หลงรักแม่ป้าห้องตรงข้าม

1650 Words
หลงรักแม่ป้าห้องตรงข้าม เข้ามาถึงเซเว่นนะโมก็เดินไปยังโซนอาหารแช่แข็งก่อนเป็นอันดับแรก เธอก้มๆ เงยๆ เลือกอยู่นานสุดท้ายก็หยิบสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าขึ้นมาหนึ่งกล่อง ตามด้วยขนมปังเนยนมอีกหนึ่งห่อ ปิดท้ายด้วยน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง “เธอไม่กลัวอ้วนเหรอ” “แล้วฉันอ้วนไหมล่ะ” โยธาไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะหยิบของกินตามนะโมจนถูกเธอมอง “พี่แค่อยากรู้ว่าของที่เธอชอบกินมันอร่อยเหรอ” “ประสาท!” ด่าจบคนตัวเล็กก็เดินไปหยิบขนมกรุบกรอบอีกสองสามห่อไว้ทานเล่นตอนอ่านหนังสือกลางคืน เลือกเสร็จก็วางของที่เคาท์เตอร์คิดเงิน แต่ยังไม่ทันจ่ายเงินของแบบเดียวกันอีกหนึ่งชุดก็วางทับของเธอ “คิดเงินรวมเลยครับ” โยธาหันบอกพนักงานก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสแกนจ่าย “ฉันมีเงินจ่ายเองได้” “แต่พี่อยากเลี้ยง” “ถามจริงนะ เด็กปีสามคณะวิศวะเขาว่างกันเหรอ?” “ก็ว่างพอมีเวลาจีบรุ่นน้องคณะนิตินะ” นะโมได้ยินดังนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง เธอมองหน้าโยธาด้วยแววตาอ่านยากที่โยธาเองก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ กระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบวินาทีร่างบางก็เดินกลับไปที่ชั้นวางขนมอีกครั้ง มือเล็กหยิบขนมที่ไม่รู้จักอีกหลายห่อใส่ตะกร้าอย่างไม่คิดก่อนจะเดินกลับมาให้พนักงานคิดเงิน “จ่ายด้วยนะ” เธอเอ่ยบอกโยธาก่อนจะหยิบถุงขนมชุดแรกเดินออกมารอที่หน้าร้าน คนพี่มองความแก่นแสบของหญิงสาวก็หลุดยิ้มออกมาไม่รู้ตัว ‘แสบนักนะยัยเด็กดื้อ แต่รู้สึกเหมือนจะหลงรักเข้าแล้วสิ’ ร่างสูงโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ไม่มีความเคลื่อนไหวมานานหลายเดือนจนสร้างปรากฏการณ์คอมเมนต์ถล่มกดไลค์กระจายภายในเวลาไม่ถึงสองนาที ‘เขื่อน : เด็กดื้อที่ไหนวะ!’ ‘เดย์ : เหยด เพื่อนกูออกจากถ้ำเรียนมาเข้าถ้ำรักแล้วเว้ย!’ ‘ชาวบ้านหนึ่ง : กรี๊ดดด พี่โยธาโพสต์แล้ว แต่ใครคือเด็กดื้อคะพี่ หนูจะไปตามหา’ ‘ชาวบ้านสอง : สามีฉันกลับมาแล้วแต่จะมาพร้อมกับแฟนไม่ได้นะ หนูไม่ยอมฮือออ’ ‘ชาวบ้านสาม : อยากเป็นเด็กดื้อจ้า!’ ข้อความต่างๆ เด้งขึ้นระรัวอย่างรวดเร็วจนโยธาต้องปิดการแจ้งเตือนไว้ ซึ่งเล่นโทรศัพท์รอได้ไม่นานอาหารแช่แข็งของเขาและนะโมก็เวฟเสร็จพอดี “อ้อ เดี๋ยวเอาอันนี้เพิ่มอีกอันครับ” โยธาหยิบยาลดรอยแผลเป็นวางหน้าเคาท์เตอร์คิดเงินก่อนจะหยิบใส่ถุงขนมของนะโม “ให้พี่จ่ายเงินให้แล้วยังจะให้หิ้วออกมาให้อีกเหรอ” “เสนอตัวเองมีสิทธิ์บ่นเหรอ?” “หึ! ไม่บ่นก็ได้กลับกันเถอะ” ร่างสูงเดินหิ้วของพะรุงพะรังเต็มสองมือจนนะโมขัดหูขัดตาทนไม่ไหวจึงยื่นมือช่วยถือ “มีน้ำใจเหมือนกันนะ” “ฉันแค่หิ้วของตัวเอง” “ถามจริงว่าตั้งแง่อะไรกับพี่นักหนา พี่ดูไม่เหมือนคนดีเหรอ” “คนดีเขาไม่ทำอะไรคนเมาหรอกนะ” “แล้วพี่ทำอะไร?” “ก็…!! ช่างเถอะ ฉันไม่ได้แคร์อยู่แล้ว” แม้คนปากจะแข็งกล่าวเช่นนั้น แต่มาถึงวันนี้เธอก็ยังเอาเรื่องที่เกิดขึ้นออกจากหัวไม่ได้ ทั้งช่วงนี้ยังเห็นโยธาแว๊บมาอยู่ข้างกายบ่อยๆ ยิ่งทำให้นะโมรู้สึกไม่สงบ “ระวัง!” นะโมเหม่อคิดแต่เรื่องคืนนั้นไม่ทันมองทางจนเกือบจะถูกรถชน แต่ดีที่มือใหญ่ของโยธาคว้าแขนเธอไว้ทัน “เกือบไปแล้วไหมล่ะ อยู่นิ่งๆ แล้วเดินตามพี่มา” คนตัวเล็กกว่าพยายามขัดขืนไม่อยากให้โยธาแตะต้องตัวเอง แต่สู้แรงไม่ไหวจึงยอมปล่อยให้ร่างสูงจับต้นแขนเธอแล้วพาข้ามถนน กลับมาถึงห้องนะโมก็เพิ่งรู้ว่าโยธาอยู่ห้องตรงข้ามเธอ หญิงสาวเดินเข้าห้องด้วยความสิ้นหวัง สำหรับเธอตอนนี้ชีวิตอันแสนสงบได้จบลงแล้ว ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือไอโฟนสีดำเคสสีขาวที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งสั่นครืดจนเกิดเสียงเรียกให้นะโมที่กำลังแกะอาหารออกมาทานหันมาสนใจ “ฮัลโหลค่ะ” (อยู่คอนโดไหม) “อยู่” (เดี๋ยวไปหา) “จะมาทำไม” (อยากเจอหน้าน้องสาว) หลังจากถูกตัดสายนะโมก็มองรายชื่อคนที่เพิ่งโทรเข้ามาด้วยความไม่เข้าใจ ร้อยวันพันปีไม่ยักจะสนใจน้องสาว แต่มาวันนี้กลับนึกถึง ปกติ น้ำมนต์ พี่ชายนะโมมักจะยุ่งกับงานไม่ค่อยมีเวลา ทำให้ช่วงหลังๆ พวกเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกัน น้ำมนต์เป็นทนายความเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง และต้องเดินทางไปว่าความต่างจังหวัดบ่อยครั้ง เขาจึงไม่ค่อยได้แวะมาหาน้องสาว สบโอกาสที่เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดพอดีจึงอยากเอาของฝากมาให้นะโม ก็อกๆ ก็อกๆ ก็อกๆ หญิงสาวเดินออกมาเปิดประตูก่อนจะผงะเล็กน้อยที่คนหน้าประตูไม่ใช่พี่ชายเธอ ก็ว่าทำไมมาเร็ว.. “มีอะไร?” “ขนมของเธอติดถุงของพี่มาเลยเอามาคืน” “ขอบใจ” “เดี๋ยว!” โยธาร้องห้ามไว้หลังจากเห็นนะโมทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าเขา ร่างสูงหยิบพวงกุญแจรูปแมวน้อยออกจากกระเป๋ายื่นให้นะโม “เห็นเธอมองเหมือนอยากได้ ก็เลยซื้อให้เอาไปสิ” “ฉันไม่ได้อยากได้สักหน่อย” “งั้นแปลว่าไม่เอา?” “ให้แล้วให้เลย” นะโมรีบคว้าพวงกุญแจดังกล่าวมาไว้กับตัวพร้อมกับอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว แต่รอยยิ้มนั้นกลับหนีไม่พ้นสายตาของโยธาที่จ้องมองเธอตลอดเวลา “ล็อกประตูดีๆ ล่ะ มีอะไรก็เคาะห้องพี่ได้ตลอดนะพี่อยู่คนเดียว” ฟังโยธาพูดจบนะโมก็ปิดประตูใส่หน้าเขา ก่อนจะเดินหิ้วถุงขนมมาตั้งบนเคาท์เตอร์ครัว เขาอยู่คนเดียวงั้นเหรอ? นะโมไม่ค่อยเชื่อคำพูดของโยธาเลยสักนิด สำหรับเธอเขาเป็นแค่พวกหน้าหล่อที่ชอบล่าแต้มสาวๆ เท่านั้น ครั้งล่าสุดที่เธอเดินสวนกับเขา ข้างกายก็มีหญิงสาวอยู่เห็นๆ ก็อกๆ ก็อกๆ “มีอะไรอี…” หญิงสาวผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนหน้าประตูไม่ใช่โยธาทว่ากลับเป็นพี่ชายของเธอ “เอ้าพี่น้ำมนต์?” “เออสิ ให้เข้าไปหน่อยเร็วเมื่อยจะตายละ” น้ำมนต์อวดครวญพร้อมกับถือของฝากเข้ามาในห้องน้องสาว วางถุงขนมของฝากไว้บนเคาท์เตอร์ครัวก่อนจะย้ายร่างไปเอนหลังนอนบนโซฟาอย่างสบายใจ “ได้นอนบ้างไหมเนี่ย ขอบตาอย่างกับหมีแพนด้า” น้องสาวหลุดหัวเราะทันทีที่เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่ชายมีรอยคล้ำอย่างหนักใต้ดวงตา “มีแต่คดีน่าปวดหัว จะเอาเวลาไหนไปนอนล่ะ” “จะทำงานแต่งเมียหรือไง พักบ้างก็ได้ไม่อยากให้พี่ชายตายก่อนวัยอันควร” “ปากแกเนี่ยนะ! น่าโดนนัก ว่าแต่แกเถอะเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นแม่ป้าสักที หัดแต่งตัวดีๆ สวยๆ บ้าง หน้าตาก็ออกจะสวยไม่รู้จักใช้งาน” “ถ้าหนูสวยขึ้นมาพี่ไม่กลัวหนูมีแฟนหรือไง” “ด้วยพื้นฐานนิสัยแกพี่ไม่ต้องห่วงหรอก มาตรฐานผู้ชายที่สูงกว่ากำแพงเมืองจีนแบบนั้นไม่มีใครกล้าปีนขึ้นมาได้หรอก” น้ำมนต์ประชดประชันขบขันน้องสาวตัวเองที่ตั้งมาตรฐานผู้ชายไว้สูงจนเขาเองยังยอม ทุกวันนี้เขาถึงไม่เคยเห็นน้องสาวมีแฟนเสียที “รีบหาแฟนก่อนทำงานนะพี่ขอเตือน ไม่งั้นแกจะได้ขึ้นคานยาวๆ” “หนูไม่สนใจผู้ชาย” “แกชอบผู้หญิงเหรอ?” นะโมมองพี่ชายด้วยสายตาหน่ายใจเป็นคำตอบ “ถ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงพี่แนะนำเพื่อนให้เอาไหม หล่อ รวย เก่ง แถมยังทำงานสายเดียวกัน” “หนูเพิ่งจะอายุยี่สิบจะรีบมีแฟนไปทำไม” คนพี่ขี้เกียจเถียงด้วยจึงหยิบขนมของน้องสาวมาขบเคี้ยวปิดปากตัวเอง แต่พอเห็นขนมมากมายวางเรียงกันก็อดถามไม่ได้ “นี่แกไปปล้นร้านสะดวกซื้อมาหรือไง ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” “มีคนเลี้ยง” “ใครอ่ะ ผู้ชายเหรอ?” “อืม” “เชรด! ไม่เบานี่หว่าขนาดมีสภาพเป็นแม่ป้าไม่อาบน้ำแบบนี้ยังมีคนตาดีเห็นร่างทองของแกอีก คารวะสายตาผู้ชายคนนั้นเลย” นะโมส่ายหัวอีกครั้งกับคำพูดไร้สาระของพี่ชาย “นะโมขอข้าวกินหน่อย” “ไม่มี” “ออกไปซื้อให้หน่อยสิ” “มีขาก็เดินไปเองสิ” “เมื่อยอ่า วันนี้เดินเข้าออกศาลทั้งวันไม่ได้หยุดพักเลยแถมพี่ยังต้องเดินทางไกลขับรถจากต่างจังหวัดกลับมากรุงเทพอีก ถ้าขืนให้เดินต่ออีกนิดพี่ต้องพิการแน่หรือแกอยากให้พี่พิการล่ะ” “เฮ้อ เอาเงินมา” “โอเคน้องรักเดี๋ยวพี่โอนเงินให้นะ” เบื่อฟังลูกอ้อนแกล้งสำออยของพี่ชายสุดท้ายนะโมก็ยอมใส่อีแตะช้างดาวเดินลงไปหน้าคอนโดอีกครั้ง แถวนี้มีร้านข้าวอยู่หลายร้าน แต่เธอไม่ค่อยได้ลงมากินจึงไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย “สุ่มเลือกเอาละกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD