สิ่งที่เธอกับครอบครัวทำไว้...แค่คำว่าขอโทษของเธอ คิดว่ามันจะหายกันอย่างนั้นเหรอ ฉันเฝ้าภาวนา...อย่าให้โลกเหวี่ยงเธอมาเจอกันอีกเพราะผลกรรมที่เธอจะได้รับมันจะสาสมเลยทีเดียวล่ะ ภาพที่ทั้งสามคนที่เดินเข้าไปในห้องนอนของหนูยิ้มเห็นคือ เด็กหนุ่มสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่านอนกอดกัน โดยที่หนูยิ้มกำลังหลับซบอยู่ในอ้อมแขนของวาตะ ซึ่งขณะนั้นทั้งสองคนหลับทั้งคู่ “วาตะตื่น ตื่นเดียวนี้ลูก” นวลจันทร์เดินเข้าไปปลุกหลานชายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ “มีอะไรกันครับ” วาตะเอ่ยถามด้วยเสียงที่งัวเงียเพราะเพิ่งตื่น แถมตอนนี้เขายังปวดหัวอีก “เกิดเรื่องขนาดแกยังจะมาถามอีกว่าเกิดเรื่องอะไร” วาตะมองใบหน้าของยายอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ยายของเขากำลังพูด “หนูยิ้มลูก หนูยิ้ม” โฉมฉายเรียกลูกสาวของตัวเองที่ยังคงหลับใหลอยู่นาน และเพียงไม่นานหนูยิ้มก็ตื่นขึ้น “แม่มีอะไรเหรอคะ” “เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูกับพี่เขา” “จะอะไรก็ช่างเถอะ วาตะแต่งตัวแล้วกลับบ้าน” นวลจันทร์พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “กลับได้ยังไง ลูกของฉันเสียหายนะยาย” โฉมฉายเอ่ยออกมาเพราะเธอไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายไปทั้ง ๆ ที่ทิ้งลูกของเธอไว้แบบนี้ “หนูยิ้มบอกไปสิลูกว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น แล้วเราเป็นอะไรกับพี่เขา” แม่ของหนูยิ้มบอกให้ลูกสาวพูดออกมา “เอ่อคือว่า…เมื่อวานนี้หนูยิ้มไม่รู้” “งั้นเป็นอะไรกับวาตะ” เพ็ญประภาเอ่ยถามพร้อมมองใบหน้าของอีกฝ่าย “แฟนค่ะ…ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว ให้หนูยิ้มแต่งงานกับพี่วาตะได้ไหมคะ” หนูยิ้มที่บอกสถานะตัวเองออกไปว่าเป็น ‘แฟน’ ทั้งที่วาตะยังไม่เคยบอกหนูยิ้มออกไปเลย เขาที่มีความรู้สึกดีๆ ให้แต่เนื่องจากหนูยิ้มยังเด็กมากเขาจึงยังไม่ได้คิดไปถึงขึ้นนั้น “หนูยิ้ม” วาตะที่ได้ยินแบบนั้นทั้งโกรธทั้งโมโห เขาเดินออกไปจากบ้านหนูยิ้มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ เพราะสิ่งที่หนูยิ้มบอกออกมานั้นเหมือนเป็นการยอมรับว่าทั้งคู่มีอะไรเกินเลยกันไปแล้ว ......................................... “ สามแสน เรื่องนี้จะจบ” เลิศชัยพ่อของหนูยิ้มคิดอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมา แต่เขาเชื่อว่าพ่อและแม่ของวาตะจ่ายให้พวกเขาได้ “ได้ แต่ลูกสาวคุณจะต้องห้ามเข้าใกล้ลูกชายของพวกเราอีกต่อไป” ทศพลอยากให้เรื่องทั้งหมดจบลง เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว คือ พ่อแม่ของวาตะจบเรื่องนี้ด้วยเงินสามแสนบาท และห้ามให้หนูยิ้มติดต่อกับวาตะอีกเข็ดขาด ทั้งวาตะและหนูยิ้มไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย 4 ปีต่อมา ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง อเบรนตัน ตอนนี้มีเหล่านักศึกษาทั้งเก่าและใหม่ที่เดินทางเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ทำให้เหล่านักศึกษามารวมตัวกันมากมายแต่มีเฟรชชี่สาวคนหนึ่งที่มีผิวขาวผ่องออร่าราวกับไข่มุกทำให้เธอดูสวยจนน่าจับจ้องมอง “น้องคนสวยชื่ออะไรเหรอครับ” เสียงทักทายที่ดังออกมาทำให้เจ้าของใบหน้างามนิ่งมองไปยังอีกฝ่าย “หนูยิ้มค่ะ” “วาตะ/วาตะ/วาตะ” “ห๊ะ” วาตะตกใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ เพื่อนก็เรียกตัวเองด้วยเสียงที่ดัง “ขอร้องโลกอย่าเหวี่ยงเธอมานะเพราะผลกรรมที่เธอจะได้รับมันจะสาสมเลยล่ะ” ไม่มีนอกกาย ไม่มีนอกใจ #วาตะทวงคืนรัก ขอเรียนนักอ่านที่น่ารัก โปรดทำความเข้าใจก่อนอ่านนะคะ เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้เกี่ยวกับความรักของชายหญิง เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นการสมมติขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียน จึงอาจจะมีบทที่ไม่เหมาะสมและไม่สมจริง เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวกับการร่วมเพศ ตัวละครมีความสีเทาอาจไม่สมเหตุผล บางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่ควรทำตามหรือลอกเลียนแบบ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ขอให้นักอ่านที่น่ารักสนุกกับการอ่านนิยาย และสุดท้ายนี้โปรดแสดงความคิดเขียนอย่างสุภาพ ให้เกียรติซึ่งกันและกันค่ะ ........................................ นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
เพราะชีวิตไม่ได้สวยหรูเหมือนเจ้าหญิงในนิยาย มันจึงเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องกระเสือกกระสนที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ‘เพลงรัก’ หญิงสาววัย 20 ปีที่มีชะตาแสนอาภัพ ต้องกระเสือกกระสนทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัวตั้งแต่อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่ในสลัมหลังเล็กริมคลอง ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่รู้จักคำว่า ‘ความอบอุ่น’ ตั้งแต่จำความได้มาเธอไม่เคยเห็น ‘ตัวอย่างที่ดี’ จากคนที่ได้ชื่อว่าแม่เลยสักครั้ง “อีเพลงรัก! นี่มึงกล้าซุกเงินกูเหรอ!!” “แม่!! แต่นั่นมันเงินที่หนูจะเอาไปจ่ายค่าเทอมนะ อย่าเอาไปเงินของหนูไปเลยนะแม่” "เงินที่มึงได้มามันก็คือเงินกู! ถ้ามึงยังซุกเงินกูอีก กูจะให้พ่อเลี้ยงลากมึงไปขายตัวซะให้เข็ด!!" “แม่!!” ในตอนที่เธอคิดว่าชีวิตกำลังจะจบสิ้นทุกอย่าง ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ ทุกอย่างรอบตัวเธอดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับเขา ‘การันต์’ มาเฟียหนุ่มวัย 28 ปี ผู้เจนจัดสนามกาม ชายหนุ่มผู้ครอบครองธุรกิจสีขาว สีเทา และสีดำทั้งในและต่างประเทศแบบนับไม่ถ้วน ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใคร และยังไม่มีใครที่จะเข้ามาในสายตาเขาเลยสักคน.. จนกระทั่งได้มาเจอกับเธอ “คุณ.. สนใจรับเลี้ยงผู้หญิงสักคนไหมคะ” “อะไรนะ!” “ให้หนูทำอะไรก็ได้ งานบ้านงานเรือน ซักผ้า ถูบ้าน กวาดบ้าน หุงข้าว หนูทำได้หมดเลย หรือว่า..” เธอหยุดนิ่งหลุบตาลงมองพื้นด้วยหัวใจที่เต้นรัว ลมหายใจกระตุกขาดห้วง ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นและพูดต่อด้วยเสียงที่เบาเสียจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ “จะให้เป็นผู้หญิงของคุณก็ได้” “นี่เธอกำลังจะขายตัวให้ฉันเหรอ” “หนู..” “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร.. เธอแน่ใจเหรอว่าเธอสะอาดพอจะเอาตัวมาเสนอให้ฉัน” กรันย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พร้อมทั้งใช้สายตาที่คมกริบกวาดมองใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้าอย่างดูแคลน “ฉันไม่ชอบกินของเก่า ของมือสอง หรือของที่ใครใช้แล้วหรอกนะ!” //////// การันต์ : เพลงรัก ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของ #เดิมพันรักลับ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวมาเฟีย ธงส้ม ธงแดง พระเอกทำธุรกิจมืด มือเปื้อนเลือด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในตอนที่นางเอกเสนอตัวให้กับเขา มาเฟียหนุ่มคนนี้ก็กวาดสายตามองแล้วว่า เธอสามารถเป็นสินค้าให้เขาได้ ส่วนนางเอกมาจากจุดต่ำสุดของชีวิต ตั้งแต่จำความได้ถูกแม่ทุบตีมาตลอด เด็กคนหนึ่งที่เห็นแม่เอาผู้ชายเข้ามามีอะไรกันในบ้าน โดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะกำลังมองอยู่ เป็นแบบนั้นตั้งแต่จำความได้จนอายุ 20 ปี จนวันที่ความรู้สึกสุดท้ายของเธอถูกครอบครัวทำลายลง เธอยอมที่จะเอาตัวเข้าแลกให้กับผู้ชายที่เพิ่งเห็นหน้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากสิ่งที่ได้ชื่อว่าครอบครัว ยอมเป็นเด็กเลี้ยง เด็กลับ หรืออะไรก็ได้ตามที่เขาอยากให้เป็น โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวตนจริง ๆ ของผู้ชายตรงหน้านั้นเป็นใคร!
คำโปรยตัวเอกที่จับฉลากได้บทพระเอกเขาหล่อ เขารวย เขาK...ใหญ่คำเตือน ทั้งนอกกาย ทั้งนอกใจ #เตือนแล้วนะ #อย่ามาด่าที่หลังละ ในวันที่พระเอกขอหย่า...กลับกลายเป็นตอนสุดท้ายของนิยาย ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบยังไง?เพราะไรท์....ได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ริมฝีปากชายหนุ่มยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะมันคือถ้อยคำที่เขาอยากได้ยิน สายตาทอดมองนางนิ่งนาน ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำลงชิดหู "เช่นนั้นคืนนี้...ข้าจะเบาแรงลงให้ดีหรือไม่?" เขาเว้นจังหวะเพียงครู่เดียว ก่อนกระซิบต่อ "ทว่า...ข้ากลับรู้สึกว่าตอนที่ข้า ไม่ออมแรง เจ้าจะดู...ชื่นชอบกว่ามาก"
ฟรินท์ ปารวัตร บวรกิจวัฒนาอายุ 24 ปี 187/70 รองประธานบริษัทบวรกิจวัฒนาจำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างใหญ่ติดอันดับของประเทศนิสัย เป็นสุภาพบุรุษ มีเหตุผล แต่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนไร้เหตุผลเพราะความเจ็บปวดที่ผ่านมาเรนเดียร์ รสิตา อัศวรักษ์โกศลอายุ 25 ปี 165/49 ผู้จัดการแผนกวางแผนการตลาดบริษัทอัศวรักษ์จำกัด ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทอยู่มากมายทั่วประเทศนิสัย เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ยอมคน ร้ายมาร้ายกลับ เพราะกลัวว่าจะเสียเขาไปเลยไม่กล้าเปิดเผยความรักของตัวเองความสัมพันธ์ของเขาและเธอ ที่ถูกปิดบังมาตลอด3ปี 'ฝ่ายหนึ่งอยากเปิดเผย ฝ่ายหนึ่งอยากปิดบัง'"เรื่องของเรามันยากเกินไปหรือเปล่า""นายอยากบอกทุกคนเรื่องของเราเหรอ""แล้วเธอจะให้เราเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่"อยู่ไปก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ดีพอ ให้เธอประกาศตัวเองกับใคร"ฉันอยากรู้ว่าฉันไม่ดีพอจะเป็นคนรักของเธอเหรอ ทำไมเธอทำแบบนี้กับฉัน”“ฉันก็บอกนายแล้วไงว่าขอเวลาอีกนิด ทำไมนายไม่เข้าใจฉันบ้าง”จากความรักเปลี่ยนเป็นความน้อยใจ เสียใจ จนในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นความแค้นเคือง อะไรคือจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ครั้งนี้ และใครต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดมากกว่ากัน"ฉันเป็นคนดีเธอไม่ชอบ เธอบีบให้ฉันต้องร้ายเองนะ"
เรื่องราวของพี่พายุและน้องเจ้าขา ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้นจาก ‘วันไนท์สแตนด์’ ที่เมื่อมันเริ่มขึ้นแล้วเขากลับไม่ได้คิดจะจบเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะเขาล็อกมงเธอไว้ตั้งแต่แรกเห็น “เพิ่งเคยเจอของถูกใจ ใครจะโง่ปล่อยไปง่าย ๆ วะ”
ทะเล & โลมา โลมาเป็นสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม มักจะอาศัยอยู่ในทะเลและความน่ารักสดใสขี้เล่นของมัน ทำให้ผู้คนที่พบเจอกลับต้องหลงอยู่เรื่อย แม้กระทั่ง ทะเล สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เป็นที่พักพิงอาศัยแก่สัตว์น้ำแต่สำหรับทะเลแห่งนี้ไม่ว่าจะมีสัตว์น้ำชนิดไหนอาศัยอยู่ก็ตาม เขาจะโอบกอดและปกป้องสิ่งเดียวเท่านั้น คือ.... โลมา เรื่องราวความรักของรุ่นพี่วิศวะปี 3 ชายหนุ่มผู้มีชื่อว่า ทะเล เขาตกหลุมพรางรัก รุ่นน้องสถาปัตย์ ปี 1 อย่างน้องโลมา ตั้งแต่แรกพบ จึงทำให้เกิดที่มาของคำว่า ทะเลแอบชอบน้องโลมามา 3 ปี พอรู้ว่าน้องจะบินไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว พี่ทะเลคนนี้มีเหรอจะยอมปล่อย! ก็บินตามน้องไปเลยสิ ญี่ปุ่นมันก็แค่ปากซอยครับ แอบชอบ 3 ปี ตามจีบ 3 วัน ทะเลได้น้องมาเป็นแฟน คนพี่จีบยังไงเอ่ยถึงจีบน้องติดเร็วขนาดนี้..... #ทะเลโอบโลมา #ทะเลคนคลั่งรัก #เจ้าโลมา #โลมาเจ้าแผนการ
เรื่องราวของคุณหนูทั้งสามในตระกูลผู้ดีที่เสียตัวให้กับคนสวน คนขับรถ ยาม และคนงานในโรงงาน แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุม nc 3p 18+ ภายใต้ร่มเงาของตระกูลวรกุลแห่งนี้ คุณหญิงยายผู้สูงศักดิ์อาศัยอยู่กับหลานสาวสุดที่รักทั้งสามคน ชฎา ฤดี และรตา พวกเธอคือดรุณีแสนสวยที่เติบโตมาในความหรูหราและเพียบพร้อมทุกประการ คุณชายกับคุณหญิง ผู้เป็นพ่อแม่แท้ๆ ของพวกเธอ ได้เดินทางไปตั้งบริษัทขยายกิจการส่งออกผ้าไหมของคุณหญิงยายอยู่ที่ต่างประเทศ นานๆ ครั้งถึงจะกลับมาบ้านเพื่อเยี่ยมลูกสาวทั้งสาม ปีละหนสองหน ทำให้คุณหญิงยายคือผู้ปกครองหลักของหลานสาวทั้งสามคน