สองวันต่อมา
กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...
เสียงโทรศัพท์มือถือของเมธาวินดังขึ้นขณะที่เขากำลังนั่งกินขนมที่คณานางค์ซื้อมาฝาก ซึ่งคนซื้อก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เขานี่เอง
“คะน้า หยิบมือถือให้พี่หน่อยสิ”
“อ๋อได้ค่ะ”
เธอหันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ก่อนจะยื่นส่งให้กับเขา
“เบอร์ใครนะไม่คุ้นเลย เลขสวยซะด้วยสิ มีแต่เลขแปดเต็มไปหมด” ชายหนุ่มมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างสงสัย
“แก๊งคอลเซนเตอร์รึเปล่าคะ ให้หนูรับแทนมั้ย เผื่อใช่จะด่าให้ลืมชื่อตัวเองไปเลย”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ลองรับก่อน ถ้าใช่ค่อยส่งต่อให้คะน้าละกันนะ”
“โอเคค่ะ”
แล้วเมธาวินก็กดรับสายในที่สุด
(“สวัสดีครับ”) เขาเอ่ยทักทาย
(“สวัสดีครับ นี่เบอร์น้องชายของดรีมใช่มั้ย”)
(“ครับ คุณคือ...”)
(“ผมซันครับ เจ้านายของดรีม”)
(“อ๋อคุณซัน มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”)
(“พอดีว่าดรีมเค้าไม่ค่อยสบายน่ะครับ ผมก็เลยอาสาไปรับคุณพรุ่งนี้แทนน่ะ ก็เลยจะโทรมานัดเวลากันก่อน”)
(“พี่ดรีมไม่สบายเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”)
(“ไม่ต้องห่วงครับแค่เป็นไข้หวัดน่ะ แต่ผมเห็นเค้าเพลียๆ เลยให้ลางานแล้วพักที่คอนโด”)
(“อ๋อครับ งั้นผมกลับเองก็ได้ครับ ไม่รบกวนคุณซันดีกว่า”)
(“ไม่เป็นไร ผมรับปากดรีมเค้าไว้แล้ว เค้าจะได้ไม่ต้องห่วงน้อง อีกอย่างผมก็จะไปคุยกับคุณหมอเรื่องอาการของคุณด้วยเผื่อว่าดรีมเค้าอยากรู้น่ะ”)
(“งั้น...พรุ่งนี้บ่ายสองคุณสะดวกมั้ยครับ”)
(“ได้สิ บ่ายสองเจอกันนะ”)
(“ครับคุณซัน”)
(“นี่เบอร์ผม เมมไว้ด้วยล่ะ แค่นี้แหละ อ้อ ตอนนี้ดรีมเค้าหลับอยู่อย่าเพิ่งโทรมารบกวนเค้าละกันนะ ไว้ตอนเย็นผมจะให้เธอโทรหาเอง”)
(“ครับ”) เมธาวินกดวางสายก่อนจะบันทึกเบอร์เจ้านายของพี่สาวเอาไว้
“ใครเหรอคะพี่โดม”
“เจ้านายพี่ดรีมน่ะ เค้าบอกว่าพี่ดรีมไม่สบายเค้าก็เลยจะมารับพี่กลับบ้านพรุ่งนี้แทน”
“ความจริงให้คะน้ามารับก็ได้นะคะถ้าพี่ดรีมเค้าไม่สะดวก”
“บ้านพี่อยู่ไกลนะ ลำบากคะน้าเปล่าๆ อีกอย่างคุณซันก็บอกว่าอยากมาคุยกับหมอแทนพี่ดรีมด้วย”
“เจ้านายพี่ดรีมคนนี้ท่าทางใจดีนะคะ ถึงขนาดมารับน้องชายเลขาฯ ด้วยตัวเองเลย หรือว่า...เค้าจะคบกันอยู่คะ”
“ไม่หรอก ถ้าคบกันพี่ดรีมคงบอกพี่แล้ว เค้าไม่มีความลับกับพี่หรอก อีกอย่างพี่ก็เคยได้ยินว่าคุณซันคนนี้สาวเยอะมาก แต่ละคนก็ระดับดารานางแบบทั้งนั้น เค้าไม่ชอบป้าแว่นอย่างพี่ดรีมหรอก”
“แต่ป้าแว่นที่เราพูดถึงก็สวยมากนะคะ สวยกว่าดาราบางคนอีก หนูจำได้ว่าเคยเห็นพี่ดรีมถอดแว่นตอนไปรับพี่ที่คณะครั้งนึง หนุ่มๆ ในคณะนี่ตาลุกวาวอย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อนอย่างนั้นแหละ”
“ก็เพราะแบบนี้ไงแต่ก่อนพี่ก็เลยบอกให้พี่ดรีมเค้าใส่แว่นไว้ตลอดเพราะกลัวจะมีคนมาจีบน่ะ ไม่นึกเลยว่าเค้าจะใส่มาตั้งแต่เริ่มงานจนตอนนี้ก็จะห้าปีแล้วมั้ง”
“โห นี่พี่โดมคงจะหวงพี่สาวมากเลยใช่มั้ยคะเนี่ย”
“หวงสิ พี่รักพี่ดรีมมากเลยนะ รักมากก็ต้องหวงมากนั่นแหละ แต่ตอนนี้เริ่มจะไม่หวงละ กลัวพี่เค้าจะขึ้นคานไปซะก่อน อายุยี่สิบห้าแล้วยังไม่มีแฟนกับเค้าเลยสักคน” เขาบอกยิ้มๆ
“แล้วถ้าพี่โดมมีแฟน...จะหวงแฟนแบบนี้มั้ยคะ”
“ก็ต้องหวงสิ ถามทำไมเหรอ” เขามองสบตาของเธออย่างสงสัย ส่วนคนถูกมองกลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ถามเฉยๆ น่ะ กินขนมต่อเถอะนะคะใกล้หมดแล้ว อิ่มแล้วหนูจะปอกผลไม้ให้กิน”
“แล้ววันนี้ป๊าไม่ใช้เฝ้าร้านเหรอ”
“ก็ใช้ค่ะ แต่ขี้เกียจเฝ้าเลยแอบมานี่แหละ”
“เดี๋ยวป๊าก็ดุให้หรอก”
“ไม่หรอกค่ะ แค่บ่นจนหูชาเท่านั้นเอง” เธออมยิ้มแล้วป้อนขนมให้เขาต่อไป
“พี่กินเองได้ ไม่ต้องป้อนแล้ว”
“ก็หนูอยากป้อนนี่นา”
“แล้วทำไมถึงอยากป้อน”
“เอ่อ...ก็...ก็แค่อยากป้อน ต้องมีเหตุผลอะไรมากมายล่ะคะ แต่ถ้าพี่ไม่อยากให้ป้อนก็จะไม่ป้อนแล้วก็ได้ กินเองไปเลย”
เธอวางกล่องขนมลงบนตักเขาแล้วหันไปหยิบผลไม้มาปอกแทน
“งอนพี่เหรอเนี่ย”
เมธาวินอมยิ้มให้กับสาวน้อยแก้มป่อง เธอจึงได้หันมามองค้อนเขา
“เปล่านี่คะ หนูจะงอนทำไม”
“นั่นสิ จะงอนทำไมก็ไม่รู้ พี่แค่เกรงใจไม่ใช่รังเกียจที่คะน้าป้อนให้ซะหน่อย”
“จริงเหรอคะ แค่เกรงใจหนูเท่านั้น ไม่ใช่รังเกียจแน่นะ”
“แน่สิ พี่จะรังเกียจคะน้าทำไม ในเมื่อพี่...”
“โดมคะ วันนี้พิมพ์ซื้อบะหมี่ร้านโปรดของโดมมาฝากด้วยนะคะ อ้าว คะน้า...อยู่ด้วยเหรอจ๊ะเนี่ย”
พิมพ์ดาวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสาวรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเมธาวินนั่งอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะพี่พิมพ์ หนู...กำลังจะกลับพอดีเลยค่ะ เชิญตามสบายนะคะ” เพราะใครต่อใครก็บอกว่าเมธาวินกับพิมพ์ดาวกำลังคบหากันอยู่ คณานางค์จึงไม่อยากนั่งมองภาพบาดใจให้นานนัก
“จะกลับแล้วเหรอ ไหนว่าจะปอกผลไม้ให้พี่กินก่อนไง ทำไมรีบกลับล่ะ” เมธาวินมองคนที่รีบลุกขึ้นอย่างสงสัย
“พอดีนึกขึ้นได้ว่าป๊าใช้ไปซื้อของค่ะ ยังไงฝากพี่พิมพ์ปอกผลไม้นี่แทนหน่อยนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ หายไวๆ นะคะพี่โดม ไว้เจอกันที่มหา’ลัยค่ะ”
คณานางค์วางจานกับมีดลงบนโต๊ะคร่อมเตียง จากนั้นก็หันไปคว้ากระเป๋าสะพายแล้วก้าวออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของเมธาวินมองตามตลอด จนพิมพ์ดาวรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก