ตอนที่ 12
อคิณคนใหม่
มาคอสและโมเดลของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ทีมแอดเวนเจอร์สมาส่งในเช้าวัดถัดมา มันมากมายจน เมษา ต้องขมวดคิ้วย่นเข้าหากัน ด้วยห้องชั้นสองของตึกแถว มีของมากมายที่จัดวางไว้อยู่แล้ว ตอนนี้เธอต้องมาเสียเวลาจัดของเล่นมากมายให้กับลูกชายสุดที่รัก ทว่านั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ เจ้าหนูมังกร เลยแม้เพียงนิด
“ม่ามี๊คับ นี่ของมังกอนหมดเลยใช่มั้ย? คุณลุงซื้อให้ใช่มั้ย”
“ใช่ครับ แต่หนูต้องสัญญาก่อนจะครับว่าจะเล่นให้เป็นเวลา และถ้าเล่นแล้วต้องเก็บใส่กล่องให้เป็นระเบียบเหมือนที่ม่ามี้ทำ เห็นมั้ยครับ”
หญิงสาวบอกลูกชายอย่างใจเย็น
“ครับผม”
เด็กชายรับปาก ด้วยแววตาวาววับ แม้ตอนนี้ใบหน้าจะแดงก่ำด้วยพิษไข้จากอาการข้างเคียงของวัคซีน ทว่าเหล่าทีมแอดเวนเจอร์สมากมายตรงหน้าก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจกว่า
“อีกหน่อยหนูก็ต้องไปโรงเรียน แม่เองก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะมัวแต่มาห่วงของเล่นไม่ได้นะครับ เดี๋ยวคุณครูจะว่าเอา”
“คุณครูม่ามี๊ดุเหรอคับ?”
“....”
“ถ้าคุณครูม่ามี๊ดุ บอกมังกอนนะคับ มังกอนจะไปจัดการให้เอง มังกอนจะไม่ยอมให้ใครมาว่าม่ามี้”
มุมปากของ เมษา ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ปัญหามากมายและความเหน็ดเหนื่อยที่เจอะเจอมาในแต่ละวัน ล้วนมลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงใสจาก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้
“ม่ามี๊ไม่เป็นไรครับ แค่มังกรของม่ามี๊เป็นเด็กดีตามที่บอก ม่ามี๊ก็โอเคแล้ว”
ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปกอด ขณะที่เจ้าหนูยังจับ ฮัค ไว้แน่น
“ม่ามี๊ไม่ต้องห่วง มังกอนจะเป็นเด็กดี”
.
.
“ว่าไงครับคุณเอื้อม?”
เสียงเข้มของ ประธานวีเคฟู้ดส์เอ่ยถาม เมื่อเลขาคนเก่งก้าวเข้ามาในห้อง วันนี้เขาแอบมองไปด้านล่างตรงร้านข้าวแกงบุญผ่อง ตั้งแต่เช้าแต่ไม่เห็น เมษา เดินออกมา มีเพียง ติ๋วกับชื่น เด็กคนงานที่เดินออกมาบ้าง และตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง เหมือนจะเริ่มเก็บร้านแล้ว
“มาคอสของเล่นคุณหนูมังกรได้รับแล้วค่ะ”
“ฉันไม่เห็นเมษาเลย และโทรไปก็ไม่รับสาย”
เขาอยากฟังเสียงเธอและลูก อยากรู้ว่าเจ้าหนูนั่นรู้สึกอย่างไง เมื่อเห็นของเล่นสุดโปรดเต็มสตรีมครบชุดที่คนของเขาไปสรรหาและส่งให้ถึงร้าน เขาอยากฟังความสดใสนั้น ทว่าเมษาก็ไม่รับสายเลย จนเขาเริ่มจะร้อนรนเสียเอง
“คุณเมษาพาหนูมังกรกลับไปแล้วตั้งแต่สิบโมงเช้าค่ะ”
คิ้วหนาเข้มของ อคิณ ย่นเข้าหากันทันที
“ทำไม?”
“เห็นว่าหนูมังกรไม่สบาย และคุณเมษาเองก็เหมือนจะเป็นไข้ด้วย น่าจะไปโรงพยาบาลและกลับคอนโดแล้วค่ะ”
“คอนโด?”
พอทราบว่าเธอไปๆมาๆระหว่างร้านตึกแถวนี้กับคอนโด และเหมือนเลขาคนเก่งจะรู้ใจ โลเคชั่นคอนโดจึงถูกส่งให้เขาในเวลาต่อมา
“เนตรนิรันดร์คอนโดอยู่ซอยสามเก้า ใกล้ๆกับโรงเรียนอนุบาลเทพทิทักษ์ค่ะ เหมือนจะเป็นคอนโดเด็กเก่าที่เป็นพริตตี้คนที่คุณคิณเคยให้เอื้อมดีลให้นะคะ”
“แล้วไง?”
ถ้อยคำของ เอื้อมจิตทำให้หน้าหล่อเหลาอึมครึมขึ้น
“ผมไม่ใช่อคิณคนเดิมแล้ว ดีลพวกนั้นลบออกไปได้เลย และหากมีติดต่อมาบอกไม่ต้องเอาเด็กที่ไหนมาเสนอผมอีก ผมไม่ใช่คนเดิมแล้ว ..ผมคืออคิณคนใหม่”
น้ำเสียงนั้นหนักแน่น จนเลขาคนเก่งต้องอมยิ้มออกมา
“รับทราบค่ะ”
ร่างหนาเหยียดกายลุกขึ้น พร้อมหยิบสูทที่พาดกับพนักมาคล้องไว้ในแขน เพื่อจะเดินออกไป
“คุณคิณมีนัดกับแวนเดอร์ช่วงบ่ายสองนะคะ”
“ให้คุณไก่ฝ่ายจัดซื้อตัดสินใจแทนผมได้เลย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ผมคงไม่ได้ตัดสินใจเองหรอกมั้ง ผมมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องไปทำ”
เรื่องสำคัญ? แม้อยากจะถาม ทว่า เอื้อมจิตก็เหมือนจะรู้
“ได้ค่ะ”
“และก็เรื่องเอกสารตอบรับ อาจารย์พิเศษมหาลัยเอฟ ผมเซ็นต์เรียบร้อยแล้วนะ ฝากดีลต่อให้ด้วย”
เอ่ยเสร็จร่างหนาก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ เอื้อมจิต ผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้านายหนุ่มหล่อ
อคิณ คนใหม่อย่างงั้นเหรอ?
.
.
(น่าจะเป็นอาการข้างเคียงของวัคซีนนั่นแหละ ส่วนคุณเมษาเป็นไข้หวัดธรรมดาคงเพราะเครียดและพักผ่อนน้อย แต่กูฉีดยาและจ่ายยาให้เรียบร้อยแล้ว)
คำบอกของ นกุล หมอเพื่อนสนิททำให้ อคิณ สบายใจขึ้นมาบ้าง
“ขอบใจมากเพื่อน”
(แล้วมึงจะเป็นไอ้แอบไปแบบนี้นานเท่าไหร่วะ นั่นลูกเมียมึงนะ ทั้งน่ารักน่าทนุถนอมขนาดนั้น เป็นกูไม่คิดอะไรเยอะแล้ว ขอจดทะเบียนสมรส ขอรับรองบุตรแล้วพาเข้าบ้านแล้ว)
ถ้อยคำของเพื่อนทำให้เขาถอนหายใจออกมา
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะซิ แค่เขายอมคุยกับกู ให้กูได้กอดลูกก็ดีเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้กูกำลังพยายามอยู่”
(รีบๆหน่อยละกันเพื่อน มาแอบๆแบบนี้ กูเองก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ และถ้ามึงอยากได้แค่ลูก ไม่อยากได้แม่ ก็คุยกับเขาให้ชัดเจนไปเลย แต่สวยขนาดนั้น..)
“กูบอกตอนไหน ว่าอยากได้แค่ลูก!”
อคิณ สวนกลับทันควัน ด้วยเพื่อนเขาแต่ละคน ตอนนี้นอกจากไอ้ปุณณ์ แล้ว แต่ละคนก็ล้วนแพรวพราวไม่ต่างจากเขา ไม่ว่าจะ สิปปกร หรือ วิชและนกุล ก็ตามที
มาชมว่า แม่ของลูกสวยอย่างงั้นอย่างงี้ ฟังแล้วหงุดหงิด
(อย่างมึงนะเหรอ?) ปลายสายแค่นเสียงสูง
(สลัดสาวๆข้างตัวออกให้หมดก่อนเถอะ ตอนนี้ถ้ากูเป็นเมษากูก็ไม่อยากอยู่ใกล้เหมือนกัน เห็นข่าวทายาทคนโต ราชวัตร ควงสาวไม่ซ้ำหน้ากันแบบนี้ ใครจะอยากให้ลูกมาอยู่ใกล้วะ)
ยัง ยัง ยัง ยังไม่เลิกกวนโมโห
“นั่นไม่ใช่กูแล้ว กูจะเป็นคนใหม่ จะเดินหน้าทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อ และให้เมษายอมรับกูให้ได้”
(ขอให้โชคดีเพื่อน)
.
.
แม้จะประกาศกร้าวกับเลขาและเพื่อนสนิทไปแบบนั้น ทว่าสุดท้ายแล้ว อคิณ ก็มายืนแกว่งไปมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ด้านล่างเนตรนิรันดร์คอนโด ด้วยไม่รู้ว่าจะขึ้นไปข้างบนอย่างไง เพราะโทรหา เมษา หญิงสาวก็ไม่รับสายเขาเลย แถมโทรไปอีกครั้งดันปิดมือถือเสียนี่
สงสัยน่าจะเพลียจนหลับไปแล้ว
ชายหนุ่ม ลังเลอยู่เพียงครู่ ว่าควรจะเดินไปบอกเจ้าหน้าที่ด้านล่างดีไหม ว่ามาพบเธอ แต่คิดไปคิดมาเกรงว่าจะยากยิ่งกว่าเดิม ครั้นจะโทรไปขอความช่วยเหลือจากเลขาและผู้ช่วยคนของเขา ก็เกรงว่าไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร
“เป็นยังไงบ้าง ลูกละดีขึ้นมั้ย”
อคิณ แอดไลน์เธอจากเบอร์และส่งข้อความไป ทว่าก็เงียบไม่ได้รับการอ่าน จนเขาต้องเดินวนไปมาอีกรอบ ทว่าเหมือนโชคเข้าข้าง เมื่อมีไลน์แมนมาส่งของแล้วประตูกระจกด้านล่างถูกเปิดออก ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มเดินออกมา
“ขอบใจมาก เท่าไหร่คะ?”
เสียงหวานของ เมษา ดังขึ้น ทำให้เขาหันไปมองและรีบปรี่มาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวตระหนกเล็กน้อยที่เห็นเขามาที่นี่
“หกร้อยสามสิบเจ็ดบาทครับพี่”
อคิณ กำลังจะล้วงแบงค์พันในกระเป๋าส่งให้ แต่เงินหกร้อยสามสิบเจ็ดบาทจากมือหญิงสาวถูกยื่นให้ไลน์แมนก่อน เมื่อเธอรับของแล้วจึงหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณไม่ควรมาที่นี่”
น้ำเสียงของเธออิดโรย อาจเพราะพิษไข้ ทว่าใบหน้าสวยผุดผาดไร้เครื่องสำอางค์นั้นก็ยังคงมีเสน่ห์น่ามอง จนอคิณ อยากจะยกมือขึ้นไปเกลี่ยไรผมเล็กๆที่ระข้างแก้มระเรื่อนั้นออก
“ฉันเป็นห่วงเธอกับลูก”