"เช้าวันต่อมา"
พิมรดาเดินลงมาข้างล่าง
"อ่าวหนูพรีมมาแล้วหรอลูก วันนี้พี่คินเขาไม่อยู่เดี๋ยวหนูไปพร้อมลุงกับป้านะ"
"ค่ะคุณป้า"
"เมื่อคืนนอนไม่หลับหรอลูก ดูไม่ค่อยสดชื่นเลย"
คุณภาวิณีถามด้วยความเป็นห่วง
"พรีมนอนดึกไปหน่อยค่ะ"
เธอพูดรวมๆไม่อย่างให้คนอื่นมาคิดมากด้วย
"จ้ะ ไปกันลูก เดี๋ยวไม่ทันถวายอาหารเพลพระ ตาคินให้คนมารอรับแล้ว"
ทั้งหมดก็ขึ้นรถไปวัดตอนเช้า ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี
Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์คุณเทวัญดังขึ้น คุณเทวัญลุกขึ้นออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก สักพักก็กลับเข้ามา
"มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ"
คุณภาวิณีถามสามี
"โครงการที่จะขยายโรงพยาบาลเขาเลื่อนนัดมาประชุมเช้านี้ตาราเชนก็ติดผ่าตัดด่วนส่วนคนิตติดต้องไป บรรยายที่มหาวิทยาลัยแพทย์เราต้องเจ้าประชุมด่วน"
"งั้นคุณไปเถอะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะอยู่กับหนูพรีมเอง"
คุณภาวิณีบอกกับสามี
"คุณป้าไปกับคุณลุงเถอะคะ พรีมขออยู่ที่นี้อีกสักพักไม่ต้องห่วงพรีมนะคะ"
"จะดีหรอ"
คุณภาวิณีไม่ค่อยสบายใจไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว
"ไม่เป็นไรค่ะพรีมอยู่ได้อีกอย่างลูกน้องคุณภาคินก็อยู่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ"
"เอางั้นก็ได้จ้ะ ห้ามไปไหนมาคนเดียวนะลูก"
"ค่ะ"
พิมรดาตอบรับคำสั่งพร้อมรอยยิ้มบางๆเพื่อให้ความสบายใจแกคุณภาวิณี
"งั้นลุกกับป้าไปก่อนนะ เสร็จแล้วจะให้รถกลับมารับหนู"
พิมรดานั้งอยู่ในศาลา ที่ตอนนี้แทบจะไม่มีคนแล้วมีแต่เหล่าแม่ครัวที่ทาง
คุณภาวิณีจ้างไว้กำลัง ปัดกว่าเช็ดถูศาลากัน ลูกน้องภาคินสองคนนั้งอยู่ข้างนอก เธอนั้งมองรูปบุพการีทั้งสองด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ
เวลาผ่านไปสักพักพิมรดาออกมาเดินเล่นบริเวณด้านนอกศาลา
"คุณพรีมจะไปไหนครับ"
ลูกน้องภาคินรีบลุกขึ้นตามมา
"พรีมจะออกมาเดินเล่นค่ะใกล้ๆแถวนี้เอง"
"เดี๋ยวพวกผมเดินเป็นเพื่อนครับ"
ลูกน้องภาคินหนึ่งในสองพูดขึ้น
"ไม่เป็นไรค่ะพรีมอยู่ใกล้ๆ แถวนี้พี่ๆตามสบายเถอะค่ะ"
"แต่ว่าา.."
"สัญญาค่ะว่าจะไปไม่ไกล"
"ก็ได้ครับ"
แล้วพิมรดาก็เดินออกไป
ลูกน้องภาคินทั้งสองมองหน้ากัน
"เอาไงดีว่ะ"
"ตามห่างๆสิว่ะ"
แล้วทั้งสองก็พยักหน้าให้กัน
จังหวะพอดีกับรถที่ไปส่งคุณเทวัณกับคุณภาวิณีกลับมาพอดี
"อ่าวจะไปไหนกันว่ะ"
คนขับรถเปิดกระจกถามเพื่อนสองคนที่กำลังเดินออกมา
"ก็ตามคุณพรีมละสิ"
"แล้วคุณพรีมไปไหนละ"
"เดินไปโน้นน...ชิบหายแล้วคุณพรีม"
"กรี๊ดดดด..."
"พวกแกเป็นใคร ปล่อยฉันนะ"
พิมรดาถูกจับตัวขึ้นรถตู้กลางเก่ากลางใหม่มา บนรถมีชายฉกรรจ์สี่คน ทุกคน ใส่หมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า
"นั้งดีๆดีกว่าน้องสาวร้องไปก็เจ็บคอเปล่า"
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็ว
"พวกแกต้องการอะไร"
พิมรดาถามขึ้นด้วยความกลัว
"ต้องการ....ตัวเธองัยจ้ะคนสวยฮ่าาๆๆ"
แล้วพวกมันก็หัวเราะชอบใจ พิมรดาหน้าขาวซีดเธอมองซ้ายมองขวา หาทางหนีทีไล่
"นั้งนิ่งๆเถอะจ้ะเดี๋ยวพี่จะพาไปสวรรค์ รับลองว่าจะติดใจ"
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นพร้อมกับเอามือลูบแขนเธอ
"อย่ามาจับตัวฉันนะ"
พิมรดาร้องขึ้น
"ทำเป็นหวงตัวไปเถอะฮ่าาๆๆ"
พิมรดากลัวจนตัวสั่นน้ำตาคลอ
(พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยพรีมด้วย)
เธอได้แต่อธิษฐานในใจ
"เกิดเรื่องแล้วครับนาย"
โจรีบวิ่งมาวอกภาคินหลังจากที่ลูกน้องโทรมารายงาน
"เกิดอะไรขึ้น"
ภาคินรีบถามทันที
"คุณพรีมถูกจับตัวขึ้นรถไปครับ"
"อะไรนะ"
ภาคินกำลังจะวิ่งออกไปหลังจากโจรายงาน
"คุณภาคินค่ะ เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะคะคุณจะไปแล้วหรอ"
วิชุตาลูกสาวของคู่ค้าของเขาหลังจากที่เขาคุยเรื่องธุระกิจกับพ่อเธอเสร็จ เจ้าหล่อนก็เสนอขอเลี้ยงข้าวเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ เขาเองก็ไม่รู้จะ ปฏิเสธทำไมก็เลยออกมาทานข้าวกับเธอ แต่ยังไม่ทันได้สั่งอาหาร งานก็เข้าเขาสะก่อน
วิชุตาเธอดึงเเขนเขาไว้
"วันนี้ผมไม่สะดวก"
พูดเสร็จเขาก็สบัดแขนวิ่งมาขึ้นรถที่โจ
เปิดเตียมไว้
"มันเกิดขึ้นได้ไงไอโจรายงานมาซิ"
ภาคินถามลูกน้องเมื่อรถเเล่นออกมาสู่ถนนใหญ่
"พวกไอ้ศักดิ์กำลังตามอยู่ครับ ตอนนี้มันพาคุณพรีมออกไปเส้นนอกเมือง"
โจยื้นไอแพดบอกตำแหน่งให้ภาคินดู
"บอกไอศักดิ์ตามอย่าให้ คาดสายตา"
ภาคินมองจอไอแพดตาไม่กระพริบ
"มันออกเส้นชานเมืองพวกเรามีใครอยู่ใกล้ให้ตามไปสมทบงานนี้ห้ามพลาด"
ภาคินสั่งลูกน้อง
"ครับนาย"
"พวกแกปล่อยฉันไปเถอะนะ"
พิมรดาอ่อนวอนพวกมัน
"ปล่องให้โง่หรอว่ะสวยขนาดนี้..ฮ่าาๆๆ
อย่าพูดมากเลยเก็บแรงไว้ขึ้นสวรรค์กับพี่ดีกว่ารับรองว่าน้องจะได้ร้องจนเหนื่อยเลยแหละ"
"เห้ยย..เร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไงว่ะชักช้าชิบหาย"
หนึ่งในไอ้โม่งตะโกนด่าคนขับรถ
"โห้ลูกพี่นี้ก็เร็วสุดแล้วมันเร็วได้เเค่นี้"
"กูจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว"
มันหันมามองพิมรดาด้วยสายตาที่ หน้าขยะแขยง พิมรดานั้งหลับตาอยางหมดหวังกับชีวิต
(สู้แค่ตายฉันยอมตายดีกว่าที่จะต้องยอมแก)
แค่คิดเธอก็ขยะแขยงจนจะทนไม่ได้
น้ำตาไหลออกมานากหางตา
(คุณภาคินค่ะช่วยพรีมด้วย)
อยู่ๆเธอก็นึกถึงเขาขึ้นมา
"ชิบหายแล้วลูกพี่ เหมือนมีรถตามเรามา"
ไอ้คนขับโวยวายขึ้น
"รถใครว่ะ"
ไอ้โม่งที่นั้งอยู่ใกล้เธอเริ่มนั้งไม่ติด
"ต้องเป็นพวกไอภาคินแน่เลยลูกพี่เอาไงดี"
พิมรดาลืมตาขึ้นเมื่อเธอได้ยินพวกมันพูดถึงภาคิน เธอหันไปมองข้างหลัง
(ใช้จริงๆด้วย)
รถคันนี้ที่เธอนั้งไปวัดเมื่อเช้านี้ พิมรดาเริ่มมีความหวัง
"มันมากี่คันว่ะ"
"น่าจะคันเดียว"
"คันเดียวก็ยังพอฟัดพอเหวี่ยง"
"เอาจริงหรอลูกพี่ไอภาคินมันไม่ธรรมดานะพี่"
"ถ้าแผนกูสำเร็จพวกมึงก็จะสบายไปด้วยไม่ต้องกลัว"
มันพูดปลุกใจทั้งที่ตัวเองก็เริ่มใจไม่ดีเหมือนกัน พวกมันเริ่มมองหน้ากันด้วยความไม่มันใจ
"หวังว่าเราจะไม่ตายก่อนได้ใช้เงินนะ"
"แล้วอีกไกลไมว่ะ"
"ไม่ไกลแล้วพี่"
"เร็วๆหน่อยสิว่ะเดี๋ยวมันก็แห่กันมาหรอก"
ไอโม่งที่ถูกเรียกว่าลูกพี่โวยวายขึ้น
"ไม่ทันแล้วลูกพี่พวกมันแห่กันมาเป็นขบวนเลย"
ไอ้คนขับร้องบอกลูกพี่มัน พิมรดามองไปข้างหลัง เห็นรถวิ่งตามมาสี่ห้าคันและเธอเชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีภาคินอยู่ด้วย
"มึงหาที่เหมาะๆจอดเลย เราจะเอาอีนี้ไปด้วยอย่างน้อยๆมันก็เป็นตัวประกันให้เราได้"
"ครับลูกพี่"