หลังจากทานข้าวเสร็จพี่พนาก็ชวนฉันไปซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่ขนมผิง (สักที) เพราะมาเกือบสองชั่วโมงแล้วคนที่ได้เยอะที่สุดก็คือฉัน
เราเลือกกันอยู่นานจนสุดท้ายก็ไปสะดุดกับกำไลข้อมืออันหนึ่ง เห็นครั้งแรกก็รู้สึกแล้วว่าต้องเหมาะกับพี่ขนมผิงมากๆ เพราะทั่วสวยหรูดูดีมีความมินิมอลน่ารัก
“ขอมือหน่อย”
“คะ?” พี่พนาแบมือเพื่อขอมือฉันอีกครั้ง ฉันจึงยื่นให้เขาแบบงงๆ ซึ่งไม่นานกำไลเส้นนั้นก็ถูกสวมไว้บนข้อมือฉัน
“อืมเหมาะจริงด้วย”
“พี่จะซื้อให้หนูเหรอ”
โป้ก!!
เป็นอีกครั้งที่ฉันถูกข้อนิ้วแกร่งของพี่พนาเขกหัว
“พี่เขกหัวหนูอีกแล้วนะ”
“ก็ชอบทำตัวให้ถูกเขก”
“เอ้า! หนูจะรู้ได้ไงล่ะว่าต้องทำตัวแบบไหนพี่ถึงจะชอบ”
พี่พนาส่ายหน้าเหมือนไม่อยากต่อปากต่อคำกับฉันต่อ ฉันจึงขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำปล่อยให้เขาไปจ่ายเงิน
เดินเข้ามาในห้องน้ำได้แค่สามก้าว เท้าสองข้างของฉันก็หยุดอัตโนมัติหลังจากเห็นพี่ครีมยืนล้างมืออยู่ที่อ่าง ทั้งบรรยากาศยังเต็มใจปล่อยให้ในห้องน้ำเหลือแค่ฉันกับพี่เขาอีก
พี่ครีมเงยหน้าขึ้นมาพอดีจึงเห็นฉันผ่านทางกระจก ฉันไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรจึงทำได้เพียงยกยิ้มให้เธอ ซึ่งเธอก็ยิ้มรับตอบ
โชคดีที่เมื่อฉันเข้ามาพี่เขาก็ทำท่าจะออกไปพอดี
หลังจากทำธุระเสร็จก็รีบออกจากห้องน้ำเพื่อไม่อยากให้พี่พนารอนาน ระหว่างที่เดินออกมาฉันก็ได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยกำลังคุยกับใครบางคน เมื่อชะโงกหน้าโผล่พ้นกำแพงห้องน้ำออกไปดูก็พบว่าพี่พนากำลังยืนคุยกับพี่ครีม ฉันจึงดึงตัวเองกลับมาหลบอยู่หลังกำแพงแอบฟังพวกเขาคุยกัน
ไม่สิๆ ฉันแค่ไม่อยากออกไปขัดจังหวะเพราะเห็นสีหน้าพี่พนากำลังเคร่งเครียด ออกไปตอนนี้ก็อาจจะไม่ดี
แต่ทำแบบนี้จะถือเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้คุยกันไหมนะ รู้สึกไม่ชอบใจจัง...
ความคิดในหัวกำลังฟุ้งซ่าน ฉันจึงสงบสติอารมณ์โดยการแอบชะโงกหน้าออกไปฟังพวกเขาคุยกัน เมื่อรับรู้เราก็จะได้ไม่คิดเองเออเอง
“เธอต้องการอะไร”
“นายกับอาทิตย์กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ”
พี่พนาจ้องหน้าพี่ครีมด้วยแววตาน่ากลัว หากจ้องฉันแบบนั้นคงได้ร้องไห้ต่อหน้าเขาไปแล้ว
“เหมือนเดิมของเธอคือยังไงวะครีม เสแสร้งใส่กันเหมือนที่พวกเธอทำกับฉันเหรอ”
“นายไม่เข้าใจอ่ะ ฉันกับอาทิตย์รู้นะว่าพวกเราผิด แต่ความสัมพันธ์ตั้งหลายปีมันไม่ควรมาจบแบบนี้ไหม”
“แล้วใครทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้วะ”
พี่พนาตะคอกใส่พี่ครีมจนหน้าสั่น เส้นเลือดปูดบริเวณขมับ มองจากไกลๆ ยังสัมผัสได้ถึงรังสีความโมโหที่พี่เขาแผ่ออกมาเลย
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงวะ ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีนะเว้ยที่ทำให้เพื่อนรักสองคนต้องแตกคอกัน”
“เธออยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร อยู่กับไอ้อาทิตย์ของเธอไปไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
“เดี๋ยวสิพนา!”
พรึ่บ!!
พี่พนาก้าวพรวดมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน มองหน้ากันแป๊บนึงก็จับมือฉันลากเดินออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อกี้เขาตั้งใจเดินตรงเข้ามาหาฉันขนาดนั้นแปลว่ารู้แล้วสินะว่าฉันแอบฟังอยู่
จะโดนโกรธด้วยอีกคนไหมเนี่ย เฮ้ออ...
ตั้งแต่ทะเลาะกับพี่ครีมจนมาถึงตอนนี้ที่กำลังจะเลี้ยวหัวรถเข้าซอยหอพักฉัน พี่พนาก็เอาแต่เงียบมาตลอดทาง ไม่พูดปริปากอะไรเลยสักคำทั้งยังทำหน้าดุน่ากลัวอีก
เป็นแบบนี้ฉันจะไปพูดอะไรได้ล่ะ...
บรรยากาศยังคงชวนอึดอัดกระทั่งมาถึงหน้าหอพัก พี่พนาจอดรถโดยไม่ได้เอ่ยอะไร ฉันที่ไม่รู้ว่าจะนั่งต่อไปทำไมจึงหยิบถุงเสื้อผ้าเตรียมลงจากรถ โดยไม่ลืมไปหันบอกขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“...”
เห็นหน้าเขาดูไม่อยากรับแขกฉันจึงไม่ได้เซ้าซี้อะไรมาก แต่ขณะที่กำลังจะลงจากรถจู่ๆ มือใหญ่ก็เอื้อมมาคว้าข้อแขนฉันไว้ไม่ให้เปิดประตูรถ เมื่อฉันหันไปมองเพื่อจะถามว่าจับแขนฉันทำไม อีกคนก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับประทับริมฝีปากลงบนปากฉัน
และใช่...เขาจูบฉันอีกแล้ว
ด้วยความตกใจฉันจึงทำได้เพียงหยุดนิ่งเหมือนถูกแช่ฟรีซ กระทั่งเขาเริ่มขยับริมฝีปากฉันจึงดึงสติกลับมาได้และรีบผละร่างตัวเองถอยห่างออกมา
ปฏิกิริยาของฉันเหมือนจะทำให้อีกคนได้สติกลับคืนมาเหมือนกัน เขาผงะและมองหน้าฉันด้วยแววตาเหมือนรู้สึกผิดก่อนจะขยับกลับไปนั่งที่เบาะฝั่งคนขับดังเดิม
“พี่ขอโทษ”
ฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอกแค่ไม่เข้าใจว่าพี่เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ทำไมจู่ๆ ถึงได้จูบฉัน คงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นพี่ครีมเลยอยากจูบขึ้นมาหรอกนะ
“พี่โอเคนะคะ”
“หึ! ถ้าบอกว่าโอเคจะไม่เป็นการโกหกเหรอ”
“ก็จริง งั้นหนูถามใหม่ดีกว่า” ฉันหันไปหาพี่พนา วางถุงเสื้อผ้าในมือเอื้อมไปประคองแก้มทั้งสองข้างของอีกคนให้หันมาจ้องหน้าฉัน
“พี่ไหวไหม”
“...”
เขาไม่ได้เอ่ยตอบแต่แค่ครู่เดียวก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้จนปากเกือบจะประกบกันอีกครั้ง
“หนูคือสายน้ำนะ” ฉันโพล่งขึ้นก่อนจะถูกอีกคนจูบ
ประโยคเมื่อกี้ฉันเอ่ยขึ้นเพื่อต้องการย้ำสติเขาว่าคนตรงนี้คือใครหากเขาจะทำแบบนั้นจะได้มั่นใจว่าถูกตัว
“อืมรู้แล้ว” พูดจบก็ใช้มือแกร่งรั้งท้ายทอยฉันไม่ให้ขยับหนี ป้อนจูบแสนหวานและนุ่มนวลกว่าเมื่อกี้ให้ฉัน..
จูบนานราวหนึ่งนาทีก็ผละจูบออก โดยใบหน้ายังอยู่ในระยะประชิดที่ปลายจมูกห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
บอกเลยว่าตอนนี้ใจสั่นมากแต่ก็ต้องเก็บอาการ หากกรี๊ดได้ฉันคงกรี๊ดไปแล้ว
ใจเย็นไว้น้ำ สงบไว้อย่าเพิ่งกระดี๊กระด๊าค่อยไปกรี๊ดใส่หมอนบนห้อง ฮู้ว!
“ขอบคุณนะสำหรับวันนี้”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะแค่พี่ไม่เบื่อก็พอ” เขายอมปล่อยมือที่รั้งท้ายทอยฉันออก แล้วกลับไปนั่งที่เบาะของตัวเอง
“ไม่เบื่อหรอก แล้วจูบเมื่อกี้พี่ตั้งใจ”
“เอาเปรียบกันเกินไปไหมคะ ทั้งที่ยังไม่ยอมเป็นแฟนกับหนูแต่กลับจูบตั้งสี่ครั้งแล้ว”
“งั้นพี่ให้จูบกลับเอาไหม”
“แบบนั้นไม่ใช่ว่าพี่ยิ่งได้เปรียบหรือไง”
“หึ! ฉลาดแล้วนี่” ว่าจบก็เอามือยีหัวฉันเบาๆ
“ทำแบบนี้บ่อยๆ หนูจะตายเอานะ เพราะแค่นี้ก็ชอบจะตายอยู่แล้ว”
“เป็นคนตรงดีจังเลยนะ”
“ก็ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรนี่คะ ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็แค่ปฏิเสธ”
“แล้วถ้าเริ่มชอบแต่ก็ยังไม่มั่นใจล่ะ”
“โชคดีนะที่พี่มาเจอคนน่ารักแบบหนู” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะยกยิ้มหวานให้พี่เขา “หนูมีเวลาให้พี่อีกเยอะ รีบหาคำตอบให้เจอแล้วมาให้คำตอบหนูก็แล้วกัน แต่เมื่อไหร่ถ้ามันนานเกินไปหนูก็อาจจะไม่รอ”
“แล้วไหนบอกมีเวลาอีกเยอะไง”
“ก็ในกรณีไม่มีเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรกแซงในความสัมพันธ์ไง”
“อาทิ?”
“หนูเจอผู้ชายที่หล่อกว่า รวยกว่า นิสัยดีกว่า และไม่ลังเลที่จะเลือกหนู”
“งั้นยากหน่อยเพราะพี่ทำมาตรฐานไว้สูง”
“แหวะหลงตัวเอง” เห็นอีกคนยิ้มได้ก็สบายใจ เหมือนอารมณ์ขุ่นเคืองจะหายไปหมดแล้วสินะ
“หนูไปนะบ้ายบายค่ะ”
“อืมบ้ายบาย”
บอกลาเสร็จฉันก็เดินหิ้วของกลับเข้ามาในหอพักอย่างอารมณ์ดี
“น้ำ”
ขณะกำลังจะก้าวขาเข้าไปในหอพักเสียงหนึ่งก็เอ่ยเรียกชื่อฉัน
“อ้าวพี่เขื่อน มาได้ไงคะ”
“เห็นเมื่อวานน้ำเมา ไอ้โยธาก็บอกว่าน้องกลับมาที่หอพักแล้วพี่เลยซื้ออะไรแก้แฮงค์มาให้กิน”
“ขอบคุณนะคะ พี่เขื่อนดีเสมอเลย” ฉันเอ่ยพลางยิ้มรับของจากมือเพื่อนพี่ชาย ภายในเป็นถุงก๋วยเตี๋ยวร้อนที่ตอนนี้มันยังอุ่นๆอยู่
“ว่าแต่เมื่อกี้ใครมาส่งเหรอ รถคุ้นๆ นะ”
ตายแล้วพี่เขื่อนต้องจำได้แน่ว่าเป็นรถของพี่พนา รถหรูสปอร์ตหรูสีแดงเพลิงสะดุดตาแบบนั้นใครจะจำไม่ได้บ้าง
ดูท่าจะโกหกไม่ได้แล้วสินะ
“พี่พนาค่ะ”
“พี่พนา? ไปกันสนิทกันตอนไหนทำไมพี่ไม่เห็นรู้เลย”
“พอดีเมื่อเช้าน้ำลืมของพี่พนาก็เลยแวะเอามาให้ จากนั้นก็ชวนน้ำให้ไปช่วยเลือกของขวัญให้พี่ขนมผิงแล้วก็เพิ่งกลับมานี่แหละค่ะ”
“อ๋อ พี่ก็นึกว่าพี่พนากำลังจีบน้ำอยู่เสียอีก”
เซนส์แรงเกินไปไหมคะพี่เขื่อน แต่เสียดายที่พลาดไปนิดเดียว เพราะคนที่กำลังตามจีบคือฉันต่างหากไม่ใช่พี่พนา
“พี่เขื่อนมีธุระอะไรอีกไหมคะ พอดีน้ำเพลียๆ เลยว่าจะขอนอนหน่อย”
“น้ำขึ้นห้องไปพักเถอะ พี่เองก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน”
“งั้นขับรถกลับดีๆ นะคะ บ้ายบาย”
“บายครับ”