Woman on top หรือ Doggy Style (1)

1995 Words
6 Woman on top หรือ Doggy Style  กันต์ดนัยพุ่งไปเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสารพร้อมผายมือเชิญอย่างสุภาพ “เชิญมานั่งตรงนี้ครับคุณผู้หญิง เดี๋ยวพี่ขับเอง” “ไม่เป็นไรค่ะ เจนชินทางกว่า ขับเองได้” “มันจะยากสักแค่ไหนเชียว มีคนขับรถให้นั่งสบายๆ ไม่ดีหรือไง อย่าดื้อให้เหนื่อยเลย เข้าไปนั่งเร็ว” จบคำพูดพร้อมจับร่างคุณแม่ยัดเข้าไปและปิดประตูตาม จากนั้นก็วิ่งอ้อมไปนั่งหลังพวงมาลัย สตาร์ทรถแล้วหักเลี้ยวออกไปจากรีสอร์ต “ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ เมื่อคืนเราดีกันแล้วไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกว่าเราดีกันแล้ว” “ก็เห็นให้ขึ้นไปนอนบนเตียงด้วย” “ก็เลยคิดว่าเราดีกันแล้ว?” เพราะเมตตาสงสารต่างหากล่ะถึงให้ซุกกายภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “อย่าเข้าใจอะไรผิดๆ แบบนั้นค่ะคุณดารา ถ้าอยากอยู่ที่นี่เพื่อพักผ่อน อยากอยู่ให้ไกลจากสายตาคนรู้จักก็อยู่ไปค่ะ แต่ห้ามเช็คอินในโซเชียล ห้ามบอกใครว่าพี่อยู่ที่ไหน และที่สำคัญห้ามแพร่งพรายการมีตัวตนของเจน ส่วนค่าห้องตลอดเจ็ดคืนก็…สามแสนห้าหมื่นบาทค่ะ” “เดี๋ยวๆ ค่าห้องอะไรมันจะโหดขนาดนี้ กะเอารวยเลยหรือไง” เชื่อเขาเลยสิผู้หญิงคนนี้ “เอาไปเลี้ยงลูก” เหตุผลของเจนนินทร์เปลี่ยนความรู้สึกของกันต์ดนัยอย่างฉับพลัน หากว่าเด็กน้อยที่รอการกำเนิดเป็นลูกของเขาจริง กันต์ดนัยก็ควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดออกมาเป็นตัวตน ซึ่งการที่เจนนินทร์ไม่คิดปริปากเรียกร้องมันทำให้เขาละอายใจ เหมือนคนไม่มีสำนึก ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กันต์ดนัยไม่พึงปรารถนา “ก็ได้ สามแสนห้าก็สามแสนห้า” “ยอมง่ายจังแฮะ งั้นขอเพิ่มเป็นสี่แสน” ใบหน้านวลเหลียวมองคนขับรถอย่างแปลกใจ เธอก็โก่งราคาไปอย่างนั้นไม่คิดว่าเขาจะตกลงจริง ปกติกันต์ดนัยเป็นคนรู้จักคุณค่าของเงินตรา ไม่ได้หมายความว่าตระหนี่ถี่เหนียว บทจะเปย์เขาก็เปย์คนรักอย่างถึงใจ แต่กันต์ดนัยไม่ชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย การจะจับจ่ายก้อนใหญ่เขามักใคร่ครวญอย่างมีสติเสมอ “พอเลย แฟนเธอเป็นมหาเศรษฐีเหรอ ธุรกิจส่วนตัวก็ไม่มี ไฮโซก็ไม่ใช่” “ใครคะแฟนเจน” สองแขนยกกอดอก แค่นเสียงหยันขึ้นจมูกในขณะมองเสี้ยวหน้าที่อึกอัก “ก็ผู้ชายที่ชื่อกันต์ดนัยไง” “เฮอะ! ตีมึนได้อีกนะ... ‘ไปให้พ้น อย่ามาให้เห็นหน้าอีก เราเลิกกันนับตั้งแต่วันนี้ เลิกแล้วเลิกเลย ไม่ต้องมาฟูมฟายไม่ต้องขอโทษ ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวจากเธออีก’ ...พี่กันต์จำประโยคเหล่านี้ได้ไหมคะ มันคือคำพูดสุดท้ายของพี่ไง ส่วนเจนนั้นจำได้ขึ้นใจเลยล่ะค่ะ แม้แต่คำเดียวก็ไม่เคยลืม” กันต์ดนัยถึงกับเลียริมฝีปากแห้งผาก กระแอมเสียงอย่างไปไม่เป็น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ก็พอจำได้เลือนรางอยู่บ้างว่าพูดในทำนองนั้นจริง ใช้คำไม่ใยดีความรู้สึกของอีกฝ่ายจริง ก็ตอนนั้นเขาเมาทั้งหัวใจเต็มไปด้วยความโกรธที่มีต่อเจนนินทร์ และนับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้เห็นหน้าเธออีก ไม่มีข้อความใดๆ บัญชีอินสตาแกรมก็ถูกลบหาย ผ่านไปนับสัปดาห์กันต์ดนัยรับมือกับความว้าวุ่นไม่ไหวจึงกดโทร.ออกหมายเลขเดิม แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสัญญาณที่ไร้การตอบรับ เขาแอบถามจากเพื่อนฝูงของเจนนินทร์แต่ไม่มีใครตอบได้ว่าเธอหายไปไหน เจนนินทร์เปิดเพลงปรับปรุงบรรยากาศในห้องโดยสาร เห็นสีหน้าเขาอึดอัดแบบนั้นก็ไม่อยากรับรู้ความเห็นใดๆ อีก หากเขาพูดมันจะกลายเป็นเธอเสียมากกว่าที่เจ็บแล้วเจ็บอีก นับตั้งแต่โดนบอกเลิกอย่างแสบสัน โดนสังคมรุมประณามอย่างหยาบคาย เจนนินทร์ก็จมอยู่ในรอยน้ำตาจนไม่อยากเห็นเดือนตะวัน จากนั้นเพียงสัปดาห์เดียวบิดาบุญธรรมก็ด่วนจากไป เรไรที่อยู่กับสามีคนนี้มาตั้งแต่วัยรุ่น รักกันยืนยาวมั่นคงแทบอยู่ต่อบนโลกนี้ไม่ได้ สะอึกสะอื้นทั้งคืนทั้งวัน สองแม่ลูกกอดกันและหลับไปพร้อมคราบน้ำตา ดำเนินชีวิตอยู่เช่นนั้นตลอดหนึ่งเดือน น้องชายของบิดาบุญธรรมชวนเรไรไปอยู่ที่สิงคโปร์ แต่เธอส่ายหน้าปฏิเสธ กระทั่งเจนนินทร์ชวนเรไรมาอยู่ที่ภูพราวดาวรีสอร์ต ซึ่งเป็นสถานที่โปรดของเรไรและสามี และที่นี่เองที่เจนนินทร์รับรู้การมีอยู่ของทารกในครรภ์ หากร่างกายไม่ประท้วง หน้าซีดและอาเจียน เรไรกับนายต้องจึงพาไปตรวจที่คลินิก เธอก็คงไม่รู้ตัวว่าท้องไปอีกนาน เรไรไม่ต่อว่าสักคำกับความเหลวแหลกของลูกสาว แต่เจนนินทร์สัมผัสได้ถึงแววผิดหวังในดวงตาสีหม่น ปกติเรไรถือได้ว่าเป็นมนุษย์แม่ขี้บ่น แต่เพราะเรไรอยู่ในภาวะซึมเศร้าจึงไม่เหลือแรงกายแรงใจมาสั่งสอนบุตรสาว เพียงแค่แนะนำให้เจนนินทร์หาทางออกร่วมกับกันต์ดนัย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเด็ก แต่ผู้ถูกกระทำที่เจ็บร้าวจนราวกับไม่ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจส่ายหน้าปฏิเสธคำแนะนำของมารดา ยืนยันจะเลี้ยงลูกเอง และนับจากนี้ไปเธอไม่ขอคิดอะไรอีก จะไม่ร้องไห้ ไม่ยอมให้ความรู้สึกเชิงลบกระทบต่อเลือดเนื้อในครรภ์ ราวครึ่งชั่วโมงกับการขับรถผ่านเส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยวแต่ไม่ถึงกับสมบุกสมบัน ถนนผ่านการลาดยางอย่างดี เส้นทางสัญจรกว้างขวาง แต่ต้องขับขี่อย่างระมัดระวังเพราะจุดนี้เป็นทางสัญจรหลักจึงมีทั้งรถบรรทุก รถบัสคันใหญ่ และโดยเฉพาะรถตู้ที่มีแต่เซียนตีนผีทั้งนั้น มือใหม่ที่ไม่ค่อยชินทางเช่นเขาจึงต้องมีสติอยู่เสมอ “พี่รออยู่ในรถนี้ก็ได้ ไม่นานหรอกค่ะ” “ไม่เอา จะไปด้วย ไม่ใช่คนขับรถนะ” เขาเป็นแฟน...แฟนเก่าก็ได้อะ เผลอๆ อาจเป็นพ่อของลูกเธออีก กันต์ดนัยดับเครื่องยนต์หน้าคลินิกสูตินรี พลางจะเปิดประตูออกไปแต่หญิงสาวรั้งไว้ “เดี๋ยวก่อนค่ะ ใส่หมวกด้วยคุณซุปตาร์” เจนนินทร์หยิบหมวกแก๊ปสีโอรสที่วางอยู่หน้าคอนโซล นำไปสวมให้เขาอย่างลืมตัว ...ลืมไปว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ลืมไปว่าอยู่ใกล้กันมากดวงตาเลยผสานสบจนเกิดลมพัดวูบในหัวใจ เจนนินทร์ดึงตัวเองออกมาก่อนจะรู้สึกหวั่นไหวไปมากกว่านี้ และขัดบรรยากาศด้วยการยื่นหน้ากากอนามัยให้เขา “เอาไปใส่ด้วยค่ะ เผื่อมีคนจำพี่ได้” เจนนินทร์ลงจากรถแล้ว กันต์ดนัยก็รีบวิ่งตามไปไม่ห่าง วันนี้เขาแต่งตัวเรียบง่าย เพียงเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนส์ ปิดบังออร่าซุปตาร์ด้วยหมวกแก๊ปสีหวานและหน้ากากอนามัย เจนนินทร์นำเข้าไปในคลินิกที่เวลานี้ไม่มีผู้ป่วยท่านอื่น พยาบาลทักทายต้อนรับ ทำการวัดความดันโลหิตและชั่งน้ำหนักก่อนพาเข้าไปในห้องตรวจ “วันนี้คุณพ่อมาด้วยเหรอคะ จะเข้าไปด้วยไหมคะ” พยาบาลวัยสี่สิบปีหันมาถามชายหนุ่ม “ไปครับๆ” กันต์ดนัยรีบร้อนตอบรับ กลัวเจนนินทร์จะแย่งห้ามไม่ให้เข้าไป คนท้องส่ายหน้ากลอกตา อยากทำอะไรก็เชิญเลย เธอเหนื่อยกับเขาแล้ว แพทย์หญิงวัยยังสาวส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่มาพร้อมหญิงสาว ก่อนทำการตรวจเช็กร่างกายคนท้องตามปกติเช่นทุกครั้งที่ทำการนัด แพทย์หญิงคนสวยให้คำแนะนำคุณแม่ก่อนเหล่ไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมนั่ง “คุณพ่อมาด้วยแบบนี้ก็ดีนะคะ หมอเองสนับสนุนให้คุณพ่อมีส่วนร่วมในการดูแลครรภ์จนกว่าจะคลอดเลยค่ะ ครั้งหน้าก็มาด้วยอีกนะคะ” แพทย์หญิงยิ้มให้เขาอย่างมีเลศนัยก่อนกล่าวต่อ “จากที่ดูแลคุณเจนนินทร์มาตลอดหลายเดือน ภาวะครรภ์ปกติดีทุกอย่าง ไม่อยู่ในกลุ่มอาการเสี่ยงเลยค่ะ ซึ่งในช่วงเดือนนี้ถือเป็นช่วงที่ไม่ค่อยอันตรายในการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับช่วงสามเดือนแรก หมอแนะนำว่าท่าที่ปลอดภัยควรเป็นท่าที่ไม่โลดโผน ไม่สะเทือนเกินไป อย่าใช้ท่าที่คุณแม่จะเหนื่อยมากไปด้วย” “เอ่อคุณหมอคะ...” คุณหมอไม่ต้องแนะนำก็ได้ค่ะ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย พอวันนี้เขาโผล่มาด้วยกลับให้คำแนะนำที่ทำเอาเจนนินทร์แทบซุกหน้าหนี ก็รู้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของชีวิต แต่มันอายนะ ยิ่งตอนนี้เธอกับเขาไม่ได้อยู่ในสถานะคนรักกันแล้ว “เป็นท่า Woman on top หรือ Doggy Style จะดีกว่าค่ะ” ยังอีก...คุณหมอยังไม่จบคำแนะนำอีก แพทย์หญิงไม่สนใจเจนนินทร์เลย สายตาแลมองไปทางชายหนุ่มที่พยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ “ผมจะจำและนำไปใช้ครับ” เจนนินทร์เหลียวมองเขาตาเขียวปั๊ดตรงข้ามกับใบหน้าที่แดงเรื่อ เดาได้เลยว่าภายใต้หน้ากากนั้นกำลังยิ้มร่าอยู่ล่ะสิ แพทย์หญิงอมยิ้มกับสองสามีภรรยาก่อนบอกให้คุณแม่เตรียมตัวอัลตราซาวด์ กันต์ดนัยรอช่วงเวลานี้เป็นพิเศษ ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ร่างที่นอนอยู่บนเตียง ภาพอัลตราซาวด์แบบสี่มิติฉายให้เห็นอวัยวะและท่าทางของทารกอย่างชัดเจน คนเป็นแม่ยิ้มแก้มปริในขณะมองจอฉายภาพ “ดูจะงัวเงียนะเนี่ย ไม่ยอมให้เห็นหน้าเลย” แพทย์หญิงว่าเมื่อเจ้าก้อนของเจนนินทร์ยกมือปิดตา “26 วีค น้ำหนัก 890 กรัม...อ๊า! น้องให้ดูหน้าแล้ว เหมือนใครนะเนี่ย จมูกโด่งเชียว” “เหมือนเจนค่ะ ปากบางจุ๋มจิ๋มน่ารักเชียว” ลูกสาวของเธอก็ต้องเหมือนเธอล้านเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วล่ะ เจนนินทร์เหลือบมองชายหนุ่มที่ยืนข้างเตียง แววตาที่มองจอนิ่งเป็นประกายดูคล้ายว่ากำลังยิ้ม อยากได้ล่ะสิ เอ็นดูเจ้าก้อนล่ะสิ ถ้าเมื่อไรที่เขาพร้อมเชื่อแบบไม่ลังเลว่าเธอมีเขาแค่คนเดียว เมื่อนั้นเธอก็พร้อมให้สิทธิ์พ่อของลูกกับเขาเหมือนกัน ใช้เวลาในคลินิกสูตินรีพอสมควร เขาและเธอก็กลับขึ้นรถพร้อมด้วยยาบำรุงชุดใหม่ นอกจากนี้คุณหมอยังให้ภาพและวิดีโออัลตราซาวด์สี่มิติมาด้วยซึ่งรวมอยู่ในแพ็คเกจฝากครรภ์ที่เจนนินทร์จ่ายไปแล้วตั้งแต่ต้น “คุณหมอเขารู้ใช่ไหมว่าเจนเป็นดารา” พิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอก กันต์ดนัยคิดว่าแพทย์หญิงคนนั้นน่าจะราวๆ สามสิบต้นๆ ยังอยู่ในวัยสาวเช่นนี้ก็คงรู้ว่าเจนนินทร์เป็นใคร “รู้ค่ะ รู้ตั้งแต่วันแรกที่มาฝากครรภ์ เขามีจรรยาบรรณมากพอที่จะสงวนความลับของคนไข้ค่ะ” “งั้นเขาก็คงรู้สินะว่าพี่เป็นใคร ใส่หมวกปิดหน้ากากไปก็เท่านั้น” “อาจจะไม่รู้ก็ได้ เจนมีข่าวกับผู้ชายอีกคนนี่นะ...เลี้ยวไปทางนั้นค่ะ” นิ้วเรียวชี้บอกทาง และกันต์ดนัยก็ไม่เลือกสานต่ออารมณ์ให้หงุดหงิดกันเองทั้งสองฝ่าย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD