“สิงหาลูก! พวกมึงต้องการอะไรวะ”
“เข้ามาอีกครึ่งก้าว ลูกมึงตาย”
“มึง!!!”
“อ๊าก!!พ่อ เอาให้เงินมันไปสักทีเซ่!!”
“หนึ่ง...”
"กรอด~ มึง!!"เสี่ยสุชาติกัดกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องเขม็งมาทางผมด้วยความโกรธแค้น
แกร้ก!!
“พ่อ!!!อ้ากกก”
“สอง”
“สะ....”
“เอ้อ!ห้าล้านก็ห้าล้าน!!” เสี่ยสุชาติตะโกนออกมาจนเสียงแหบแห้ง ชายสูงวัยยืนหอบหายใจจนตัวโยน “ไอ้ชิน จัดการให้มันไป”
“ครับเสี่ย” โทรศัพท์ในมือของคนชื่อชินยื่นเข้ามาแสกนคิวอาร์โค้ดจากโทรศัพท์ของอาร์เมอร์ ที่ยื่นไปให้แบบสบายๆ
ติ้ง!
“ห้าล้าน เรียบร้อย” อาร์เมอร์ยื่นหน้าจอโทรศัพท์มาทางผมแต่ผมไม่ได้หันไปมอง กลับจ้องอยู่ที่ไอ้เสี่ยสุชาติที่ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธอยู่เบื้องหน้า
“ปล่อยตัวลูกกูกับอีเด็กนั่นมา!!แล้วก็ออกไปจากบ้านกูได้แล้ว!!”
“มึงเอาตัวลูกมึงไป แต่เด็กนี่เป็นคนของกู”
“มันขายตัวให้กูแล้ว มึงอย่างมาเสือก”
“....” คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเป็นโบว์ หลุบตามองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลัง แขนเล็กของเธอกอดแขนของผมเอาไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ฮึก!ข้าวไม่ได้เต็มใจนะนาย นายช่วยข้าวด้วยนะ”
“แต่แม่มึงขายมึงให้กูแล้ว”
“ฮื่อ~ ข้าวไม่ไปนะนาย”
“เท่าไหร่!มึงซื้อเธอมาเท่าไหร่” ผมกัดฟันกรอด ตะคอกถามไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นออกไปอย่างเดือดดาล
“สิบล้าน!”
“มะ...ไม่ใช่นะนาย แม่เป็นหนี้มันสะ...สองล้านไม่ใช่สิบล้าน”
“ถ้ามึงอยากได้ตัวอีกนี่ไป มึงก็ต้องจ่ายคืนกูมาสิบล้าน”
“ฮึ!” ผมแสยะยิ้มออกมาก่อนจะกระชากผมไอ้สิงหาขึ้นมา เล็งปืนกระบอกที่อยู่ในมือไปที่หัวของลูกชายเสี่ยสุชาติ ที่กำลังร้องโอดโอยอยู่บนพื้น “กูเก็บค่าหัวไอ้เชี่ยนี่...สิบล้าน”
“มึงจะทำอะไรกู!! ปล่อยกู!!โอ๊ย พ่อ!! ช่วยผมด้วย”
“พวกมึงได้เงินไปแล้วก็ปล่อยลูกกูมาสิวะ” ปืนทุกกระบอกซึ่งอยู่ในท่าเตรียมยิงของลูกน้องเสี่ยสุชาติเล็งมาที่กลุ่มพวกผม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะพวกผมก็มีปืนกันทุกคน
“กูบอกแล้วไง ว่าเอาตัวไปได้...แต่หัวไม่มี”
ตุ้บ!
“อั้ก!” กระบอกปืนที่อยู่ในมือของผมถูกจับฟาดลงบนใบหน้าบวมช้ำของสิงหาอย่างไร้ความปรานี มันร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด แผลบนหน้าที่แตกอยู่ก่อนแล้วมีเลือดไหลซึมออกมาเพิ่มขึ้นไปอีก
“ว่าไงล่ะเสี่ย เพื่อนผมมันเป็นคนนิ่งๆ ซะด้วยสิ”
“พ่อ อ๊าก!! ปล่อยอีนี่ไปเถอะพ่อ โอ๊ย~” สิงหาร้องแหกปากลั่นเมื่ออาร์เมอร์บดรองเท้าหนังราคาแพงลงไปที่แผลตรงต้นขาของมัน คนเป็นพ่อจะเข้ามาช่วยลูกแต่กลับถูกผมเล็งปืนเข้าใส่
“ปล่อยลูกกูมา แล้วพวกมึงจะไปไหนก็ไป!! ฮึ่ย!”
“บอกคนของมึงลดปืนลง ถ้ายิงออกมาแม้แต่นัดเดียวระเบิดเวลาที่อยู่ด้านหลังไอ้สิงหาจะทำงานทันที” อาร์เมอร์ชูรีโมทขึ้นเหนือศีรษะ คนของเสี่ยสุชาติต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“พ่อ!! พ่อ!!”
“วางปืนลงตามที่มันสั่งสิวะไอ้พวกโง่!!”
“ฮึ! ฝากจัดการด้วย” ผมพยักหน้าให้อาร์เมอร์ก่อนจะดันตัวคนตัวเล็กเข้าไปด้านในรถ ซึ่งเธอก็รีบกูรีกูจอขึ้นรถด้วยตัวสั่นงันงก เข้าไปนั่งบนรถด้านในสุด
“อ๊ะ!”
“มานั่งนี่!!” ผมดึงแขนเธออย่างไม่แรงนักจากเบาะที่เธอกำลังจะนั่ง ให้เปลี่ยนมานั่งข้างๆผมแทน สายตาคมจ้องมองไปยังใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยแผลพกช้ำ มีเลือดเกอะกังอยู่ตามจมูก มุมปาก มือเล็กกุมหน้าท้องเอาไว้ ดวงตาที่เอ่อด้วยคราบน้ำตามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทางหวาดกลัว
“เรียบร้อยครับนาย”
“....” ผมพยักหน้าให้จอมทัพนิ่งๆ ในขณะที่มันขึ้นนั่งรถอยู่ในตำแหน่งข้างคนขับ
“มึงแอบไปมีเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้เวียร์” สักพักต่อมาอาร์เมอร์ก็ขึ้นรถตามมาติดๆ มันส่งคำถามมาทางผมอย่างที่ไม่เปิดโอกาสให้ได้ตั้งตัว
สายตาคมเหล่มองคนตัวเล็กที่หลับตาพริ้มพลางซุกหน้าลงกับเบาะรถอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันไปตอบคำถามเพื่อนสนิท
“เมื่อกี้”
“ฮะ!”
“แล้วมึงจะตะโกนทำไม”
“เอ่อกูขอโทษ แม่งโดนหนักเหมือนกันนี่หว่า เฮ้ย!อะไรของมึงวะ” ผมใช้มือตัวเองปัดมือของไอ้อาร์เมอร์ออกตอนที่มันยื่นมือเข้ามาจับปลายคางของคนตัวเล็ก ที่ทำหน้าเหยเกแสดงความเจ็บปวดออกมาทั้งๆ ที่ตายังหลับอยู่
“เธอหลับอยู่มึงไม่เห็นหรือไง”
“ไอ้นี่ เอาดีๆ มึงเป็นอะไรกับเธอ”
“คนรู้จัก” ผมบอกออกไปนิ่งๆ เอื้อมมือไปไปจับหัวทุยของคนตัวเล็กให้พิงลงบนหัวไหล่ของผม ใบหน้าหวานของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยจากการถูกทำร้าย
“ท่าจะรู้จักดี” เพื่อนมาเฟียของผมส่ายหน้าให้น้อยๆ ก่อนจะหันไปสนใจโทรศัพท์ของมันต่อ
ในขณะที่ไล่สายตาสำรวจคนตัวเล็กข้างๆ สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับฝ่ามือเล็กของเธอที่กุมอยู่หน้าท้อง ผมถือวิสาสะเอื้อมมือเข้าไปเปิดชายเสื้อของเธอขึ้น เพราะเห็นเธอจับหน้าท้องตลอดเวลาเลยเป็นห่วงว่าเธอจะบาดเจ็บตรงนั้น
“พวกเลวเอ้ย!”
และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ หน้าท้องแบนราบของเธอเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำจากการถูกทำร้ายเป็นบริเวณกว้าง
“เชี่ย!ตัวแค่นี้ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ตาย” ผมรีบดึงชายเสื้อเธอปิดลงทันที เมื่อเห็นว่าไอ้อาร์เมอร์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ดันตัวขึ้นชะโงกหน้าเข้ามาดู
“ไอ้แม็กขับไปโรงพยาบาล”
“ครับนาย”
“เดี๋ยวนะ กูว่าถ้าพาไปโรงพยาบาลเรื่องยาวแน่เลยว่ะ กูว่าบอกชีต้ามาตรวจที่บ้านให้ดีกว่า”
“เพื่อนมึงเอาเครื่องเอ็กซ์เรย์มาที่บ้านกูได้เหรอ”
“เออว่ะ” มาเฟียหนุ่มทำท่าครุ่นคิดก่อนจะกดโทรออกหาใครบางคน “ฮัลโหลชี มีเรื่องให้ช่วยว่ะ จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว มีเด็กผู้หญิงถูกทำร้าย เฮ้ย! เปล่าเว้ย พวกฉันไปช่วยมา เดี๋ยวเข้าไปโรงพยาบาลของแกนะ โอเคเพื่อน”
“ยังไง” ผมถามมันไปห้วนๆ ซึ่งมันไม่ตอบแต่หันไปสั่งลูกน้องของผมแทน
“ไอ้แม็กไปโรงพยาบาลของชีตาร์เลย”
“ครับนาย”
ผมไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับเบือนสายลงมองคนที่หลับอยู่ข้างๆ ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเธอ จำได้ว่าเธอให้เบอร์โทรติดต่อกับผมไว้ ซึ่งผมบันทึกลงในโทรศัพท์แล้วภายใต้ชื่อใบช้าง ไอ้เคเป็นคนช่วยผมอ่านโพสอิทที่เธอเขียนด้วยลายมือขยุกขยิก คิดไม่ถึงว่าวันนี้ผมจะได้เจอเธออีกครั้ง ในสภาพที่น่าเวทนาแบบนี้
@โรงพยาบาลH
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
“มีไข้ต่ำๆ เบื้องต้นฉันเอ็กซ์เรย์แล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีแค่รอยพกช้ำพวกนี้เท่านั้น”
“แล้วหน้าท้องที่ช้ำขนาดนั้น จะมีปัญหาอะไรมั้ย” ผมถามชีตาร์เพื่อนสนิทของอาร์เมอร์ ในขณะที่เธอจดรายละเอียดการรักษาลงไปบนแฟ้มประวัติคนไข้
“ไม่มีเลือดออกในช่องท้อง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ชีตาร์พูดด้วยท่าทาสบายๆ วางแฟ้มประวัติคนไข้ลงบนตะกร้าแล้วเดินเข้าไปปรับระดับน้ำเกลือให้คนตัวเล็ก
“อื้อ....”
“ดูเหมือนเธอจะฟื้นแล้วนะ” ร่างบางค่อยๆ ขยับเปลือกตาช้าๆ ค่อยๆกระพริบตาแต่ไม่ได้ขยับร่างกายส่วนอื่น
“เป็นยังไงบ้างคะตัวเล็ก”
“ขะ...ขอบคุณที่ช่วยหนูนะคะ” เธอค่อยๆ ยกมือที่ถูกเจาะให้น้ำเกลือข้างหนึ่งขึ้นไหว้มาทางพวกผมทั้งสามคน ด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย
“ต้องขอบคุณสองคนนี้นะ พี่แค่ช่วยรักษาหนูตามอาการ”
“นะ...นาย” ดวงตากลมโตทอดมองมายังผมกับอาร์เมอร์ ปากเล็กพยายามขยับพูดแต่ผมเข้าพูดแทรกเธอเอาไว้ซะก่อน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว อย่าพึ่งพูดอะไร พักผ่อนก่อนเถอะ” มือหนาเอื้อมไปดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้เธออย่างเบามือ ซึ่งคนตัวเล็กก็หลับลงไปอีกครั้งอย่างง่ายดาย คงจะเป็นเพราะด้วยความอ่อนเพลียและบอบช้ำของร่างกายเธอ
“นายครับ นายเดินทางตอนสี่ทุ่ม อย่าลืมนะครับ”
“อืม” ผมพยักหน้าตอบกลับจอมทัพก่อนจะหันกลับไปคุยเรื่องการรักษาคนตัวเล็กกับหมอชีตาร์ ในระหว่างที่ผมเดินทางไปทำธุระที่ฝรั่งเศส เธอต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อีกอย่างผมไม่ไว้ใจพวกไอ้เสี่ยสุชาติด้วย ถ้าพวกมันรู้ว่าเธออยู่ที่นี่มันจะตามมาจับตัวเธอกลับไปมั้ย
(END:TALK)