แกร๊ก
ประตูรถไฟเลื่อนออกวินเดินถือน้ำขวดเล็กพร้อมหลอดเข้ามา คนงานรถไฟรีบลุกเดินสวนทางออกไป
เขานั่งลงด้านข้างยื่นน้ำให้พร้อมส่งคำถาม
"มันมาคุยอะไรด้วย?"
"ปะ เปล่า"
"อย่าไว้ใจใครถ้าไม่อยากตายไว"
"มีใครที่หน้าไว้ใจด้วยเหรอคะ..มีแต่พวกเลว พวกสันดานดิบพวกไร้การศึกษา"
หมั๊บ!
มือหนาคว้าบีบปากตัวเล็กแรงมาก เขาจ้องเขม็งเค้นเสียงพูดต่ำ "ฉันน่าจะตัดลิ้นเธอซะเพราะแต่ละคำมันโคตรจะบั่นทอนความรู้สึก"
"แค่นี้ทำไม่พอใจแล้วที่ทำกับหนูอยู่เรียกอะไร!" สาวน้อยสะบัดหน้าจนหลุดพ้นจากพันธนาการโต้เถียงกลับอย่างไว "ไอ้คนบ้า"
"อย่าพูดมากอีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงสถานีหมู่บ้านหนึ่งแห่งต้องการอะไรเพิ่มบอกไอ้ไทมันจะลงไปซื้อมาให้"
"สถานี.."
"ไม่ต้องทำเหมือนจะดีใจเพราะหมู่บ้านนั้นก็เป็นที่ขึ้นชื่อของพวกโจรป่า ถ้าเธอหนีแล้วถูกพวกมันจับได้ รับประกันได้เลยว่าชาตินี้คงไม่ได้กลับบ้าน"
เขาพูดขู่แต่มันก็คือความจริง ก่อนที่จะลุกยืนออกไปจากโบกี้นี้ให้ไทมาเฝ้าไว้แทน
ฉึกฉัก ฉึกฉึก
เสียงล้อกระทบรางยังคงดังต่อเนื่อง สาวน้อยคิดไม่ตกแต่มืดทั้งแปดด้าน หากยอมอยู่นิ่งเฉยก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตรอด
แต่ถ้าหากหนีได้อย่างน้อยโอกาสกลับบ้านก็คงมีมากกว่า
แกร๊ก
ประตูเลื่อนเปิดออก ไทสั่งลูกน้องเฝ้าเนื่องจากไปทำธุระส่วนตัว เวลาไม่กี่นาทีก็เจอผู้ชายคนเดิมที่บอกจะพาหนีเดินตรงดิ่งเข้ามายื่นซองคล้ายจะเป็นเงินให้คนที่มาเฝ้า
"ตัดสินใจหรือยังคนสวย" ชายดำเมี่ยมใช้มือลูบไล้ต้นขาสาวน้อยแต่เธอรีบปัดออก
"ฉันเป็นถึงลูกนักธุรกิจใหญ่โตร่ำรวย ถ้าอยากจะลิ้มลองรสชาตินางฟ้าก็ต้องแลกสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า"
"อะไร..."
"พาฉันหนีไปแล้วถึงจะยอมนอนด้วยความเต็มใจ ฉันพูดจริงนะ"
แม้จะต้องฝืนทนยิ้มแต่ก็ทำใบหน้าที่ไร้การศึกษาของคนตัวใหญ่บึกบึนคิ้วผูกปมขบคิด
หัวใจของวาวามันเต้นแทบจะกระเด็นหลุดออกมากลางทรวงอก
"ตกลง! เธอต้องทำตามแผนนี้ห้ามพลาด"
วาวา พยักหน้ารับ ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติเธอรีบนอนหลับเพื่อออมแรงไว้ใช้งานใหญ่ในวันพรุ่งนี้
อิสรภาพที่โหยหากำลังรออยู่เบื้องหน้า
เช้าวันต่อมา
ถึงสถานีของสาวผู้ถูกขายทอดตลาด พวกคนคุมรถไฟต้องลงและแยกกันพาพวกเธอไปยังสถานที่นัดหมาย
ไทออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวตามที่วาวาร้องขอ เหลือเพียงวินที่นั่งจ้องหน้าอยู่
"พี่คะ..หนูปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ" ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดีแต่มาเป็นโจรลักพาตัว
"เดินไปสิ"
"มีทิชชูไหมคือห้องน้ำมันสกปรก"
"เรื่องมากจริงๆ เลยนะ"
ทิชชูสีขาวถูกหยิบจากใต้ที่นั่งโยนให้ ก่อนจะกระชากแขนให้ลุกขึ้นยืนแล้วแก้มัดขาผลักตัวให้ตรงดิ่งไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกโบกี้
แกร๊ก
แน่นอนว่าเขายังคงยืนเฝ้าที่ประตู ไทถือถุงพลาสติกที่มีข้าวของเต็มไปหมดมาหา
"กูหานมเปรี้ยวไม่เจอนะ" วินพยักหน้า "งั้นมึงเฝ้าแทนละกันกูจะไปเดินดูรอบๆ เดี๋ยวคนเฝ้ากลุ่มใหม่จะมาแทนที่
ทั้งสองคนแยกย้ายกันทำหน้าที่ วินออกจากรถไปสำรวจรอบข้างเหมือนที่เคยทำ ส่วนไท ยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำเพื่อรอวาวาทำธุระส่วนตัว
ปัง
ปี๊ดดดด
ปัง
เสียงประทัดที่ดังขึ้นหลายนัดต่อเนื่อง อีกทั้งผู้คนยังหันแถไปสนใจ แต่นั่นทำให้วินรู้สึกประหลาดใจ เขามองดูนาฬิกาและนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้มีเทศกาลสำคัญอะไร
"จุดพลุทำเหี้ยอะไรวะ" เขาจุดบุหรี่สูบก่อนจะรีบโยนทิ้งแล้วบดขยี้ร้อนรน "ถ้าไม่มีงานก็คง..สัส!!"
เท้าของเขาวิ่งเร็วอัตโนมัติขึ้นไปยังรถไฟแล้วตรงดิ่งไปยังโบกี้ที่มีห้องน้ำเห็นไอ้ไทยืนอยู่หน้าประตูไม่ขยับไปไหน
ต๊บ! ต๊บ!
"นี่..เธอทำอะไรอยู่"
ฝ่ามือหนักของวินตีกระทบประตู ทั้งสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนที่เขาจะใช้เท้าถีบเต็มแรงๆ โต้มมม!
"เชี่ยแม่งเอ๊ยยยย!!!"
เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ วินกับไทรีบวิ่งลงไปสั่งลูกน้องชุดใหม่ให้ค้นหาภายในกลับไม่เหลือสิ่งมีชีวิต มีเพียงข้างชักโครกที่ถูกถอดออกจากด้านล่าง
รูเหล็กสนิมเก่าถูกเจาะให้พอมีที่รอด ตัวเล็กมุดลงไปใต้ราง เสียงประทัดที่ได้ยินกลบเครื่องอุปกรณ์ทำงาน
ทุกอย่างเริ่มชุลมุนวุ่นวายอีกครั้ง เมื่อสาวน้อยผู้เป็นสินค้าสำคัญ หนีไปได้