8 ผู้ชายเลือกเธอแต่มาง้อฉัน

1767 Words
เสียงจอแจฟังไม่ได้ศัพท์ในโซนร้านอาหารของโรงพยาบาล หญิงสาวในชุดเสื้อกาวน์ตักข้าวเข้าปากคำโต จนแก้มตุ่ยเหมือนแฮมสเตอร์ที่กักเก็บอาหารไว้ในกระพุ้งแก้ม เธอไม่ได้รีบกินแม้จะต้องแข่งกับเวลา ตรงกันข้ามกลับเคี้ยวเชื่องช้า คล้ายว่าไม่อยากอาหารสักเท่าไหร่นัก มีบางอย่างกวนใจเธอไม่หยุด.. “พิมแกอย่าอมข้าวสิ” ริสาจิ้มเข้าที่หน้าผากดึงสติ “รีบกินไอ้พิมมีเคสต่อนะเว้ย” ฐิตาช่วยสมทบอีกแรง เพื่อนสนิททั้งสองเป็นแพทย์ประจำบ้าน อยู่วอร์ดศัลยกรรมเหมือนกัน เพราะงั้นรู้ดีว่าวอร์ดนี้งานล้นมือแพทย์จนเวรเยินขนาดไหน “ฉันอิ่มแล้ว รู้สึกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่” “ถ้าไม่กินข้าวเดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้ง ตอนเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้วทำพลาดขึ้นมา โดนอาจารย์หมอดุแน่” “ก็มันกินไม่ลงนี่ริสา แกจะให้ฉันทำยังไง” ริสาลอบระบายลมหายใจ พวกเธอสองคนก็ทราบข่าวของพิมรักแล้วเหมือนกัน ไม่ใช่จากปากเพื่อนสนิท แต่เป็นเรื่องที่คนในวอร์ดซุบซิบนินทาต่างหาก พอทราบข่าวก็มานั่งเค้นเจ้าตัว ถึงได้รู้ว่าณดลนอกใจเธอไปหารุ่นน้องแพทย์ปีสี่ เปิดตัวหวานกันฉ่ำในอินสตราแกรม ลักกินขโมยกินแบบเปิดเผยทันทีที่ทั้งคู่เลิกกัน แต่ณดลกลับตามง้ออย่างหน้าไม่อาย.. ถามหน่อยว่าใครจะอยากใช้ของร่วมกับคนอื่นกันล่ะ “เรื่องของพี่ดลใช่มั้ย ตาแกบวมเหมือนเพิ่งร้องไห้มาเลย” “พี่มันเป็นคนเลวไอ้พิม แกอย่าไปเสียน้ำตาให้เลย” “จริง พี่ณดลมันเลวได้ใจเนอะฐิตา” ริสาพยักหน้ารับกับฐิตาอย่างเห็นด้วย อย่าไปเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียวให้คนเลวแบบนั้นเลย เครื่องสำอางราคาแพงบนหน้าไม่คุ้มค่ากับคนประเภทนั้นหรอก พิมรักถอนหายใจอย่างห่อเหี่ยว สายตาดูเหนื่อยล้าเหมือนคนที่ไม่ได้นอน แต่ความจริงคือกำลังแฮงก์จากเมื่อคืนต่างหาก “แกตัดขาดออกมาจากคนแบบนั้นได้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” ฐิตาพูดปลอบด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ใช่ ดีกว่าแต่งงานกันไปแล้ว ดันมารู้ทีหลังว่าพี่มันซ่อนผู้หญิงเอาไว้” ริสาพยักหน้าระรัวให้อีกหนึ่งกำลังใจ พิมรักยิ้มแหย เพราะความจริงไม่ได้คิดเรื่องของณดลเลยสักนิด แต่ติดอยู่ที่ตอนเช้าตื่นมาอยู่ในห้องของเทียนอี้ต่างหาก โชคร้ายกว่านั้นคือภาพตัดจำอะไรไม่ได้เลย.. เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไง ถูกลากออกไปตอนไหน แล้วเผลอทำอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า ใช่ ทำอะไรกันมากกว่านั้นหรือเปล่า ‘รายการเงินเข้า บัญชี xxx-x-x5489-x จำนวนเงิน 150,000.00 บาท’ พอได้เห็นจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชี พิมรักก็ยิ่งอยากเอาหัวโขกโต๊ะให้รู้แล้วรู้รอด จำที่มาของเงินไม่ได้เลยสักนิดเดียว “ไม่เป็นไรน้าแก ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกเอง วันว่างไปซัดเหล้ากันให้ยับเลย” ริสายื่นมือตบบ่าเพื่อนสนิท เมื่อเห็นพิมรักทิ้งหัวลงกับโต๊ะอาหารอย่างหมดอาลัยตายอยาก “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อชานมไข่มุกร้านประจำให้ ถ้าได้ของหวานเผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง” ฐิตาตบบ่าอีกข้าง โดยไม่ลืมเอาของโปรดมาหลอกล่อให้อีกคนรู้สึกดี จะบ้าตาย.. เมื่อคืนเธอทำอะไรลงไปกันแน่ ครุ่นคิดอยู่นานหลายวินาทีจนปวดหัว พิมรักก็เงยหน้าขึ้นมองแล้วนั่งหลังตรง ทำเอาสองเพื่อนสนิทผงะด้วยความตกใจ ต้องไปเค้นจากปากเทียนอี้สินะ.. พอคิดได้แบบนั้นร่างบางก็ผุดลุกจากเก้าอี้ ก่อนจะฉีกยิ้มจนตาหยีกลบเกลื่อนพิรุธเอาไว้ให้มิด “แล้วแกจะไปไหนพิม” “ไม่กินข้าวก่อนเหรอ” พิมรักยกมือปรามทั้งคู่ พร้อมกับยกถาดเตรียมไปเก็บ “ฉันขอตัวไปตามดูเคสคนไข้ก่อน ยังไงก็ขอบใจพวกแกมากเลยนะ ไปละ” พูดจบก็รีบเผ่นแน่บโดยไม่รีรอ สองเท้าก้าวฉับตรงไปยังห้องพักแพทย์ ก่อนจะหยิบมือถือกดเบอร์โทรออกหาเทียนอี้ในทันที เมื่อเช้าพิมรักหนีกลับมาก่อนเจอเทียนอี้ สภาพของคุณหมอที่กระเสือกกะสนไปเอารถที่แองเจิลวิงคลับ เป็นภาพที่ไม่น่าจดจำเลยสักนิดเดียว เมาค้างจนโลกหมุนไม่หยุด.. เนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหล้า จนต้องรีบกลับไปอาบน้ำที่บ้าน แล้ว มาทำงานแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แต้มบุญที่จะไม่โดนอาจารย์หมอด่าใช้หมดแล้ว “ฮัลโหลค่ะคุณเทียน” พิมรักกรอกเสียงลงไปตามสาย หลังได้ยินเสียงสัญญาณรอสายเงียบไป ( สวัสดีครับคุณหมอคนสวย ) “เงินที่โอนเข้ามาเมื่อคืน คุณโอนให้ฉันเหรอคะ” ( ใช่สิ ทำไม น้อยไปเหรอ ) “น้อยบ้า.. ไม่ใช่ คุณโอนมาให้ฉันทำไม” พิมรักเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก เกือบพลั้งปากสบถใส่อีกฝ่ายเข้าให้แล้วไหมล่ะ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอกำลังสติแตก แต่ยังเลือกที่จะยียวนกวนประสาทกันไม่หยุด ดูจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าจงใจปั่นหัวกัน เขาเป็นคนเดียวที่กุมความลับเธออยู่งั้นสินะ ยังไงก็ต้องรู้สิว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น.. ( จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ) “ถ้าจำได้ฉันคงไม่โทรมาถามคุณ” คุณหมอเผลอใช้โทนเสียงเอาแต่ใจ จนปลายสายแค่นหัวเราะในลำคอ แต่แล้วก็เงียบไม่ตอบอะไรกลับมา นี่เธอถูกดึงเข้าไปเล่นสงครามประสาทงั้นเหรอ “คุณเทียน” ( ลองคิดดูสิ ) “ว่าไงนะ” ( แค่นี้ก่อน ฉันมีประชุม ) สิ้นประโยคนั้นสายก็ถูกตัดไป เหลือทิ้งไว้แค่พิมรักที่ถือสายคาหูไว้ อารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านจนหัวคิ้วแทบจะผูกเป็นโบ “เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังคุยไม่.. ไอ้บ้าเอ้ย” ช่วงเย็นเป็นเวลาเลิกงาน พิมรักในสภาพอ่อนเพลียยกมือขึ้นมัดรวบผมลวก ๆ ท่าทีของเธอเชื่องซึมขณะเดินออกจากโรงพยาบาล กำลังจะตรงไปยังลานจอดรถ คิดมากเรื่องเมื่อคืนจนหัวแทบระเบิดอยู่แล้ว ทว่าก็ต้องชะงักฝีเท้าลง เมื่อมีหญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินมาดักหน้าเอาไว้ ไม่วายใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองมา พิมรักยกยิ้มยอมใจในความหน้าด้านหน้าทน ทั้งที่ลักกินขโมยกินของชาวบ้านเขามาเป็นเดือน แต่กลับแบกหน้ามาหาเธอถึงที่โดยไร้ยางอาย “หลบค่ะ” ร่างบางกดเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ แค่นี้ก็มีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว ถึงพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะที่ไร้ประโยชน์นี้ แต่อีกฝ่ายกลับขยับฝีเท้าตามเธอไม่ให้เดินหนี ใช้น้ำเสียงและสายตาให้ดูเหมือนว่าตนถือไพ่เหนือกว่าอยู่ ก็คงคิดแบบนั้นอยู่แล้ว.. หล่อนได้ผู้ชายที่แอบกินไปครองแล้วนี่ “ไม่หลบค่ะ” “ต้องการอะไร” “เลิกยุ่งกับพี่ณดล” “ไปบอกคนของเธอดีกว่า ว่าให้เลิกตามง้อฉันได้แล้ว” พิมรักถอนหายใจแล้วกลอกตามองบน ก่อนยกแขนขึ้นกอดอกอย่างเอาเรื่องเช่นกัน อีกฝ่ายอายุน้อยกว่าเธอตั้งหลายปี แต่ตั้งท่าทำตัวไร้มารยาทเสียไม่มี คงไม่ได้สำเหนียกตัวเองเท่าไหร่กับการเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์คนอื่น คนประเภทนี้ย่อมมีความมั่นใจในตัวเองมาก.. ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของคนอื่นพัง ก็จะยิ่งมั่นใจเขาไปใหญ่ว่าผู้ชายนั้นเลือกตัวเอง อ่า คงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจน่าดู “ไม่จริงหรอก เขาบอกฉันเองว่าเธอขอให้เขาอยู่ บอกว่าอยากแต่งงานด้วยกันแล้วก็อับอายที่ต้องถูกทิ้ง” “ฉันอายุมากกว่าเธอหลายปี หัดมีมารยาทหน่อย” “จำเป็นด้วยเหรอ” “คงลืมไว้ในท้องแม่สิท่า” หญิงรุ่นน้องฮึดฮัดด้วยท่าทีไม่พอใจ ก่อนจะแสยะยิ้มเหยียดคล้ายว่าต้องการเอาชนะเช่นกัน “รู้มั้ยว่าเขาพูดถึงเธอว่าอะไร” “ไหนลองพูดมาสิ” “เขาบอกว่าเธอมันจืดชืด ไม่มีรสชาติอะไรเลย แต่งตัวเชยรสนิยมหลายอย่างไปด้วยกันไม่ได้” ร่างบางยืนนิ่งกับคำพูดที่จุกอก อยากคิดว่าอีกฝ่ายโกหกปั้นเรื่อง แต่แล้วก็ถูกความจริงตอกหน้าเข้าอย่างจัง ‘พิมลองแต่งตัวแบบนี้บ้างสิ เซ็กซี่ดีนะครับ’ ‘น้องพิมลองแต่งหน้าแบบนี้ดูมั้ย พี่ว่าเข้ากับน้องพิมดี’ “ไม่แปลกใจหรอกทำไมผู้ชายถึงทิ้งเธอมาหาฉัน ของพวกนี้มันต้องมีลีลากันบ้าง ไม่งั้นดูตายด้านพวกผู้ชายก็ทิ้งไปไง” ณดลเคยขอให้เธอปรับเรื่องการแต่งตัว บอกให้ลองแต่งหน้าตามคนนั้นคนนี้ โดยที่พิมรักไม่รู้เลยว่ามันเป็นสัญญาณเตือนของคนที่กำลังนอกใจ เพราะทุกอย่างที่ณดลพยายามให้เธอปรับ มันตรงกับหญิงสาวรุ่นน้องตรงหน้าเธอหมดทุกอย่าง อ่า ไอ้คนเลวเอ้ย “เธอคิดว่าเธอชนะแล้วงั้นสิที่ได้คนของฉันไป” “แล้วไม่ใช่เหรอ” “ไม่ใช่ ของเหลือที่ฉันไม่เอาก็แค่ขยะ ขยะอย่างเขาไม่ได้มีค่าอะไรให้เสียดายเลยด้วยซ้ำ” พิมรักข่มอารมณ์แน่น พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “เชิญภูมิใจกับของที่แย่งไปเถอะ เรื่องของยางอายก็ใช่ว่าจะติดตัวผู้หญิงอย่างเรามาตั้งแต่เกิด เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกัน” “อย่าให้รู้ว่าเธอมาตามเอาคืนก็แล้วกัน” อีกฝ่ายตวาดอย่างหมดความอดทน พิมรักเพียงแค่ปรายหางตามอง ก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปากแล้วตอบกลับไป “ฉันไม่อยากได้คืนด้วยซ้ำ” ต่อให้เคยรักมากแค่ไหนก็จะไม่กลับไป.. ความรักที่เธอให้ณดลไปตลอดระยะเวลาที่คบกัน มันหมดลงในทันทีตั้งแต่ที่เขาเลือกโกหกและนอกใจกันแล้ว “แต่ผู้ชายที่บอกว่าเลือกเธอ เขาตามมาง้อฉันเองค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD