บทที่ 6 ประธาน

1438 Words
“คุณพิมา ผมตื่นเต้นมาก คุณดูสิ มือผมเย็นเฉียบเลย” ธีมกำลังตื่นเต้นกับการประชุมหัวหน้าทุกฝ่ายทุกคนประจำเดือน วันนี้ประธานจะมาพูดคุยการดำเนินแผนงานในเดือนถัดไปและสรุปผลงานเดือนที่ผ่านมา หลายคนที่ต้องออกหรือลดตำแหน่งก็ตัดสินกันที่วันนี้แหละ ที่สาขาเก่าก็มีการประชุมแบบนี้แต่เขาก็ไม่ได้เกร็งขนาดนี้เลย “ใจเย็นค่ะหัวหน้า ยังไงคุณก็ผ่านฉลุย ดูจากยอดขายของตลาดที่เพิ่มมาถึง 0.3% คุณต้องได้รับคำชมแน่ค่ะ” “ผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะพาทุกคนในแผนกไปเลี้ยงฉลองกัน” “สู้ ๆ ค่ะหัวหน้า” พิมายื่นกระเป๋าเอกสารให้ธีม ห้องประชุมใหญ่บริษัท ธีมมองคนในห้องมากมายตอนนี้ มีทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จัก บางคนก็เป็นผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท เขาไม่ชอบความกดดันแบบนี้เลย เขารู้สึกว่าห้องที่เปิดแอร์นี้ยังไม่เย็นเท่าความตื่นเต้นในใจเขาตอนนี้เลยสักนิด “ท่านประธานมาแล้วครับ” ทันทีที่ร่างของคนที่ทรงอำนาจที่สุดเดินเข้ามา ทุกคนก็ลุกขึ้นและโค้งตัวให้ ธีมลุกขึ้นทำตาม “สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านประธาน” “สวัสดีค่ะทุกคน นั่งลงเถอะค่ะ” เสียงยังดูสาวอยู่เลยแฮะ แต่ก็นั่นสินะ เพิ่งจะ 30 กว่าเองนี่ “เอาละค่ะ ฉันได้รับรายงานประจำเดือนของทุกแผนกแล้ว เดี๋ยวคุณเอกจะเป็นคนแจกแจงแผนกที่มีความก้าวหน้ากับแผนกที่ไม่มีอะไรเลยให้ทุกคนฟังนะคะ” พรีม ประธานของการประชุมครั้งนี้ยกมือประสานกัน 2 ข้างวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และไปสะดุดตากับคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา อาจจะเพราะตื่นเต้นละมั้ง ไม่เห็นเก่งเหมือนวันที่สอนเธอวันนั้นเลย ระหว่างนั้นเอกก็เริ่มอธิบายผลประจำเดือนให้ทุกคนฟังผ่านหน้าจอใหญ่ที่ฉายเป็นกราฟความคืบหน้า “และแผนกที่เติบโตขึ้นมากที่สุดคือแผนกการตลาดครับ คิดเป็น 0.39% หรือรายได้ประมาณ 895 ล้านบาท และผู้ที่ทำให้แผนกเติบโตขึ้นมามากคือหัวหน้าฝ่ายคนใหม่ คุณภมร กิตติศักดิ์ครับ” แปะ ๆ แปะ ๆ เสียงตบมือรัวดังขึ้น เจ้าของชื่อลุกขึ้นยืนเพื่อขอบคุณเสียงปรบมือจากทุกคนในห้อง แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเขามองไปที่หัวโต๊ะซึ่งมีผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดนั่งอยู่ แต่พอเห็นว่าเป็นใครเขาก็แทบเข่าอ่อน ดีนะที่คว้าเก้าอี้นั่งไว้ทัน ธีมนั่งลง มือเขาตอนนี้เย็นเฉียบกว่าเดิม หัวใจก็เต้นรัว บักธีมเอ๊ย มึงจะโดนไล่ออกก็มื้อนี้ละ (ไอ้ธีม มึงถูกไล่ออกวันนี้แหละ) ธีมลองมองไปที่หัวโต๊ะอีกครั้งและดูเหมือนอีกฝ่ายก็จับจ้องเขาอยู่ มองแบบนั้น จำเขาได้สินะ... โอ๊ยยย มึงตาถั่วจริง ๆ มองประธานเป็นเด็กฝึกงานแถมยังทำตัวรุ่มร่ามใส่อีก ไม่พอยังไปว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ ต่อหน้าอีก การประชุมผ่านไปด้วยดี ธีมถอนหายใจยาว ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ถูกไล่ออกต่อหน้าทุกคน แต่นั่นก็เป็นหลักประกันไม่ได้ เขาต้องไปยอมรับผิดก่อน ธีมยืนรออยู่หน้าห้องประชุมจนคนหมดไปแล้ว เลยเข้าไปคุยกับเลขานุการของท่านประธานที่ยืนส่งทุกคนอยู่หน้าประตู “คือว่า... คุณเลขาฯ ผมมีเรื่องจะรบกวนครับ” “เรียกผมเอกก็ได้ครับหัวหน้าฝ่าย” เอกยิ้มตอบรับคนที่เดินเข้ามาหา “ครับคุณเอก ผมธีมนะครับ... คือผมมีเรื่องอยากจะให้คุณช่วยหน่อยครับ” “เรื่องอะไรลองว่ามาได้เลยครับ” “ผมอยากพบท่านประธานครับ ช่วยบอกท่านให้หน่อยได้หรือเปล่า” “ได้ครับ ตอนนี้ท่านประธานยังอยู่ข้างใน คุณธีมรออยู่ตรงนี้สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปแจ้งให้” “ขอบคุณครับ” หลังจากที่เอกเดินเข้าไปด้านใน ธีมก็ได้แต่เดินวนไปมาอยู่หน้าห้องด้วยความกระวนกระวายใจ ทันทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออกอีกครั้ง เขาก็พุ่งตัวไปหาคนที่เดินออกมาทันที “ท่านประธานว่ายังไงบ้างครับคุณเอก” “ท่านให้คุณเข้าพบได้ครับ เชิญครับ” เอกเบี่ยงตัวให้ธีมเดินเข้าไป ก่อนจะเดินตามเข้าไป ธีมมองคนที่ตั้งใจอ่านเอกสารในมือไม่สนใจเงยหน้าขึ้นมองเขาที่เดินเข้ามาเลยสักนิด ใครจะคิดว่าคนอายุ 30 กว่าปีจะน่ารักแบบนี้ล่ะ ใครที่ไม่รู้ก็คิดว่าเป็นนักศึกษาอยู่ทั้งนั้นแหละ “เอาละ มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ คุณหัวหน้าฝ่ายการตลาด” พรีมเงยหน้าจากเอกสารในมือและหันไปมองคนที่ยืนตัวเกร็งอยู่ “เอ่อ... คือ...” ธีมอึกอักเพราะตอนนี้ยังมีเลขานุการยืนอยู่ เขาเลยไม่กล้าพูด “คุณเอก รบกวนออกไปรอข้างนอกก่อน” “ครับ” เอกเดินออกไปตามคำสั่ง “ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับท่านประธาน” ธีมพูดหลังจากที่ประตูห้องปิดลงสนิทแล้วและก้มตัวลงแทบจะ 180 องศา “ขอโทษฉันเรื่องอะไรเหรอคะ เราเคยเจอกันด้วยเหรอ” แม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วพรีมกำลังสนุกกับการแกล้งอีกฝ่ายที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวตรงหน้าต่างหาก ตัวก็ออกจะใหญ่ แต่ใจเสาะจริง ๆ เหมือนลูกหมาตกน้ำไปได้ “ผมขอโทษที่เสียมารยาทกับท่านประธานในลิฟต์ครับ” “เราเคยเจอกันในลิฟต์ด้วยเหรอ คนที่นายเจออาจจะเป็นเด็กฝึกงานมหา’ลัยหรือเปล่า” จึก !! เหมือนมีดปักลงที่กลางหัวใจ “ผมขอโทษครับ อย่าไล่ผมออกเลย” ธีมก้มตัวลงและหลับตาปี๋ด้วยความกลัว “คิก ๆ” เสียงปิดปากกลั้นขำทำให้ธีมเงยหน้าขึ้นไปมอง “ท่านประธาน” “เอาละ คุณ...” “ธีมครับ ผมธีม” “ค่ะคุณธีม ฉันไม่คิดจะไล่คนมีความสามารถออกเพราะเรื่องพวกนี้หรอกนะคะ” “แต่ว่า...” “คุณจะบอกว่าฉันก็ทำมันตลอดใช่ไหม” ธีมพยักหน้ารัว ๆ จะมาทำให้เธอยกโทษให้ แต่พอเธอถามแทนที่จะเอาใจกับยอมรับสิ่งที่พูด จะบอกว่าโง่หรือซื่อบื้อดีนะผู้ชายคนนี้ “คุณนี่ซื่อตรงกับตัวเองหรือซื่อบื้อมากกันแน่นะ” “ขอโทษครับ” ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร แต่ธีมก็ขอโทษไว้ก่อนแล้ว “เลิกขอโทษเถอะ ฉันจะบอกอะไรคุณอย่างหนึ่ง หัวหน้าฝ่ายคนเก่าของแผนกพวกคุณทำงานดีก็จริง แต่เขาลวนลามพนักงานของบริษัทฉัน ทำงานดีแค่ไหนฉันก็ไม่เอาไว้หรอกนะ แต่ที่ฉันไม่ไล่ออกเพราะเหตุผลนี้เพราะยังอยากให้เขาหางานทำที่อื่นได้” พรีมอธิบายสิ่งที่ธีมเคยพูดกับเธอตอนอยู่ในลิฟต์ ที่จริงเธอไม่ต้องมานั่งอธิบายให้คนตรงหน้าฟังเลยด้วยซ้ำ มันเป็นแบบนั้นมาตลอดหลายปีที่เธอไม่เคยคิดแม้จะอธิบายอะไรกับใครฟัง แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกว่าอย่างน้อยให้ใครสักคนเข้าใจการกระทำของเธอบ้างก็ยังดี “คือผมขอโทษที่ตัดสินคนเพียงแค่ฟังคำพูดจากคนอื่นครับ” “เอาละค่ะ คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ และอีกอย่าง ถ้าฉันคิดจะเอาเรื่องคุณคงไม่ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ เพราะงั้นคุณสบายใจได้ แค่คุณไม่ทำผิดกฎและทำให้บริษัทฉันเสียหายก็พอแล้ว” “ครับท่านประธาน” “เรียกฉันพรีมก็ได้” “ครับคุณพรีม” “ออกไปได้แล้วค่ะ” “ครับคุณพรีม” ธีมเดินออกไปตามคำสั่ง ทำเอาพรีมที่นั่งมองอยู่ถึงกับขำออกมา หมอนี่เป็นหมาหรืออย่างไร เชื่องจริง ๆ เอกที่เปิดประตูเข้ามาก็อดสงสัยไม่ได้ที่เห็นท่าทีของพรีม เขาไม่เห็นพรีมอารมณ์ดีจนยิ้มกว้างแบบนี้นานแล้วนะ ผู้ชายคนนั้นมีอะไรพิเศษหรือเปล่า เอกอดที่จะคิดและหงุดหงิดใจไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD