ตอนที่ 5 ช่วยด้วย

1006 Words
หญิงสาวเดินเท้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับความกังวลใจเพราะยังห่วงอาการของเจษฎ์ เธอจึงไม่ได้เห็นว่ามีผู้ชายสามคนเดินตามเธอมาด้วย กระทั่งเธอเดินห่างออกมาจากแนวรั้วของคฤหาสน์พอสมควรเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อผู้ชายทั้งสามคนนั้นมายืนล้อมเธอไว้ และเธอก็ได้เห็นว่าพวกเขาคือคนที่เธอเคยนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยก่อนหน้านี้ “จะรีบไปไหนครับคนสวย” ชายคนหนึ่งถามขึ้นพร้อมแววตากรุ้มกริ่ม เธอจึงได้กระชับกระเป๋าสะพายให้แน่นขึ้นแล้วตอบออกไป “หนู...หนูจะกลับบ้านค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอเดินเบี่ยงไปทางซ้าย แต่ผู้ชายอีกคนก็เข้ามาขวางไว้ พอเธอเดินเบี่ยงไปทางขวาอีกคนก็ทำแบบเดียวกัน คนทั้งสามไม่ได้ถามอะไรอีก แต่พวกมันก้าวเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ ในขณะที่เธอก็ก้าวถอยหลัง เมื่อเห็นว่าพวกมันคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่ เธอจึงได้ตัดสินใจหันหลังเพื่อวิ่งกลับไปยังคฤหาสน์ แต่วิ่งไปได้เพียงสามก้าวพวกมันก็เข้ามาล็อกตัวเธอไว้ได้ทัน “ช่วยด้วย! ช่วยด้วยค่ะ! ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย!” เธอร้องตะโกนสุดเสียงเผื่อว่าจะมีใครผ่านมาได้ยิน แล้วก็เหมือนว่าโชคชะตาจะไม่โหดร้ายกับเธอนัก เพราะไม่นานก็มีรถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดเทียบก่อนที่เขาจะลดกระจกลง และเธอก็ได้เห็นว่าคนขับก็คือเจษฎ์นั่นเอง “ทำอะไรกันน่ะ” เจษฎ์ถามเสียงเข้มก่อนจะก้าวลงจากรถด้วยท่าทางปกติไม่เหมือนคนที่โดนวางยา อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากให้คนทั้งสามรู้ว่าร่างกายของเขาไม่ได้ปกติเลยสักนิด ที่สำคัญก็คือเขาลงจากรถพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่งในมือทำให้คนทั้งสามดูจะตกใจมาก “คุณเจษฎ์ช่วยหนูด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วย” เธอสะบัดข้อมือจากการเกาะกุมของผู้ชายทั้งสองตอนที่พวกมันเผลอ ก่อนจะเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังเจษฎ์เอาไว้ “ฉันถามว่าทำอะไรกัน” เจษฎ์กดเสียงให้ต่ำลงอีกก่อนจะเล็งปืนมาที่คนทั้งสาม เล่นเอาพวกมันแข้งขาสั่นไปหมด “เอ่อ...อย่าฆ่าพวกเราเลยนะครับ เราเห็นว่าน้องคนนี้เดินคนเดียวเลยเป็นห่วง ก็เลย...เลยจะเดินไปส่งที่หน้าปากซอยเท่านั้นเอง” “ไม่จริงค่ะ พวกเค้ากำลังจะฉุดหนู” เธอเผลอกอดแขนเจษฎ์เอาไว้แน่น โดยไม่รู้เลยว่าการที่ท่อนแขนกำยำได้เสียดสีกับอกนุ่มของเธอมันกำลังจะทำให้เขาคลั่งตายอยู่แล้ว “ไม่ใช่นะครับ พวกเราไม่ได้...” “รีบไปซะ! ก่อนที่มือฉันจะลั่นแล้วเผลอยิงพวกแกไป ไปสิ!” แค่นั้นคนทั้งสามก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงกันไปอย่างรวดเร็ว เจษฎ์จึงได้หันมามองเธออีกครั้งด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป “ขึ้นรถ” “เอ่อ...หนู...” “รีบขึ้นรถ! หรืออยากให้พวกมันย้อนกลับมาลากเธอไปข่มขืนก่อน” เขาบอกเสียงดุเธอจึงได้รีบปล่อยมือแล้ววิ่งอ้อมไปขึ้นรถฝั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว ส่วนเจษฎ์ก็รีบก้าวขึ้นรถไปเช่นกัน ก่อนที่เขาจะทนฤทธิ์ยาไม่ไหวแล้วเป็นฝ่ายขย้ำเธอเสียเอง รถของเจษฎ์ขับมาถึงสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรติดขัดอย่างหนักเพราะดูเหมือนว่าด้านหน้าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอกังวลใจไม่ใช่เรื่องที่อยู่ตรงหน้า แต่เป็นคนข้างๆ ที่ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะกำเริบมากขึ้นทุกขณะ “คุณเจษฎ์...ไหวมั้ยคะ” เห็นเขาหน้าแดงมากกว่าเดิม มือที่จับพวงมาลัยก็ดูสั่น เม็ดเหงื่อผุดเต็มใบหน้าหล่อเหลาเธอก็กลัวว่าเขาจะช็อกตายอยู่ตรงนี้ ว่าแต่...เขาโดนวางยาอะไรกันนะ? “อย่าถาม” เสียงทุ้มบอกโดยไม่หันมามองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ “แต่หนูเป็น...เอ่อ...เป็นห่วงคุณนะคะ” เธอบอกพร้อมกับวางมือบนไหล่ของเขาและนั่นก็ทำให้ตัวของเขาสั่นมากกว่าเดิม “เอามือของเธอออกไป” เขาบอกเสียงพร่า เธอจึงได้รีบดึงมือกลับคิดว่าเขาคงจะรังเกียจเธอมากจริงๆ “ขอโทษค่ะ หนูแค่...กลัวว่าคุณจะเป็นอะไรไป ถ้าหากว่าคุณมีอะไรให้หนูช่วย...” “ช่วยอยู่เงียบๆ ไปเถอะ ให้ตายสิ เวรเอ๊ย!” เขาตวาดลั่นรถเล่นเอาเธอถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ หญิงสาวจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเอาไว้และไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เสียงลมหายใจของเจษฎ์กลับดังขึ้นเหมือนคนที่กำลังจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้ เมื่อเธอชำเลืองมองเขาก็เห็นว่าเขาฟุบหน้ากับพวงมาลัยรถนั้นแล้วกำพวงมาลัยเอาไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดที่หลังมือไปถึงช่วงแขนอย่างชัดเจน “คุณเจษฎ์เป็นอะไรไปคะ หายใจไม่ออกเหรอคะ” นาทีนี้เธอไม่สนใจว่าจะโดนเขาดุให้อีก เพราะความเป็นห่วงที่มีต่อเขามีมากกว่าอะไรทั้งหมด หญิงสาวเอื้อมมือไปลูบที่หน้าอกของเขาไปมาเพราะคิดว่าเขากำลังหายใจไม่ออกแต่เมื่อฝ่ามือน้อยสะกิดไปโดนบางส่วนที่อ่อนไหวบนอกแกร่ง ความอดทนทั้งหมดของเขาก็เหมือนจะสิ้นสุดลงทันที ร่างเล็กถูกสองมือใหญ่อุ้มมานั่งบนตักของเขาอย่างรวดเร็วโดยที่เธอตั้งตัวไม่ทัน และเมื่อท่อนล่างของเธอเสียดสีกับท่อนล่างในส่วนกลางกายของคนตัวใหญ่ เธอก็เริ่มจะเดาได้แล้วว่าเขาโดนยาอะไร แต่เธอก็อยากจะถามเขาให้แน่ใจเสียก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD