สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ตัวเล็กโดนมัดแขนขายัดใส่ฝากระโปรงรถเดิมอีกครั้ง เธอรู้สึกสิ้นหวังหดหู่ แม้จะหลับตาก็ไม่อาจพักผ่อนได้และเหมือนรถจะแล่นกระทบหินเนินเศษซากต้นไม้
หลายชั่วโมงต่อมา กระทั่งค่ำมืดก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว น้ำข้าวก็ไม่ได้กิน
ความเหนื่อยล้าทำให้สติวูบหาย รู้ตัวตื่นอีกทีก็อยู่บนเรือคล้ายใช้หาปลา เธอนอนกองอยู่รวมกับเศษซากกลิ่นคาวคุ้ง
หมับ
"อ้าขา" วินดึงผ้าที่อุดปากออกเพราะดูจะรู้ชะตากรรมสงบเตรียมตัวเรียบร้อยดี "ฉันสั่งให้อ้าขาออก"
"จะทำอะไร ฮึกกก"
"นั่งหุบขามาตลอดแบบนี้ตะคริวแดกพอดีจะใส่กลับคืนให้"
"มะ ไม่ต้อง!!!"
เขาจะบ้าหรือไง อยากทำอะไรก็ทำแต่คุกคามร่างกายคนอื่นขนาดนี้ก็ไม่ควร แม้วาวาจะสิบแปดปีบริบูรณ์แล้วก็ตามเถอะ
"อย่าทำให้ฉันรำคาญ"
"ฮึกกกก"
ครั้งนี้ไม่พูดเปล่ามีดพกสั้นจ่อที่ต้นคอขาว เสียงกลืนน้ำลายบางเบาของวาวาที่กลัวจนไม่กล้าปริปาก
สักพักก็ตั้งสติพูดแผ่ว "หนูใส่เองได้ ชะ ช่วยแก้มัดที่มือด้วยยังไงก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี"
เขาดูเหมือนชั่งใจสักพัก ก่อนจะเอื้อมมือไปด้านหลังใช้มีดตัดเชือกที่ผูกข้อแขนเล็กเอาไว้ ตอนนี้เรือแล่นอยู่กลางแม่น้ำสายใหญ่
ต่อให้ว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็คงไม่รอดอยู่ดี
"ขอน้ำได้ไหมคะ" ตั้งแต่โดนจับตัวมาไม่รู้กี่ชั่วโมงรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที "ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำกลัวว่าหนูอาจจะตายระหว่างทางก็ได้"
"ผู้หญิงอย่างเธอไม่ตายง่ายๆ หรอก"
"ทำไมพี่ถึงมั่นใจนัก"
"ดุเหมือนหมาเป็นโรคพิษสุนัขบ้าขนาดนี้"
"ชิ"
คนอะไรปากร้ายที่สุด แต่วาวาไม่มีทางเลือกยื่นมือผ่านลูกกรงคว้าแก้วน้ำที่เขาให้กระดกดื่ม
บรรยากาศยามดึกวังเวงไร้แสงไฟ มีแต่สายธาร ภูเขา ป่าทึบใหญ่ ทั้งคืนทำได้เพียงนั่งเกาะลูกกรงรอลุ้นชะตากรรมในวันถัดไป
กระทั่งเช้าวันต่อมา
ข้าวที่เหมือนคลุกเคล้าให้หมาวางอยู่นอกกรง ชายหน้าตาดีคนเดิมเอ่ยถาม "ทำไมไม่กิน"
"ปกติตอนเช้าหนูกิน breakfast ไข่ดาวขนมปังพร้อมผลไม้ มะ ไม่กินข้าว"
"ที่นี่มันเรือประมงไม่ใช่เรือยอร์ชสุดหรูจะแดกเพื่อให้มีชีวิตอยู่หรือจะตายเพราะขาดสารอาหารก็แล้วแต่"
หมับ
แขนเรียวเล็กลอดลูกกรงคว้ามืออีกฝ่ายที่กำลังจะเดินหนี เมื่อหันกลับมาเจอใบหน้าเปื้อนดินทรายมอมแมมหนัก
"หนูขออาบน้ำหน่อยได้ไหมคะ" ถ้าสมมุติถึงที่หมายแล้วต้องตายอย่างน้อยก็ขอสวยไว้ก่อนแล้วกัน
"อีกสามสิบนาทีจะถึงฝั่ง รีบจัดการธุระตัวเองให้เสร็จสรรพ อย่าสร้างปัญหาให้ฉันอีก"
"ได้ค่ะหนูสัญญาว่าหนูจะไม่ดื้อ"
"ฉันไม่เชื่อ!"
สายตาแหลมคมไร้ความรู้สึกกลับแฝงเร้นบางอย่าง คิ้วบางขมวดปมเชิงไม่ชอบใจนักแต่ก็ได้ตามคำขอที่เรียกร้อง
ใต้ท้องเรือมีห้องน้ำเก่าสังกะสีบังรอบทิศ เขาโยนผ้าขาวม้าให้แทนผ้าเช็ดตัว และ ชุดเสื้อผ้าเก่าของผู้หญิงที่มีอยู่เป็นเหมือนชาวสวนบ้านนอก เสื้อกล้ามคอกระเช้าพร้อมผ้าซิ่นยาวถึงเข่า
ซ่าาา
เป็นความสุขหนึ่งเดียวในตอนนี้คือน้ำจืดที่เก็บสะสมถูกรดราดบนเรือนร่างของสาวน้อยวัยใส วาวาหยิบสบู่ก้อนที่ไม่ชินมือขึ้นมามอง
"บ้าเอ๊ยยย! ผิวจะอักเสบไหม" เกิดมาไม่เคยทุกข์ระกำขนาดนี้มาก่อน "ช่างเถอะอย่างน้อยเนื้อตัวก็สะอาดไม่เหม็นคาวปลา"
หน้าประตูมีวินคอยยืนเฝ้า
กรี๊ดดดด!
โต้ม!
เฮือกกก~
ทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องเขาก็ผลักประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้สติแทบจะวูบ เรือนร่างขาวเปลือยกายชี้นิ้วไปยังฝาผนังด้านบน
จิ้งจกตัวสีน้ำตาลเข้มเกาะอยู่แถมกำลังขยับเขยื้อน เป็นครั้งแรกที่สาวน้อยเห็นสิ่งแปลกประหลาดนี้ เนื่องจากบ้านของเธอไม่เคยมี
"ช่วยด้วย! ชะ ช่วยด้วย" น่ากลัวมากแต่เมื่อมองอีกครั้งก็ไม่เห็น ทว่า.."กรี๊ดดดด!!"
ตุ๊บ
สายตาประสบเหมาะมองจ้องกันทำให้สติของวาวาถูกปลุกฟื้น เท้าน้อยถีบร่างใหญ่จนกระเด็นออกพ้นประตู เนื่องจากเขากำลังจดจ้องมองสิ่งน่าปรารถนาอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
'เฮ้ยยยย! เกิดอะไรขึ้นวะ'
โต้ม!!
เมื่อเสียงโวยวายดังลั่นเพื่อนสนิทอย่างไทวิ่งลงมาใต้ท้องเรือทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร วินก็หยัดกายรีบไถลตัวใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำให้ปิดอย่างรวดเร็ว
กา ก้า กา
เสียงนกโผบินบนท้องฟ้า สาวน้อยนั่งอยู่โดยที่มีสองหนุ่มประกบ เธอมองไปยังสถานที่ตรงหน้า มีผู้ชายหลายคนถือปืนยาวเหมือนกับฉากหนังในละคร หัวใจเต้นตุบตับจนรู้สึกกลัวขึ้นมา
ทั้งสามคนขึ้นฝั่งแต่ภาษาที่ใช้คุยกันวาวากับไม่รู้เรื่องอาจจะเป็นภาษาท้องถิ่นสำหรับที่นี่แต่ตอนนี้ก็รู้ว่าตัวเธอไม่ได้อยู่บนแผ่นดินบ้านเกิดอีกต่อไป
"เดินไป!"
ไทผลักไหล่ตัวเล็กให้เดินตามหลังวิน ทั้งสามคนก้าวข้ามประตูสนิมอันใหญ่ ย้ำเท้าหลายกิโลใช้ เวลาค่อนบ่าย จนมาถึงจุดหมาย
ปู้นนนน ฉึกฉึก
เสียงรถไฟดังเป็นแรงดึงดูด สายตาวาวาจับจ้องขบวนลำยาวแต่เหมือนไม่ใช่รถไฟที่ใช้โดยสารปกติ ทุกอย่างถูกปิดสนิทแทบไม่มีช่องว่างหรือหน้าต่าง
เมื่อเดินเข้าข้างทาง เห็นรถหุ้มเกราะสองคันพร้อมกระบะยังมีเหล่าชายฉกรรจ์นับสิบ
"มาถึงแล้วสินะมาก่อนเวลาเหมือนเคย" บุหรี่มวนใหญ่พ่นควันพิษโขมง ความสูงใหญ่น่าเกรงขาม เขาเดินลงมาประจันหน้า "แกไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังจริงๆ ไอ้มาวิน หึ"
ดวงตาหรี่มองปะติดปะต่อเรื่องราว เมื่อชายตัวใหญ่บึกบึนลงจากรถทุกคนก้มหัวทำความเคารพทันที
ไม่ต้องคาดเดาคงมีอำนาจใหญ่ที่สุดในบรรดาพวกนี้
วาวาหัวใจเต้นระส่ำราวว่ามันจะหลุดออกมาเสียงสบถพึมพำแว่วดังก้อง 'นี่เราอยู่กับลูกชายหัวหน้าโจรมาตลอดเลยสินะ..ฮึกกก'