อนในใจของเธอ เพราะหญิงสาวนิ่งไปสักพัก อาจเพราะเธอหวั่นเกรงว่าพ่อกับแม่ของเขาจะเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตเธอและลูกมากเกินไป
พอเอ่ยไปแล้ว อคิณ ก็อยากจะตบปากตัวเองนัก
ความจริงเขาไม่อยากให้เธอกังวลเลยสักนิด
เขาอยากให้เธอดูแล หนูมังกร อย่างมีความสุข อยากให้เธอและเด็กน้อยนั่นเปี่ยมด้วยรอยยิ้มที่สดใส
(คุณขู่หนูเหรอ? อย่าคิดว่าเมย์จะกลัวนะ ถ้ามาวุ่นวายมาก เมย์จะหอบลูกย้ายร้านหนีไปอยู่ที่อื่น)
“มะ ..ไม่นะ”
อคิณ แทบจะย่อเข่านั่งกับพื้นโดยอัตโนมัติ “ฉันขอโทษๆ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ฉันจะไม่ยอมให้ใครไปรุกรานเธอแน่นอน ฉันแค่อยากจะให้ แบบไม่มีเงื่อนใขใดๆ รับไว้เถอะเมย์”
เวรกรรม!
ในชีวิตนี้ไม่เคยต้องมาเอ่ยร้องขอ ผู้หญิงคนไหนขนาดนี้แถมไม่เคยกลัวการถูกเมินเฉยเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต
นี่เขาเป็นอะไรกัน!!
(เมย์เหนื่อยที่จะคุยกับคุณละ คราวหน้าถ้าจะโอนอะไรมาเข้าบัญชีร้านเกินกว่าค่าอาหารให้บอกก่อนด้วย)
เธอถอนหายใจออกมา ด้วยวันนี้เธอล้ามาก และต้องรีบนอน เพราะต้องตื่นแต่เช้า เสียงที่เอ่ยออกมาจึงเหมือนเหนื่อยพอสมควร นั่นทำให้เขาไม่อยากจะยียวนเธอต่อ
“งั้นก็พักผ่อนซะนะ เรื่องอื่นไม่ต้องกังวล”
(ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ นอกจากเรื่องของคุณ)
เอ่ยเสร็จเธอก็กดวางสายไป
.
อคิณ มองมือถือตัวเองอยู่เพียงครู่ ก่อนจะเดินไปหยิบไอแพคขึ้นมาเปิดดูข้อมูลหลายอย่างที่ เอื้อมจิต เลขาของตัวเองไปสืบมาให้ เรื่องราวของเธอในช่วงสามปีก่อนหน้า มีสิ่งหนึ่งที่เขาเบาใจพอควรคือ เมษา ครองตัวเป็นโสดและไม่ได้คบหากับใครเลย ชีวิตเธอมีแค่เรียน และทำงานขายข้าวแกงกับเลี้ยงลูกที่แสนน่ารัก
นึกถึงตอนนี้แล้วเขาก็รู้สึกโกรธตัวเองขึ้นมา
ชั่งเถอะ! ที่ผ่านจะเป็นยังไงก็ตาม แต่ต่อจากนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอกับลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายแน่นอน ถึงแม้เธอจะพยายามผลักใสเขาแค่ไหนก็ตาม
(คะคุณคิณ?)
เสียงของ เอื้อมจิต เลขาคนเก่งของเขาเอ่ยถามทันทีที่กดรับสายของประธานพีเคฟู้ดส์
“ผมเห็นคุณส่งข้อมูลเพิ่มมาให้ทางเมล์เมื่อตอนบ่าย เรื่องเอกสารเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษมหาลัยเอฟ ปฎิเสธไปเลยก็ได้นะเอื้อม ผมคงไม่ว่างขนาดนั้น จนมีเวลาไปบรรยายหรอกนะ”
อคิณ เอ่ยบอกเสียงเข้ม ขณะที่นิ้วเรียวแข็งไล่ดูข้อมูลหน้าจออย่างครุ่นคิด ด้วยปกติแล้วจะมีหลายหน่วยงานและมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ มาเชิญให้เขาไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษอยู่เป็นประจำ แม้เขาจะจบบริหารการจัดการมา ทว่าในตำแหน่งประธานใหญ่พีเคฟู้ดส์นั้น ก็เป็นบทบาทสำคัญที่หลายคณะของสถาบันการศึกษาล้วนต้องการตัว
ทว่า อคิณ ปฎิเสธกลับไปทุกครั้ง
เพราะลำพังแค่งานหลักก็หัวหมุนพอแล้ว อีกอย่างเวลาเขาเป็นคนทำอะไรก็ตาม ต้องทำและมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ หากต้องไปทำเพียงผ่านๆ เพื่อความโก้หรูอย่างเดียว ย่อมไม่ใช่วิสัยของเขาอย่างแน่นอน
จุดนี้ เอื้อมจิต ทราบดี เขาจึงแปลกใจนัก ทำไมครั้งนี้เธอถึงยอมส่งข้อมูลนี้มาเพื่อให้เขาอนุมัติ
(อันนี้เป็นหลักสูตรนักศึกษาปริญญาโทด้านฟู้ดส์ไซน์ค่ะ ทางคณบดีเป็นคนเรียนเชิญคุณคิณ มาด้วยตัวเองเลยเพื่อเป็นอาจารย์พิเศษที่ไม่ใช่การสอนแบบหนักเหมือนหลักสูตรปกติ แค่เข้าสอนสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นเอง จะเป็นการสร้างเครดิตให้กับพีเคฟู้ดส์ด้วยนะคะ)
เลขาคนเก่งบอก ทว่าชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา
“ผมไม่สนใจหรอกเรื่องนั้น”
เครดิตทางการค้าสำคัญก็จริง แต่เขาไม่อยากเสียเวลาที่ไม่ใช่แค่การสอน ไหนจะต้องเตรียมข้อมูลและมานั่งประเมินอีก ตัวเขาไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
(ถ้าเรื่องการเตรียมข้อมูลและการประเมินผล คุณคิณไม่ต้องห่วงค่ะ เอื้อมจัดการให้)
เอื้อมจิตเหมือนจะรู้ใจนายไปทุกจุด
“ทำไมถึงอยากให้ผมไปนัก?”
เขาเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย จนเลขาต้องหัวเราะร่วนออกมา
(คุณคิณลองเลื่อนไปดูข้อมูลข้างล่างซิคะ)
อคิณ เลื่อนอ่านเมล์ตามที่เธอบอกก่อนที่ดวงตาคุ่สีนิลจะวาววับขึ้น
“เมษา...”
(ค่ะ คุณเมษากำลังเรียนปริญญาโทสาขาฟู้ดส์ไซน์ที่นั่น)
***************