คำถามที่ยิงอย่างตรงไปตรงมา คำตอบที่ได้มาก็ชัดเจนเหมือนกัน เพราะเงินมากมายขนาดนั้น มันก็ย่อมมีสิ่งที่ปรารถนาไว้แล้วเป็นธรรมดา
ทุ่มเงินหลักสิบล้านแต่อยากแค่ได้ตัวเธองั้นเหรอ..
เป็นคนใจปล้ำที่บ้ากามนี่เอง เหอะ
“เงินคุณคงกว้านซื้อสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ ทำไมถึงเป็นฉัน”
“เธอถามเยอะนะพิมรัก”
“ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง”
คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อสายตาคู่สวยสบมองมาเพื่อรอคำตอบ จนอาจลืมตัวว่าระยะห่างจากใบหน้าเหลือน้อยลงเต็มที
ผิวหน้าขาวเนียนละเอียด มีเลือดฝาดบนสองแก้มนวล ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ รับกับปลายจมูกโด่งรั้นดูดื้อดึง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกาย
สวยจนใครบางคนจ้องตาเป็นมัน..
“เพราะเธอน่าสนใจ” มุมปากสวยยกขึ้นสูง สายตาเชยชมสิ่งสวยงามอย่างพินิจพิจารณา
“น่าสนใจเหรอ”
“ใช่”
“ตรงไหนคะที่คุณสนใจในตัวฉัน”
ไม่พูดเปล่าพิมรักยังเชิดหน้าใส่เหมือนแมวดื้อ แค่เหล้าแก้วเดียวก็ทำเธอเลือดลมพลุ่งพล่าน เฉิดฉายความบ้าบิ่นของตัวเองด้วยการสบสายตาเหนือร้ายไม่หลบไปไหน
“เซ้าซี้น่า”
“ก็แค่ตอบคำถามเองค่ะ”
เจ้าของใบหน้าคมคายหลุบมองริมฝีปากของเธอ พลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ใกล้กับคนอันตรายแบบเขา แต่เธอกลับไม่รู้สึกตื่นกลัวเลยสักนิด
โดนจับจูบปากเปื่อยขึ้นมาจะทำยังไง..
มาทำหน้าตาดื้อรั้นให้น่ากำราบแบบนี้อยู่ได้
นานหลายวินาทีที่สบตากัน กระทั่งเทียนอี้เป็นฝ่ายหลบตาก่อน พร้อมกับผละตัวออกแล้วโน้มไปข้างหน้า เพื่อหยิบแก้วเหล้าส่งให้หญิงสาว
“ช่างเถอะ เธอมาก็ดีแล้ว ฉันหาเพื่อนนั่งดื่มพอดี” เขาแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงความสนใจ
เวลาสนใจอะไรมาก ๆ ก็อยากตะครุบไว้ให้แน่น แต่ถ้ารุกหนักเกินไปใครบางคนอาจตกใจก็ได้
เพราะงั้นตะล่อมเหยื่อไว้แล้วจับกินทีเดียวก็ไม่แย่..
“แต่คุณยังไม่ตอบคำถามฉัน”
“ฉันตอบแล้ว ว่าสนใจ”
“แล้วฉันมีอะไรให้น่าสนใจกัน”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไม่ตอบ แต่ใช้สายตาสำรวจเรือนร่างของคนตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ
แน่ใจเหรอว่าจะให้ตอบ..
หากพูดไปแล้วจะโดนฝ่ามือขาวตบหน้าเอาหรือเปล่า พอลองช่างใจดูแล้วเขาเลือกที่จะไม่พูดออกไปคงดีกว่า
“ฉันไม่ใช่คนไข้เธอนะคุณหมอ เลิกซักประวัติได้แล้ว”
“เหอะ”
“ดื่มสิ”
“จะมอมเหรอ”
เทียนอี้หลุดขำอย่างนึกขบขัน สีหน้าเขาเหมือนพวกสวะที่ชอบมอมเหล้าสาวนักหรือไง
ไม่ต้องมอมหญิงสาวก็พร้อมพลีกายให้เขาอยู่แล้ว..
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ชอบมีอะไรกับคนที่สติไม่ครบถ้วน”
สิ้นประโยคนั้นคนฟังก็พลันหน้าแดง ยกมือขึ้นถูปลายจมูกแล้วหลุบตามองแก้วเหล้าที่ยื่นมาตรงหน้า
พิมรักอยากปฏิเสธ เพราะเธอเป็นคนอ่อน ดื่มได้ไม่กี่แก้วก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะแล้ว
อีกอย่างเธอไม่ใช่สายดื่มสักเท่าไหร่ ไม่ชอบเวลาต้องตื่นนอนมาพร้อมอาการปวดหัวเหมือนโลกหมุน
จะดื่มก็แค่ตอนเข้าสังคมเท่านั้น..
แต่ครั้นจะให้เอ่ยไปตามตรง พิมรักก็กลัวจะโดนมองว่าอ่อนต่อโลกเกินไป ไม่อยากให้ใครบางคนมาเย้ยหยันเรื่องนี้ได้เหมือนกัน
“อ่า ฉันลืมห้าพัน ขอโทษที”
ไม่พูดเปล่ายังหยิบเงินเพิ่มอีกห้าพัน ก่อนจะยัดมันใส่มือเธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเจ้าเล่ห์
มันน่าข่วนหน้าสักที
แน่นอนว่าเงินมาวาจาก็ย่อมเปลี่ยน พิมรักกระดกดื่มของเหลวสีเข้มลงคอรวดเดียว ก่อนจะวางแก้วบนโต๊ะแล้วใช้หลังมือเช็ดหยาดน้ำตรงมุมปาก
“รู้มั้ยฉันชอบคนที่เชื่อฟัง ฉันสนใจเธอ ถ้าหากเธอเป็นเด็กดีที่ว่านอนสอนง่ายล่ะก็..”
นิ้วเรียวของเทียนอี้ลูบไล้ที่ข้างแก้มขาว ทำเอาพิมรักตัวแข็งทื่อกับสัมผัสวาบหวาม ชวนให้ใจสั่นระรัวอยู่ในอก จนใบหน้าเห่อร้อนไม่หยุด
หากทว่าแทนที่เธอจะผละหนี กลับสบสายตาที่ดูอันตรายของเขาอย่างลืมตัว
“ไม่ว่าจะขออะไรในโลกนี้ ฉันก็ประเคนให้เธอได้ทั้งนั้น”
“ทุกอย่างเลยเหรอ”
“ใช่ ทุกอย่าง แต่เว้นดาวกับเดือนไว้หน่อย”
“ไหนบอกว่าทุกอย่างไงคะ”
“แต่ฉันซื้อดาวแล้วเปลี่ยนให้เป็นชื่อเธอได้”
พิมรักเผลอลอบกลอกตามองบนอย่างนึกหมันไส้ เชื่อแล้วว่าสามารถประเคนทุกอย่างให้กับเธอได้
ใจปล้ำขนาดนี้มีหรือจะไม่หวังเรื่องอื่น เธอไม่ใช่เด็กน้อยไม่รู้ประสีประสาแล้ว ผ่านโลกมาพอสมควรที่จะรู้ว่าสายตาเจ้าเล่ห์เมื่อครู่หมายถึงอะไร
คอยดูแม่จะหลอกให้หมดตัวเลย..
“ปากน่าจูบ”
“อึก”
“ขอจูบหน่อย”
พิมรักเบิกตาขึ้นกว้าง หน้าตาเหลอหลาแทบจะสร่างจากอาการมึนเมา ประโยคเมื่อครู่ไม่เหมือนการขออนุญาต แต่เหมือนจะเป็นการออกคำสั่งให้เสียมากกว่า
มาขอจูบแบบนี้ได้ยังไงกัน..
หมายถึงมาขอจูบโดยไม่มีขอแลกเปลี่ยนได้ไง
“สามหมื่น” เธอทำหน้าดื้อใส่ คล้ายว่าเหล้าที่ดื่มไปจะกระตุ้นความกล้าให้เพิ่มขึ้น
“หน้าเงินเกินไปแล้วนะคุณหมอคนสวย”
“อ้อ ไม่รู้เหรอว่าฉันมันผู้หญิงหน้าเงิน”
รู้แล้วว่าคุณหมอพยศเก่ง แต่ไม่คิดว่าจะหัวดื้อได้ขนาดนี้ ชักอยากรู้แล้วเหมือนกันว่าจะเก่งได้สักกี่น้ำ
ถ้าเจอของจริงขึ้นมาจะร้องไม่ออก
“รู้ว่าฉันหน้าเงินแล้วยังอยากได้อยู่มั้ย ถ้ายังอยากได้อยู่ก็ระวังโดนถลุงจนหมดตัวแล้วกัน”
“โอเค สามหมื่น”
ดวงตาคู่สวยเบิกโตเท่าไข่ห่าน สีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายทำเอาคนที่เผลอปากไวไปต่อไม่ถูก รีบยกมือขึ้นยันอกหมายจะผลักออก แต่ก็ถูกเรียวแขนรั้งแผ่นหลังไว้ไม่ให้ขยับหนี
พอทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ หัวใจของเธอก็เหมือนจะยิ่งดังขึ้นกว่าเก่า เครื่องหน้าฟ้าประทานของเทียนอี้คงตกสาวมานับไม่ถ้วน
ใช้ความหล่อเรี่ยราดชะมัดเลย..
“เลขบัญชีมาสิ”
“คุณมันบ้า”
“ให้ห้าหมื่น แต่ขอแลกลิ้นด้วย”
“คนบ้า”
กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งให้กับความบ้าบิ่น ใบหน้าขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน รู้สึกกระดากอายแทนอีกฝ่ายที่พูดออกมาได้หน้าตาเฉย
เทียนอี้เขามันบ้า..
เจ้าของใบหน้าคมคายหรี่ตาเล็กน้อย ขณะที่ใช้หลังมือเกลี่ยไรแก้มร้อนผ่าว
“สวยขนาดนี้โดนนอกใจได้ยังไงกัน”
“.....”
“ไอ้เวรนั่นมันพลาดของดีแล้ว”
คำพูดที่ฉายชัดถึงความจริงใจ ยิ่งพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น ไม่รู้ทำไมพิมรักถึงเผลอไผลสบมองดวงตาคู่คม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายตรงหน้าอันตรายแค่ไหน
หรือเธอเองก็อยากลองเสี่ยงเหมือนกัน..
“คุณคิดว่าเขาพลาดของดีจริงเหรอ”
“จริงสิ ปล่อยของดีหลุดมือแบบนี้ได้ไง”
“ถ้าดีจริงเขาก็คงไม่มีคนอื่นหรอกค่ะ”
“เอาคุณค่าไปผูกไว้กับคนแบบนั้นทำไม หือ”
เทียนอี้เลิกคิ้วแล้วยกยิ้มมุมปาก มือลูบเส้นผมนิ่มเล่นตามอำเภอใจ หากแต่สายตาเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างปิดไม่มิด
นี่มันสายตานักล่าของจริงเลย..
ดวงตาคู่สวยพราวระยับ ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ด้วยสายตาลึกล้ำแบบนั้นมาก่อน หัวใจที่บอบช้ำมาก็พลอยอ่อนไหวเสียโดยง่ายดาย
เสี้ยววินาทีที่ไม่ทันห้ามใจ ใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มเข้ามาใกล้ขึ้น ขณะที่สายตาสบมองกันไม่ละไปไหน
กระทั่งริมฝีปากหนาหยุ่นทาบทามลงมา พิมรักก็ถึงกับกลัดเกร็งด้วยความตกใจ หากแต่ไม่ได้ผลักเขาออกอย่างที่ใจคิด
“อึก” เธอหลับตาปี๋กับสัมผัสแปลกใหม่จากเทียนอี้
ทว่าวินาทีต่อมาก็ต้องใจอ่อนยวบยาบ ยามที่อีกฝ่ายขยับริมฝีปากขบเม้มกลีบปากเธออย่างอ้อยอิ่ง สัมผัสไม่ได้รุนแรงแต่ชวนให้เสียวหน้าท้องวูบวาบไปหมด
แต่แล้วสติก็ถูกพรากไปจนหมดสิ้น เมื่อมือหนาสอดประคองใบหน้าสวย แล้วสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากอุ่นได้สำเร็จ
“อือ” พิมรักหลุดครางออกมา มือวางทาบบนบ่ากว้างไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ขณะที่เบียดเสียดกายเข้าหาอย่างลืมตัว
จูบนี้ทำสติเธอล่องลอยให้เบาหวิว ในหัวขาวโพลนจนหมดแรงต่อต้าน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จูบตอบแล้วเผลอใช้วงแขนโอบลำคอแกร่งเสียแล้ว
“แฮ่ก ห้า.. ห้าหมื่น” พิมรักเป็นฝ่ายผละออก เผยอปากกอบโกยอากาศเข้าปอด พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทันที
เทียนอี้แสยะยิ้มมุมปาก มองหญิงสาวตรงหน้าที่ยื่นโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ลืมเปิดคิวอาร์โค้ดสำหรับแสกนส่งให้
มาเฟียหนุ่มไม่โต้เถียงแต่อย่างใด แค่หยิบมือถือแสกนจ่ายให้เธอตามที่เรียกมาตั้งแต่ต้น
เจอหน้ากันยังไม่ถึงยี่สิบนาที แต่เสียเงินครึ่งแสนให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ตั้งใจรีดไถเขาโดยเฉพาะเลยสินะ
“พอหรือเปล่า” ใบหน้าคมคายเลิกคิ้วถาม พิมรักเลยเอียงคอมองแล้วโยนคำถามกลับ
“ถ้าไม่พอจะโอนเพิ่มเหรอคะ”
“โอนเพิ่มได้ แต่จะได้มากกว่าจูบหรือเปล่าล่ะ”
สาวเจ้ารีบดันอกอีกฝ่ายให้ออกห่าง จุดประสงค์ชัดเจนขนาดนี้มันอันตรายเกินไปแล้ว
“คอยดู ฉันจะหลอกคุณให้หมดตัวเลย”
“อย่าเรียกว่าหลอก เรียกว่าช่วยฉันใช้เงินดีกว่า”
พูดจบก็ผละตัวแล้วนั่งไขว่ห้าง มองเธอพิมรักที่ยู่ริมฝีปากเชิงขัดใจ ทั้งใบหน้ายังแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุก
เถียงอะไรก็ไม่เคยชนะมันน่าหงุดหงิดชะมัด..