เวลาเที่ยงคืนตรง
เสียงดุด่าตวาดลั่นห้องโถงใหญ่ แน่นอนว่าลูกสาวตัวดีชโลมอาบด้วยไวน์อยู่ในอาการมึนเมา
แม่บ้านหิ้วปีกในร่างกายที่ไร้ความรู้สึกสลบเหมือดตั้งแต่อยู่บนรถกลับขึ้นไปในห้องนอนชั้นสองของบ้าน
"ใจเย็นนะคะคุณท่าน" พี่เลี้ยงรีบออกมารับหน้าแทน นั่งคุกเข่าลงที่พื้น "คุณหนูยังคงเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างเป็นความผิดของนุ่นเอง"
"ใช่ความผิดเธอที่ไหนกัน เพราะว่ามันดื้อรั้นเอาแต่ใจสอนอะไรก็ไม่เคยจำต่างหาก"
"แต่นุ่นเป็นพี่เลี้ยงควรดูแลเธอให้มากกว่านี้ค่ะคุณท่าน"
คำพูดแสนอ่อนหวานประทับใจชายวัยกลางคนที่กำลังหัวร้อนฉ่า เขาเอื้อมมือช้อนปลายคางเรียวเล็กให้เปรยขึ้นสบตา
"หมดหน้าที่พี่เลี้ยงแล้วมาทำหน้าที่อย่างอื่นดีกว่า ฉันเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว" คำพูดแฝงเร้นทำพี่เลี้ยงใจเต้นระส่ำ
"เดี๋ยวนุ่นไปจัดการอ่างแช่ให้นะคะ"
"เธอรู้ใจฉันตลอดเลยนะ ฮ่าๆ"
"นุ่นอยู่รับใช้คุณท่านมาตั้งหลายเดือนทำไมจะไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไร"
นุ่น สาววัยสะพรั่ง เธออยู่กับป้าที่เป็นชนกลุ่มน้อยเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายคอยรับใช้และทำงานบ้านให้กับตระกูลนี้อย่างดี
ณ. นอกเมืองเลียบชายฝั่งเพื่อนบ้าน
สถานที่ไร้การปกครอง ไร้อารยธรรม มักเป็นแหล่งสุมพลของกองกำลังต่างๆ โกดังร้างเขตติดประเทศไทย มีผู้ปกครองตนเองเรียกว่า โจรไพร
"เอกสารที่แจกให้มาจากเบื้องบนอ่านจบเผาทำลายทิ้งทันทีห้ามเก็บเอาไว้" ลูกพี่ตัวใหญ่บึกเอ่ยสั่ง "ใครมีคำถามให้ถามตอนนี้"
"งานใหญ่มากพวกเราคงได้ค่าตอบแทนเยอะขึ้นใช่ไหมลูกพี่" ไอ้ดำ ผู้คนไร้สัญชาติตาลุกวาว
"แน่นอนพวกมึงจะได้ใช้ชีวิตอย่างราชาถ้าทำงานนี้สำเร็จ"
"มันจะไปยากตรงไหนแค่ควบคุมสินค้าให้อยู่กับเราจนกระทั่งหนึ่งเดือน"
"พวกมึงอย่าประมาทไป! สินค้าที่ว่าคือลูกสาวคนเดียวของตระกูลอภิมหาเศรษฐีอีกทั้งมีธุรกิจสีเทามากมาย"
ทุกคนพยักหน้าก่อนก้มมองซองสีน้ำตาล มุมหนึ่งของเสามีผู้ชายสองคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครจุดไฟแช็กเผาใบกระดาษคำสั่งนั้น
"ส่วนการดูแลสินค้านี้นายใหญ่มอบหมายให้คนที่ไว้ใจสุดนั่นคือไอ้ วิน" ทุกคนหันขวับมอง
ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทักท้วง "ทำไมต้องเป็นไอ้วินตลอด ก็รู้อยู่หรอก..แต่มันอายุน้อยกว่าพวกเราที่นั่งรวมหัวกันอยู่ตรงนี้ซะอีก!"
"ใช่ แต่มันทำงานไม่เคยพลาด"
"เพราะมีพวกผมหนุนหลังให้มันต่างหาก"
"เอาเถอะอย่าทะเลาะกัน นี่คือคำสั่งจากนายใหญ่ใครขัดเท่ากับตาย พวกมึงก็รู้กฎดี"
หลังจากพูดจบหัวหน้าที่รับงานมาก็รีบจัดแจงพร้อมแผนที่รายละเอียด
วิน ที่ไม่ค่อยพูดจามาดนิ่ง เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี สูงร้อยแปดสิบเจ็ด หุ่นล่ำแค่พอประมาณ ผิวขาวคิ้วเข้มหน้าตากวนส้นตีนใช้ได้ อายุยี่สิบห้าปี
มีเพื่อนสนิทร่วมหัวจมท้ายเพียงหนึ่งคนชื่อว่า ไท อายุเท่ากันแต่เป็นคนผิวเข้มหน้าคมฉบับคนไทยแท้
ทั้งคู่มีทักษะต่อสู้ที่ดีเยี่ยมอีกทั้งปฏิภาณไหวพริบรวดเร็วมากกว่าใคร
"หนึ่งเดือน" ไทพึมพำ "ทำไมสินค้าครั้งนี้อยู่กับเรานานจัง"
"คงมีผลประโยชน์ทับซ้อน"
"แล้ววันที่มึงไปดูลาดเลาได้ข่าวว่าเจอตัวเป็นๆ แสดงว่าก็ไม่ยาก"
"ไม่รู้สิเพราะตอนเจอสภาพยับมาก เด็กอะไรเพิ่งจะมอหกซัดไวน์เพียวไปเป็นขวด"
สองเพื่อนสนิทพูดคุยกัน พวกเขามักศึกษาดูงานที่ได้รับอย่างเคร่งครัด มีข้อบังคับประจำตัวเอง ถ้าไม่จำเป็นจะไม่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์
เวลาผ่านไปหลายวัน
โรงเรียนมัธยมเอกชนชื่อดัง
"เย้! สอบเสร็จสักที" วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง "เราจบมอหกกันแล้วสินะ"
"ใช่ จะได้ไม่ต้องนั่งเจอหน้าใครบางคนในห้องเรียนให้อึดอัดใจ"
"คนที่พาพวกเราเหลวแหลกแต่สุดท้ายก็ลอยแพไม่ถูกเรียกผู้ปกครองอะเหรอ"
ทุกสายตาจ้องเหยียด มีแต่คนรังเกียจคงเพราะอำนาจที่มากล้นจนถึงขั้นครูใหญ่ไม่อาจเอื้อมแตะต้อง
วาวา เป็นเด็กเก็บกดแทบจะไม่พูดคุยกับใคร เมื่อถึงวันเรียนจบคล้ายโลกทั้งใบถูกยกออกจากอกที่ทนแบกรับไว้มาเนิ่นนาน
ติก'
แต่เธอมีเพื่อนออนไลน์ที่สนิทกันมาก เขาไม่มีรูปภาพโปรไฟล์แต่ทั้งคู่บังเอิญพบกันบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยมีนามว่า V ซึ่งวาวาเองก็ไม่รู้แน่ชัดได้ว่าเขาเป็นหญิงหรือชายแต่เธอไม่สนใจเพราะVเป็นเหมือนคนเดียวที่เข้าใจเธอ
(V : พักเที่ยงแล้วเหรอกินอะไรหรือยัง)
(วาวา : ไม่กินเบื่อมีแต่อาหารยุโรป)
(V : วันหลังก็ห่อก๋วยเตี๋ยวไปกินสิ)
(วาวา : จะบ้าหรือไง ฮ่าๆ)
แม้จะไม่เคยพบเจอกันแต่เธอสัมผัสถึงความอบอุ่นได้ กระทั่งเลิกเรียนซึ่งเป็น วันศุกร์ สุดท้ายของสัปดาห์
"ทำไมวันนี้คุณพ่อให้พี่มารับ" สาวน้อยนั่งบนรถเปิดประทุนเอ่ยถามพี่ชายบุญธรรม
"ท่านคงมีธุระสำคัญจึงให้เราไปตามที่นัดหมายก่อน หิวไหมแวะซื้ออะไรกินสักหน่อย"
"พี่คงชินกับของข้างทางส่วนหนูคงกินไม่ได้หรอกค่ะ อะไรที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อหนูไม่อยากแตะต้อง"
"ช่างเป็นลูกคุณหนูเสียจริงนะ"
เสียงพูดปนเสียงหัวเราะในลำคอทำให้วาวาที่กดมือถือคุยกับVมาตลอดหันขวับพร้อมโต้ตอบบางอย่าง
"ก็แน่นอนสิคะเพราะลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงอย่างพี่ไม่มีวันเข้าใจหรอก เหอะ เลิกเสียเถอะนะคะซื้อผู้หญิงข้างทางมาบำเรอ"
"เธอนี่เป็นผู้หญิงที่นิ่งเงียบแต่โคตรจะอันตรายรู้ไหม..สอดรู้สอดเห็นเรื่องของฉันเกินไป"
"แล้วพี่ทำอะไรไม่ดีไว้ทำไมถึงต้องกลัวว่าหนูจะไปสอดรู้สอดเห็นด้วย"
"เพราะแบบนี้ไงถึงต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว"
เอี๊ยด
"ว้ายยย! ขับรถประสาอะไรของพี่" รถที่เลี้ยวจนพวงมาลัยหมุนแทบจะสุดทำให้ตัวเล็กกระเด้งกระดอนแต่เมื่อมองหนทางข้างหน้า "ร..เราจะไปไหนกันคะ? ทำไมมันมีแต่ป่าเต็มไปหมด"