“รู้จัก” ลูอีสที่ยังพยุงฉันอยู่เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ซึ่งนั่นทำให้ฉันหลุดออกจากห้วงความคิดของอดีตไปชั่วขณะ ก่อนจะพยายามตั้งหลักและออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ฉันขอตัวนะลูอีส” รองเท้าส้นสูงห้านิ้วถูกสวมเข้ากับเท้าเล็กนั่นตามเดิม ร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตรงนั้นท่ามกลางความงุนงงของทุกคน
“จะรีบไปไหนพริซมาทำแผลก่อน”
“เฮ้! เธอไปผิดทางแล้ว ห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้าย”
“....” ฉันเลือกที่จะไม่สนในเสียงเรียกของชิลีและลูอีส แต่กลับวิ่งออกประตูอีกทางที่ไม่ต้องวิ่งผ่านหน้าคาร์เตอร์ ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวคือต้องหนีไปให้พ้นจากเขา คนที่ฉันตั้งใจหนีเขามาเกือบสองปี โดยการจากไปที่ไม่มีแม้แต่คำร่ำลา
ตุ๊บ!!
“อ๊ะ...”เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเอาซะเลย เมื่อร่างบางที่กำลังวิ่งหันรีหันขวางได้ชนเข้ากับคนตัวโตที่ยืนดักอยู่ตรงหน้าอย่างจัง จนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ความเจ็บปวดที่แล่นผ่านข้อเท้าข้างขวาทำให้ฉันเบ้ยหน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เธอจริงๆ ด้วย” คาร์เตอร์ย่อตัวนั่งลงตรงหน้าฉัน มือหนายื่นเข้ามาหมายจะพยุงฉัน
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด...” ฉันปัดมือหนาที่กำลังยื่นเข้ามาพยุงฉันออกอย่างไม่ใยดี ไม่แม้แต่มองหน้าของคาร์เตอร์เลยสักนิด "ฉันไม่รู้จักคุณ"
เมื่อกี้เขายืนอยู่ตรงสระว่ายน้ำนี่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาดักอยู่หน้าฉันได้ ฉันต้องเมาแน่ๆ ว่าแล้วฉันก็สะบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่ความคิด แต่เปล่าเลย สิ่งที่เขาทำต่อจากนี้ทำให้ฉันรู้ทันทีว่ามันคือเรื่องจริง
“ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพไหนฉันก็จำเธอได้ดี ทำไมเพลิน เพลินหนีเราทำไม”
“ปะ...ปล่อยนะ ฉะ..ฉันพูดชัดแล้วนะว่าไม่รู้จักคุณ โอ๊ย!!” ฉันผลักเขาออกห่างจากตัวฉันอย่างแรง ถอดรองเท้าเจ้าปัญหาออกจนเท้าเปลือยเปล่า พยายามดันตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลเพราะข้อเท้าที่เริ่มอักเสบจากรองเท้าพลิก
“ให้ปล่อยงั้นเหรอ ฉันตามหาเธอมาตลอดสองปีแล้วตอนนี้เธอบอกให้ฉันปล่อย มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ” คนตรงหน้าตะเบ็งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด คาร์เตอร์ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างที่เขาชอบทำตอนหงุดหงิด สายตาคมเสมองไปทางอื่น
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้จักนาย ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันทั้งนั้น”
“นั่นสินะ พริซซี่”
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปหลังจากที่ฉันพูดประโยคนั้นจบ สายตาคมตวัดกลับมามองฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับฉายรอยยิ้มร้ายกาจออกมาจนฉันสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของคนตรงหน้า มือหนายกขึ้นมาบีบคางฉันอย่างแรงให้เชยคางขึ้นสบตากับเขา
“เพลินเจ็บ ปล่อยนะ!” ฝ่ามือเล็กของฉันฟาดลงที่แขนของเขาอย่างหนักเพื่อให้หลุดจากเงื้อมมือของคาร์เตอร์ ที่กำลังจ้องมองลงมาทางฉันด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความโกรธจัด
“เท่าไหร่” พูดจบเขาสะบัดมือออกอย่างแรงจนใบหน้าหวานหันไปตามแรงสะบัดของเขา ดวงตาคมจ้องมองมาที่ฉันไม่ละสายตาไปไหน
“นายหมายถึงอะไร”
“ฮึ! ตัวเธอขายเท่าไหร่” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ไล่สายตามองตามเรือนร่างที่มีเพียงชุดเกาะอกกับกางเกงขาสั้นปกปิดเอาไว้ด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย จนฉันต้องยกฝ่ามือขึ้นปิดหน้าอกที่ล้นออกมานอกเกาะอกเอาไว้ด้วยความหวาดระแวง
เมื่อก่อนตอนที่เราคบกันฉันไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ให้เขาเห็นเลยสักครั้ง ไม่สิ ฉันไม่เคยแต่งตัวแบบนี้เลยต่างหาก
“ฉะ...ฉันไม่ได้ขายตัว อย่ามาใช้สายตาแบบนี้กับฉัน”
“จะบอกว่ามาเอ็นเฉยๆ ไม่ขายงั้นสิ”
“ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องมาตอบคำถามนาย” ฉันกัดฟันเอาไว้แน่นข่มความเจ็บที่ข้อเท้าเอาไว้ ก่อนจะรีบดันตัวลุกขึ้นยืนหมายจะเดินหนีเขาออกไป
“งั้นก็มาขายให้ฉันสิ ค่าตัวเท่าไหร่ว่ามา”
“ฉันไม่ได้ขายตัว อ๊ะ!!”
หมับ!
“แต่ฉันจะซื้อ”ช้ากว่าคาร์เตอร์ที่ปรี่เข้ามาคว้าตัวอุ้มฉันไว้จากทางด้านหลัง ก่อนจะออกแรงกึ่งอุ้มกึ่งลากตัวฉันออกไปจากตรงนั้น
“โอ๊ยยยย!! ช่วยด้วย” ร่างบางดีดดิ้นไปมาหมายจะให้หลุดจากการเกาะกุม แต่มีเหรอที่คนตัวเล็กๆ อย่างฉันจะสู้แรงมหาศาลของผู้ชายตัวโตๆ อย่างคาร์เตอร์ได้
ในขณะที่ฉันทั้งจิกทั้งข่วนมือที่กุมเอาไว้ตรงหน้าท้องของฉัน แต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะปล่อยฉันเลยสักนิด
"ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ปล่อย!!!!"
ปัง!!
คาร์เตอร์ลากฉันเข้ามาให้ห้องๆหนึ่ง คล้ายๆว่าเป็นห้องนอนก่อนจะออกแรงใช้เท้าของเขาถีบประตูปิดเข้าจนเกิดเสียงดังลั่น
ตุ้บ!!
“โอ๊ย!” ฉันร้องออกมาเสียงหลงงอตัวเข้าเหมือนกุ้ง ใช้มือกุมท้องเอาไว้เพราะความจุกเล่นงาน เมื่อคาร์เตอร์เหวี่ยงฉันลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่อย่างแรงจนศีรษะฉันชนเข้ากับหัวเตียงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ต้องคนที่ซื้อเธอเท่านั้นใช่ไหม เธอถึงจะคุยด้วย” คนตัวโตขึ้นคร่อมร่างฉันเอาไว้ มือหนาบีบลงมาที่ปากเล็กของฉันอย่างแรง จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจากฟันที่กระทบเข้ากับริมฝีปาก
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ดะ...อื้อ...อ่อย” มือเล็กฟาดลงบนแขนเขาหวังจะให้ปล่อย แต่กลับไม่เป็นผล อารมณ์ของคาร์เตอร์ในตอนนี้เหมือนพร้อมจะฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ
“อย่ามาทำเป็นดีดดิ้นโก่งราคาหน่อยเลย”
มือหนาสะบัดออกอย่างแรง ก่อนจะเลื่อนลงไปถอดเข็มขัดออกจากหัวกางเกงของเขา ฉันมองการกระทำของคนบนร่างด้วยความหวาดกลัว เขาไม่ใช่คาร์เตอร์ที่ฉันรู้จัก คาร์เตอร์ที่เคยอ่อนโยนไม่ใช่เขาคนนี้
“นายจะทำอะไรฉัน ยะ...อย่านะ!”ฉันมองการกระทำของเขาสลับกับประตู ก่อนจะรีบเหวี่ยงขาลงจากเตียงเพื่อออกไปจากห้องนี้
ตุ๊บ!
“โอ๊ย!! เจ็บนะคาร์เตอร์” ร่างเล็กที่ยังไม่ทันจะลุกออกไปไหนไกลก็ถูกคาร์เตอร์จับเหวี่ยงขึ้นบนเตียงอีกครั้ง พร้อมกับเข็มขัดหนังราคาแพงที่ถูกใช้พันธนาการมัดมือฉันไว้เหนือศีรษะ
“ฮึ! ถึงกับจำชื่อฉันได้เลยทีเดียว”
“ถอยออกไป อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” แขนเล็กที่ถูกพันธนาการขูดไปกับเข็มขัดจนเป็นรอยแดงฉันพยายามออกแรงปัดมือของคาร์เตอร์ที่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันออกอย่างบ้าคลั่ง
หัวใจดวงน้อยเต้นรัวขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ดวงตากลมโตจับจ้องการกระทำของเขาด้วยความหวาดกลัว
“เสร็จงานจ่าย ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะกดราคา” คาร์เตอร์เอ่ยออกมาเสียงทุ้ม สายตาดุดันจับจ้องอยู่ที่ร่างกายฉัน ที่เปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาอย่างไร้ทางหนี
มือหนาไล่ถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกตัวเองออกจนหมด ก่อนจะโยนมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี เผยให้เห็นซิกซ์แพ็คเรียงตัวเป็นลอนบนหน้าท้องแกร่งนั่น
“อย่าทำบ้าๆนะคาร์ต เพลินไม่ได้จะ...อื้อ~” เสียงของฉันถูกกลืนลงคอไปสิ้นเมื่อเขาโน้มริมฝีปากหนาลงมาครอบจูบลงอวัยวะเดียวกันของฉันอย่างรุนแรง
มือที่เจ็บแสบจากการถูกพันธนาการยกขึ้นดันแผงอกของเขาเอาไว้ เรียวขาทั้งสองข้างพยายามดีดดิ้นออกไปจนสุดแรงแต่กลับไม่เป็นผล มันยิ่งเพิ่มความเจ็บแปบตรงข้อเท้าที่อักเสบของฉันเพิ่มมากขึ้นไปอีก
"อือ.."
“อึก!” ฉันปล่อยให้คนบนร่างบทขยี้กลีบปากอยู่อย่างนั้นอย่างไร้การขัดขืน น้ำสีใสเริ่มไหลออกมาอาบสองพวงแก้มใสอย่างเกินกลั้น
คาร์เตอร์ไม่เหลือคราบคาร์เตอร์คนเดิมที่เคยอ่อนโยนกับฉันเลยสักนิด ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรกับปีศาจร้ายที่กำลังจะขย้ำฉันให้ตายคามือ
หรือนี่จะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันต้องชดเชยให้เขา ในช่วงเวลาวันที่ฉันทิ้งเขาไปคลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา