“ครับ ‘คุณคิณณ์ณภัทร บริภัทรเทวาพิมุข’ คือเจ้านายของผม”
“มะ... เมื่อกี้ คุณบอกว่าเจ้านายคุณชื่ออะไรนะ?”
“คิณณ์ณภัทร บริภัทรเทวาพิมุข”
“คะ คิณณ์ คิณณ์ณภัทร บริภัทรเทวาพิมุข?” อธิปถึงขั้นพูดติดขัด แข้งขาอ่อนแรงฉับพลัน เริ่มหายใจไม่ออกขึ้นมาทันที
คำตอบของเลขาหนุ่มมือฉมังแห่ง Thewa Grpup ทำให้อธิปแทบล้มทั้งยืน ใบหน้าที่เคยดุดันซีดเผือดลงทันตา
และไม่ใช่แค่อธิปคนเดียวที่ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด หญิงสาวที่อยู่ในร่างของพิมพ์พลอยก็ตกใจใบหน้าซีดเผือดไม่ต่างกันเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เธอคิดว่าเขาคือฮีโร่คิดว่าเขาคือวีรบุรุษคืออัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยผู้หญิงผลัดถิ่นอย่างเธอ
ทว่าความจริงเขาไม่ใช่ฮีโร่แต่เขาเป็นยิ่งกว่าธานอส
“ครับผู้ชายคนนี้คือ คุณคิณณ์ณภัทร บริภัทรเทวาพิมุข รองประธานกรรมการใหญ่ของ Thewa Group” เลขาหนุ่มหันไปสบตาเจ้านายตัวเองที่ยืนนิ่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของคู่กรณี
“เจ้านายผมท่านเป็นเพื่อนกับคุณผู้หญิงท่านนี้ ค่าเสียหายทั้งหมดที่คุณผู้หญิงขับรถชนรถของคุณเจ้านายผมจะเป็นผมรับผิดชอบทั้งหมดด้วยตัวเอง เชิญคุณพูดมาได้เลยว่าจะให้ทางเราชดใช้ค่าเสียหายยังไง ถ้าคุณยังยืนยันที่ห้าแสนบาททางเราจะเขียนเช็คเงินสดให้คุณทันที ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่าจะต้องรีบไปพรีเซนต์งานที่ Thewa Group คงไม่ต้องแล้ว หลังจากที่คุยเรื่องค่าเสียหายเสร็จเชิญคุณกลับไปที่บริษัทของคุณได้เลยครับ”
“ที่บอกว่าไม่ต้องไปที่ Thewa Group แล้วคุณหมายความว่ายังไง?”
“คุณคิณณ์ณภัทรยกเลิกนัดทั้งหมดครับ และทาง Thewa Group จะไม่มีการนัดคุยงานกับทางบริษัทของคุณอีก ทางเราขอยกเลิกธุรกิจที่จะทำร่วมกันทั้งหมดนับตั้งแต่วินาทีนี้”
คำพูดของเลขาหนุ่มทำให้คู่กรณีของพิมพ์พลอยหันขวับไปมองคิณณ์ณภัทรทันที รีบยกมือไหว้อีกฝ่ายระรัว พร้อมกับพูดขอโทษคนที่ตนยกมือไหว้ไม่หยุด ใครจะคิดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นทายาทเพียงคนเดียวของ Thewa Group ที่สำคัญชื่อเสียงของคิณณ์ณภัทรที่เขาได้ยินมาก็ไม่มีเรื่องไหนดีเลย โดยเฉพาะคนที่มีเรื่องกับผู้ชายคนนี้ไม่มีใครอยู่สงบดีสักคน
“คุณคิณณ์ณภัทรเรื่องเมื่อกี้น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมขอโทษที่เสียมารยาทกับคุณ ผมโง่เองที่ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณอย่ายกเลิกงานของเราเลยนะครับ ผมขอร้องจะให้ผมขอโทษเพื่อนคุณก็ได้”
“พูดกูมึงเหมือนเดิมก็ได้นะ น่าจะคล่องปากกว่า” คิณณ์ณภัทรแสยะยิ้มเหี้ยม ก่อนเบนสายตาไปที่การันต์เพื่อสั่งงาน
“เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ครับคุณคิณณ์”
“คุณคิณณ์ณภัทรคุณทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ มันไม่มีเหตุผลที่คุณจะยกเลิกธุรกิจกับทางเรา คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะคุณคิณณ์”
“เหตุผลงั้นเหรอ? หึ ‘กูไม่ชอบมึง’ พอจะใช้เป็นเหตุผลได้มั้ย?”
ความจริงที่ได้รับรู้ทำให้เธอเกิดอาการช็อกค้าง สมองว่างเปล่าไร้การคิดวิเคราะห์ประมวลผลไปชั่วขณะ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเธอขึ้นมานั่งอยู่บนรถหรูคันนี้ได้ยังไง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เธอขยับตัวแล้วเผลอไปสัมผัสโดนท่อนขายาวภายใต้กางเกงสแลคสีดำราคาแพงของคนตัวสูงที่นั่งข้างกันโดยไม่ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายหันมามองเธอด้วยสายตานิ่ง
หญิงสาวหันไปส่งยิ้มบางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเธอไม่ได้ตั้งใจขยับตัวไปถูกตัวเขา แต่ทว่าเธอก็ต้องยิ้มค้างเมื่อคนที่เธอยิ้มให้ทำเพียงมองเธอด้วยสายตานิ่งว่างเปล่าก่อนจะหันกลับไปนั่งหน้าตรงตามเดิม ไม่พูดไม่ชวนคุยไม่แม้แต่จะส่งยิ้มทักทายเธอสักนิดจนเธอเองก็เริ่มที่จะทำตัวไม่ถูก
เมื่อก่อนเธอเคยชอบความเงียบสงบเพราะความเงียบทำให้เธอได้อยู่กับตัวเองมีสมาธิสามารถคิดวิเคราะห์อะไรได้ทะลุปรุโปร่ง ทว่าตอนนี้เธออยากให้ใครสักคนในรถพูดอะไรออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบนี้
มันไม่ใช่แค่อาการอึดอัดธรรมดา
แต่มันอึดอัดมาก
อึดอัดมากจนเธอไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของเธอจะสร้างความรำคาญให้คนด้านข้าง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน พอรู้ว่าตัวเองป่วยหนักโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดกลับมาเป็นปกติคือน้อยมากคงจะมีแค่ปาฏิหารย์เท่านั้นที่จะทำให้เธอหายเป็นปกติได้ เธอพยายามทำใจสู้อยู่นานแต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไม่สู้เลือกที่จะปล่อยวางทุกอย่างใช้ชีวิตที่รู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่นานให้มีความสุขไปกับสิ่งที่อยากทำให้มากที่สุด
ความฝันของเธอคือการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ในสถานการณ์นี้
เพราะนอกจากสุขภาพร่างกายของเธอจะไม่เอื้ออำนวยแล้ว เงินในบัญชีเธอก็ไม่อนุญาตเช่นกัน
เมื่อความฝันแรกทำไม่ได้ก็ต้อง skip มาที่ความฝันที่สอง
นอกเหนือจากการเดินทางออกไปท่องเที่ยวรอบโลกแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เธออยากทำและยังไม่มีเวลาได้ทำคือการนอนอ่านนิยายและดูซีรีส์ให้ตาฉ่ำแฉะกันไปข้าง
หกเดือนเต็มที่เธออยู่กับซีรีส์หลายร้อยเรื่องและนิยายหลายพันเล่ม ต้องบอกว่าทั้งดูทั้งอ่านจนตาฉ่ำแฉะกันไปข้างหนึ่งจริงๆ นิยายเรื่องไหนดีนิยายเรื่องไหนสนุกถูกเธอซื้อมาอ่านจนหมด มาหยุดอ่านก็ตอนที่ร่างกายเริ่มไม่ไหวและคุณหมอไม่อนุญาต
เพราะฉะนั้นถ้าพูดชื่อนักเขียนเธอสามารถบอกชื่อนิยายได้โดยไม่สะดุด และสามารถบอกชื่อพระเอกนางเอกรวมถึงเล่าเรื่องนั้นได้เป็นฉากๆ
ตอนแรกที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างกายนี้เธออาจจะยังมึนงงสติสตังยังไม่เต็มร้อย แต่ทว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าหลังจากที่ตายเธอไม่ได้ไปสวรรค์หรือว่าถูกยมบาลมารับตัวไปยังนรกแต่เธอทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องล่าสุดที่เธอกำลังอ่านค้างไว้
ร่างกายที่เธอเข้ามาอาศัยร่างก็คือพิมพ์พลอยเป็นตัวประกอบของเรื่องที่มีสถานะเป็นคู่นอนของตัวร้าย ส่วนผู้ชายตัวสูงเจ้าของใบหน้าหล่อคมคายที่นั่งหน้านิ่งหลังตรงอยู่ที่เบาะที่นั่งข้างเธอคือคิณณ์ณภัทรเป็นตัวร้ายของเรื่องที่มีความสำคัญไม่ต่างจากพระเอกของเรื่อง
เพราะนิยายเรื่องนี้ยังเขียนไม่จบจึงไม่รู้ว่าจุดจบของตัวละครเป็นอย่างไร แต่ทว่าจากคำโปรยของเรื่อง การแนะนำตัวละคร และเนื้อเรื่องที่นักเขียนเขียนถึงตอนล่าสุดก็พอจะทำให้รู้เรื่องราวคร่าวๆ
นิยายเรื่องนี้เปิดเรื่องโดยตัวร้ายซึ่งก็คือ ‘คิณณ์ณภัทร บริภัทรเทวาพิมุข’ ทายาทเพียงคนเดียวของ Thewa Group กลุ่มบริษัทมหาอำนาจที่กินรวบครอบคลุมธุรกิจเกือบทุกแขนงของประเทศ เพราะเกิดมามีครบทุกอย่างอยากได้อะไรก็แค่กระดิกนิ้วสั่งของที่ต้องการก็มาอยู่ตรงหน้าในทันที ชีวิตที่ไม่เคยต้องดิ้นรนทำให้คิณณ์ณภัทรไม่เคยเห็นถึงความสำคัญในสิ่งที่ตนมีและไม่เคยให้ค่ากับอะไรแม้กระทั่งผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
จุดเปลี่ยนชีวิตของคิณณ์ณภัทรก็คือ ‘บุษราคัม’ นางเอกของเรื่องซึ่งเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่เข้ามาสมัครงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการของคิณณ์ณภัทร เพราะความสวยความน่ารักของบุษราคัมทำให้คิณณ์ณภัทรตกหลุมรักผู้ช่วยเลขาของตัวเองจนถอดตัวไม่ขึ้น บุษราคัมเป็นผู้หญิงคนเดียวที่คิณณ์ภัทรมองด้วยสายตาอบอุ่น และทำทุกอย่างให้ด้วยความจริงใจ
แต่น่าเสียดายที่ความจริงใจของคิณณ์ณภัทรบุษราคัมไม่สามารถรับเอาไว้ได้เพราะสายตาและหัวใจของเธอมอบให้ ‘อัศวิน’ พระเอกของเรื่องคนเดียวเท่านั้น
ซึ่งพระเอกของเรื่องก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหนุ่มใหญ่ไทป์แด๊ดดี้วัยสามสิบหกปีหนึ่งในผู้บริหารคนสำคัญของ Thewa Group
ก็อย่างที่บอกว่านิยายเรื่องนี้ยังเขียนไม่จบเธอก็เลยไม่รู้ว่าจุดจบของตัวละครแต่ละคนจะเป็นยังไง
ส่วนตัวละครพิมพ์พลอยที่เธอไม่พูดถึงเพราะพิมพ์พลอยเป็นแค่เพียงตัวประกอบเล็กๆที่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไร เธอถูกสร้างมาให้เป็นหนึ่งในสตอรี่เพื่อเพิ่มความแบดความร้ายกาจให้กับตัวร้ายอย่างคิณณ์ณภัทรก่อนที่จะเจอบุษราคัมนางเอกของเรื่องเท่านั้น เธอคิดว่าตัวประกอบอย่างพิมพ์พลอยจะหายไปตั้งแต่วันงานเลี้ยงฉลองเรียนจบและเลี้ยงส่งคิณณ์ณภัทรไปเรียนต่อด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าพิมพ์พลอยจะยังมีบทบาทและวนกลับมาเจอกับคิณณ์ณภัทรอีกครั้งหลังจากที่คิณณ์ณภัทรเรียนจบกลับมา
เธอไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ ตัวเธอที่อยู่ในร่างพิมพ์พลอยจะเป็นยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรับรู้และสัมผัสได้ก็คือความร้ายกาจของคิณณ์ณภัทรที่เธอได้สัมผัสและได้ประจักษ์ด้วยสายตาตัวเองไปหยกๆ
ด่าคนที่ไม่รู้จักด้วยคำพูดแรงๆแบบไม่สะทกสะท้าน ตัดช่องทางทำมาหากินโดยไม่รู้สึกผิดอะไร ด้วยเหตุผลแค่ว่า ‘กูไม่ชอบมึง’ สั้นๆง่ายๆ แล้วถ้าวันหนึ่งวันใดเธอทำให้พ่อตัวร้ายโกรธขึ้นมา เธอจะไม่ถูกเขาสั่งฆ่าล้างตระกูลเชียวเหรอ
แค่คิดก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว