ตึกตึก
เสียงสองเท้าหนักของชายผู้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำดูดีเดินนำเข้ามาในร้านดอกไม้ลินรดา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของเหล่าลูกน้องของเขาอีกมากกว่าหกคนที่คอยเดินตามประกบลูกพี่ของตัวเองอย่างใกล้ชิด
"นะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณลินดา" พนักงานสาวอ้าปากค้างกับความดูน่ากลัวและทรงอำนาจของกลุ่มชายตรงหน้า ซึ่งแค่มองแวบแรกก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คนที่จะมาซื้อดอกไม้อย่างแน่นอน
"เขามาทำอะไรที่นี่" ลินดาเองก็ไม่ต่างกัน เธอยืนพึมพำอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรต่อ คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว
"ตามตัวยากเย็น โทรไปไม่รับ ทักหาไม่ตอบ…คิดจะชิ่งรึไง" เฮียภูวินทร์เอ่ยพูดเสียงเข้ม ไม่เพียงเท่านั้นเพราะเขายังใช้สายตาที่แฝงไปด้วยความเรียบดุจ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว
หมับ!
"ออกมาคุยกันข้างนอกค่ะ" ลินดาที่เห็นแบบนั้นก็ตัดสินใจคว้าแขนคนร่างแกร่งและดึงเขาให้เดินออกมากับเธออย่างไม่มีความเกรงกลัว ซึ่งเฮียภูวินทร์เองก็ไม่มีท่าทางขัดขืน เขาก้าวขายาว ๆ ของตัวเองเดินตามลินดาต้อย ๆ พร้อมกับหลุบสายตาคมไปมองมือเล็ก ๆ ที่จับข้อมือของตัวเองไว้อยู่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาในความคิด
ตึกตึก! ทว่าเธอยังไม่ทันจะได้พาเขาเดินไปไหนไกล ลินดาก็ต้องชะงักเท้าหยุดนิ่งและตวัดสายตาหันกลับไปมองเหล่าลูกน้องของเฮียภูวินทร์ที่กำลังทำท่าจะเดินตามออกมาเช่นกัน
"คุยแค่สองคนเท่านั้นค่ะ" ลินดาเอ่ยพลางจ้องมองเหล่าลูกน้องเฮียภูวินทร์นิ่ง ไม่มีความเกรงกลัวผู้ชายที่มีมาดนักเลงแต่อย่างใด เธอจ้องเขานิ่งไม่หลบสายตาหนี จนเหล่าลูกน้องของเฮียภูวินทร์นั้นต้องเป็นฝ่ายพากันหลบสายตาของหญิงสาวเสียเอง
"หึ" เฮียภูวินทร์ที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาในลำคอเบา ๆ พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชอบใจค่อย ๆ ฉายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อ แต่ลินดาไม่ได้แสดงท่าทางใด ๆ กลับ เธอเพียงแค่หันหน้ากลับไปและดึงแขนแกร่งของเขาให้เดินตามตัวเองออกมา จนกระทั่งมีเพียงเขาและเธอที่ยืนอยู่กันหน้าร้าน
"คุณมาทำอะไรที่นี่" ลินดาเอ่ยถามพร้อมกับรีบปล่อยมือที่จับแขนแกร่งของเขาออกอย่างทันที
"คิดว่าฉันมาทำไมล่ะ?" คนตัวสูงที่ได้ยินน้ำเสียงแข็งก็ยกมือขึ้นมากอดอกตัวเอง พร้อมกับเลิกคิ้วถามกลับ ขณะเดียวกันสองเท้าของเขาก็ขยับเข้าไปหาลินดาเรื่อย ๆ
"อย่าคิดที่จะมาสร้างปัญหาที่ร้านของฉันนะคะ" เรียวปากสวยเอ่ยสวนตอบ ดวงตากลมจ้องมองคนตรงหน้ากลับไปอย่างไม่ยอม
"สร้างปัญหาอะไร?"
"ยกพวกมาขนาดนี้ยังจะทำเป็นไขสืออีกเหรอคะ ฉันรู้นะว่าคุณคิดจะมาทำลายข้าวของของฉัน คุณถนัดทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนี่"
"ดูเป็นคนหวงของใช้ได้เลยนะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก วันนี้ฉันตั้งใจมาหาเธอโดยเฉพาะ" เฮียภูวินทร์ตอบกลับ พอลินดาได้ยินแบบนั้นคิ้วเรียงสวยที่ขมวดเข้าหากันแน่นก็ค่อย ๆ คลายลงอัตโนมัติ
"มาหาฉันอย่างนั้นเหรอ? แต่มันยังไม่ถึงเวลานัดเลยด้วยซ้ำ" เพราะนี่มันเพิ่งผ่านมาแค่สองวันเอง เขาคงไม่ได้ซื่อบื้อจนไม่รู้หรอกมั้งว่าประจำเดือนของฉันมันยังไม่หาย
"ทำไม ฉันมาหาของบำเรอของฉันไม่ได้รึไง" คนร่างแกร่งเอ่ยพร้อมกับใช้หลังมือของตัวเองจะเข้าไปลูบที่แก้มของหญิงสาว
พรึบ! ทว่าลินดาที่เห็นแบบนั้นก็รีบยกมือของตัวเองขึ้นมาปัดมือของเฮียภูวินทร์ออกอย่างรวดเร็ว
"อย่าทำแบบนี้ เราอยู่ในที่สาธารณะ"
"แล้วยังไง" เขาเลิกคิ้วเอ่ยถามเธอกลับด้วยท่าทางที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยพึงพอใจที่ลินดาดูไม่อยากให้เขาถูกเนื้อถูกตัวของเธอในที่สาธารณะแบบนี้ และมันเป็นอีกครั้งที่ทำให้เฮียภูวินทร์รู้สึกได้ถึงความแตกต่างของลินดาและพวกผู้หญิงที่เขาเคยพบเจอ เขาพบเจอผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ซึ่งพวกผู้หญิงเหล่านั้นแทบจะคลานมาหาเขาโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปาก พวกเธอมักคอยออดอ้อน เอาอกเอาใจเขาโดยไม่ต้องรอให้เขาร้องขอ พวกเธอมักที่จะพร้อมปรนนิบัติให้เขาทุกอย่าง…เพราะผู้หญิงเหล่านั้นต่างหวังว่าสักวันหนึ่งเธออาจจะทำอะไรให้เขาถูกใจจนได้เป็นตัวจริง
ทว่าเฮียภูวินทร์ในตอนนี้กลับรู้สึกชอบใจในตัวของลินดา หญิงสาวที่แสดงท่าทางเกลียดชังเขายิ่งกว่าอะไรซะอย่างนั้น…ความชอบมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเมื่อตอนที่เขาได้พูดคุยกับเธอและได้สัมผัสร่างกายของเธอเป็นครั้งแรก
ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจดีว่าความชอบนั้นมันคือความรู้สึกชั่ววูบที่เกิดขึ้นและไม่นานมันก็จะกลายเป็นความเบื่อหน่ายและจางหายไปในที่สุดก็ตาม เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะคนอย่างเขาไม่เคยหลงรักผู้หญิงคนไหนอยู่แล้ว
เขามั่นใจอย่างมากว่ามันจะเป็นแบบนั้น
"ฉันตกลงเป็นของบำเรอของคุณก็จริง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องใกล้ชิดกันในที่สาธารณะขนาดนั้น ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเราข้องเกี่ยวกัน"
"หึ ไม่อยากให้คนอื่นรู้อย่างนั้นเหรอ" คนร่างแกร่งทวนคำพูดของหญิงสาว ก่อนจะหัวเราะออกมาในลำคอ "ก็ดี เพราะฉันก็ไม่ชอบอะไรที่ผูกมัดและน่ารำคาญอยู่แล้ว"
"งั้นสรุปแล้วคุณมาหาฉันทำไม?"
"ทำไมเธอถึงไม่ตอบกลับข้อความของฉัน"
"แล้วมันสำคัญตรงไหน?" ลินดาที่ได้ยินขมวดคิ้วแน่นมากกว่าเดิมเอ่ยถามเขากลับด้วยความไม่เข้าใจว่าการที่เธอไม่ตอบข้อความหรือไม่รับสายโทรศัพท์ของเขามันสำคัญตรงไหน เพราะเขาเพิ่งบอกเองว่าไม่ชอบอะไรที่น่ารำคาญแต่เขากลับกำลังทำสิ่งที่น่ารำคาญเสียเอง
"ฉันก็นึกว่าเธอจะชิ่งหนีไง"
"ก็ฉันยังไม่หาย คุยกันไว้แล้วนี่ว่าถ้าฉันหายดีจะติดต่อไปเอง ทำไม? มันอยากจนจะขาดใจตายแล้วรึไง"
"ถ้าบอกว่าใช่ จะให้ตอกไหมล่ะ" เฮียภูวินทร์เลิกคิ้วถามกลับคนตรงหน้า ทำเอาลินดาที่ได้ยินถึงกับกัดปากตัวเองแน่น
"…" ฉันเกลียดคนแบบเขาที่สุดทุกคำที่เขาพ่นออกมามันทำให้ฉันอยากสวนหมัดใส่แรง ๆ จนทำให้เขากลืนคำพูดลามกพวกนั้นลงคอไปเลยจริง ๆ
"อีกอย่างถึงข้างล่างของเธอยังไม่หายดี แต่ใช่ว่าตรงอื่นจะทำไม่ได้นี่ จริงไหม?" สิ้นเสียงทุ้มของชายตรงหน้า คิ้วเรียงสวยของลินดาก็เริ่มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
เขาคิดจะทำบ้าอะไรอีกนะ ฉันเดาใจคนตรงหน้าไม่ถูกเลยจริง ๆ!
"คุณนี่มันไม่รู้จักรักษาคำพูดเลยนะ แล้วแบบนี้ฉันจะเชื่อใจคุณได้ยังไง"
"หึ ถามหาความเชื่อใจจากฉันงั้นเหรอ?" เฮียภูวินทร์แสยะยิ้มทวนคำพูดของหญิงสาว "ก่อนจะถามหาความเชื่อใจจากฉัน เธอดูตัวเองก่อนดีกว่าไหมว่าทำดีถึงขั้นที่ฉันควรยกหนี้ให้แล้วรึยัง"
"คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?"
"เธอทำตัวสมกับเป็นของบำเรอของฉันแล้วเหรอเธอควรจะเชื่อฟังฉัน ทำตามคำพูดของฉันมากกว่านี้สิลินดา…ไม่ใช่มาทำตัวแข็งกร้าวใส่ฉันแบบนี้" ขณะที่เขาเอ่ยขึ้น สองเท้าแกร่งของเขาก็ขยับไปหาลินดา ฝ่ายลินดาเองก็พยายามถอยเท้าหนีจนกระทั่ง
ตึก! แผ่นหลังเล็กของหญิงสาวชิดติดกับกำแพงของร้านและในที่สุดร่างแกร่งก็ขยับเข้าใกล้เธอจนทั้งเขาและเธอแนบชิดกัน
"คุณอยากได้อะไรอีกล่ะ" ลินดาใจดีสู้เสือ ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปเอ่ยถามชายตรงหน้า
"เธอควรจะเรียกฉันแบบที่เธอควรเรียกสิ" เฮียภูวินทร์ยิ้มตอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ขณะที่เขาเอ่ยพูดมือของเขาก็เลื่อนขึ้นมาลูบไล้ไปที่ใบหน้าสวย
"ฉันไม่เข้าใจ" ลินดาเบือนหน้าหนีพร้อมกับเอ่ยพูดตอบเขากลับไป เฮียภูวินทร์ก็ใช้มือที่ลูบใบหน้าลินดาในตอนแรกจับใบหน้าของเธอให้หันมาสบตาเขาดังเดิม
"ฉันรำคาญจะตายห่าแล้วที่เด็กน้อยอย่างเธอเอาแต่มาเรียกฉันว่าคุณ คุณ คุณ สรรพนามพวกนั้นฉันไม่อยากได้ยิน" คำพูดแสนเอาแต่ใจที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำเอาลินดาจ้องมองกลับไปด้วยแววตาที่แสดงถึงความรำคาญเป็นที่สุด แต่ถึงอยากจะต่อยปากเขามากแค่ไหน เธอก็ยังพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้
"ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเธอต้องเรียกฉันว่าอะไร"
"กระดากปาก"
"ลินดา คำพูดของฉันดูเหมือนเป็นคำพูดเล่น ๆ มากเหรอ?"
น้ำเสียงทุ้มกดต่ำที่เอ่ยออกมา ทำเอาลินดานิ่งไปเล็กน้อย แต่แน่นอนว่าเธอก็ยังไม่ยอมเอ่ยสิ่งที่เขานั้นอยากได้ยิน
"ฉันไม่เข้าใจคนเอาแต่ใจแบบคุณเลยสักนิด"
พรึบ! สิ้นเสียงเล็กที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่กำลังสับสน เฮียภูวินทร์ก็จัดการดึงเอวบางเข้ามาแนบชิดกับร่างกายตัวเอง ทำให้ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังจ้องหน้ากันนิ่งในระยะที่แสนจะแนบชิด
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกลินดา เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอเข้าใจคนอย่างฉันเอง เข้าใจกันแบบ ‘ลึกซึ้ง’ เลยล่ะ"
"ปะ ปล่อย!" ลินดาเอ่ยพร้อมกับพยายามเบือนหน้าหนี ทว่ายิ่งเธอดิ้นมากเท่าไรเฮียภูวินทร์ก็จับเธอแน่นมากขึ้นเท่านั้น
"เรียกฉันแบบที่เธอควรเรียก" เสียงทุ้มกดต่ำเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง ลินดาที่พยายามดีดดิ้นในตอนแรกก็เริ่มอ่อนลงเพราะเธอรู้ตัวดีว่าสู้แรงของเขาไม่ได้
"ลินดา ฉันบอกว่าให้เธอเรียกฉัน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลินดาไม่ยอมทำตาม ในขณะที่ลินดาก็เริ่มกัดปากตัวเองแน่นอย่างไม่อยากที่จะเอ่ยคำที่เขาได้ยินออกมา…แต่สุดท้าย
"เฮีย" หญิงสาวก็จนมุมอยู่ดี เธอยอมเอ่ยปากเรียกเขาด้วยสรรพนามที่เขาต้องการ เพราะยิ่งเธอดื้อดึงใส่เขา เขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย
"เฮียภูขา" เฮียภูวินทร์ที่ยิ่งได้ใจเมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มกำราบเด็กดื้ออย่างลินดาได้ก็เอ่ยขึ้นต่อเพื่อหวังจะแกล้งเธอ
"เฮียภู…ขา" ลินดากัดฟันแน่นเอ่ยพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ แต่ท่าทางเหล่านั้นของเธอกลับยิ่งสร้างความประทับใจให้กับเขา
"หึ นี่สิ…มันต้องแบบนี้สิ เชื่อฟังกันง่าย ๆ แบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย" ใบหน้าหล่อเอ่ยขึ้นอย่างติดกวน ขณะพูดเขาก็ใช้ฝ่ามือลูบหัวของเธอเบา ๆ ผิดกับลินดาที่ตอนนี้กำลังกำหมัดแน่นเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากอันติดกวนของชายตรงหน้า
"เรียกแล้ว ทีนี้ก็ถอยออกไปได้แล้ว!" เรียวปากสวยเอ่ยพลางยกมือขึ้นมาปัดมือของเฮียภูวินทร์ที่ลูบหัวตัวเองอยู่ออก
"น่ารักแบบนี้จะให้รีบถอยออกไปได้ยังไงล่ะ หืม?" ทว่าเฮียภูวินทร์กลับไม่ยอมออกห่างจากเธอ มือข้างหนึ่งของเขาที่กอดเอวเธอไว้นานสองนาน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกอีกด้วย
"อะ อะไรอีก…บอกให้ถอยออกไปไง"
"เธอต้องไปกับเฮียก่อนสิ ทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวเฮียขาพาไปเอารางวัล"