ลองรักน้องเมีย นิยายสุดร้อนแรงและเร้าอารมณ์ ใบบัว สาวน้อยแสนบริสุทธิ์ผุดผ่อง สวยสะพรั่งจนทำให้ผัวพี่สาวที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ แล้ว ธรรม์ จะทำอย่างไร ในเมื่อยิ่งนับวันเขาอดรนที่จะอดทนไม่ได้ กับการได้ลองรัก...น้องเมีย นิยายแซ่บในทรวง ของวานิลลาอีกเรื่องค่ะ
ไม่ใช่เลยง่ายที่แสนหวานต้องรับมือกับท่านประธานหน้าดุปากร้าย เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลอย่างบารเมษฐ์ แต่เพราะความหล่อเหลาชนิดหาตัวจับยากกับทริปหนักที่เธอได้รับยามที่เขาไหว้วานเธอนอกเหนือเวลางานทำให้แสนหวานอดทนมาถึงทุกวันนี้ แต่จู่ๆ ท่าทีของท่านประธานที่น่าหยุมหัวที่สุดแห่งปีก็พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาชอบกลั่นแกล้งให้เธอใจสั่น ทั้งยังเอ่ยปากให้เธอเรียกเขาว่าที่รักแบบนี้มันไม่ปกติ หรือว่าเขาอยากไล่เธอออกจากงานเลยกลั่นแกล้งกันให้เธอทนไม่ไหวจนยอมลาออกไปเอง ไม่มีทาง เธอจะไม่ยอมลาออกทั้งที่ไม่มีความผิดเด็ดขาด ถ้าเขาแกล้งมาเธอ…เธอก็จะสู้กลับ
เพราะรำคาญผู้หญิงที่เข้ามาวอแวในชีวิต แต่ท่านประธานกลับมาเสียท่าได้เสียกับพริตตี้สาวสวยที่สนามแข่ง..พอตื่นมาเธอนั้นหายไป..เมื่อได้เจอเธออีกครั้งท่านประธานอย่างเขาจึงยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเธอ!! "ปล่อยฉันนะโว้ย ปล่อย!!" "เท่าไหร่?" "ฉันไม่ได้ขายตัว" เพี๊ยะ เพี๊ยะ "เล่นตัวโกงราคาว่างั้น" คิ้วเข้าเลิกขึ้นสูงลิ้นดันกระพุ้งแก้มท่าทางกวนประสาท "ฉันมีศักดิ์ศรีของฉันนะคุณ" " ห้าล้าน รายเดือนละหนึ่งแสน" "ตกลง เห็นว่าคุณน่าสงสารหรอกนะ ไม่งั้นฉันไม่ช่วยหรอก" "ไอ้คุณกองท้พ ฉันท้องได้ยังไง ห๊ะ!!" "ใจเย็น ๆ ครับเมีย" "ฉันป้องกันดีมาตลอด แล้วทำไมฉันถึงท้องได้" "ก็ผัวน้ำยาดีไงเมีย"
แต่งแค่ในนาม แต่พี่ก็ขยันสะกิดเมียจัง ปากบอกเมียไก่อ่อน แต่พอเมียอ้อน พี่ก็เหลวเป็นขี้ผึ้ง ที่บอกไว้ว่า 99 วัน เราจะหย่ากัน แน่ใจนะว่าพอถึงวันนั้น พี่จะไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ********* อคิณ : อายุ 28 ปี เป็นรองประธานบริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ เคร่งขรึม เย็นชา และมั่นหน้า เรนนี่ : อายุ 22 ปี เป็นลูกสาวของเพื่อนรุ่นน้องของแม่อคิณ ครอบครัวทำกิจการร้านทองหลายสาขา น้องน่ารัก สดใส อคิณถูกแม่บังคับให้แต่งงานกับเรนนี่ ทั้งสองเคยหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่อคิณ 18 ปี เรนนี่ 12 ขวบ อคิณไม่อยากแต่งแต่ก็ยอมแต่งเพราะไม่อยากมีปัญหากับแม่ เขาคิดว่าจะแต่งไปก่อน แล้วค่อยไปต่อรองกับน้องอีกที ว่าจะหย่ากันตอนไหน ส่วนเรนนี่นั้นยังไงก็ได้ เพราะเธอเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังพ่อแม่ เข้าหอคืนแรก เจ้าบ่าวก็ยื่นข้อเสนอ 99 วันจะขอหย่า เขาจะบอกพ่อแม่ว่า เราจะหย่ากันเพราะเข้ากันไม่ได้ และเขาจะไม่แตะต้องน้องแม้แต่ปลายก้อย ไม่แตะปลายก้อย แต่พี่หม่ำ ๆ น้องทั้งตัวเลยจ้า สายตาก็มองหาแต่น้อง หลงยิ่งกว่าอะไร หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ สรุปแล้วพอครบ 99 วัน พี่จะหย่าจริง ๆ เหรอคะ ******** *คำเตือน* เรื่องนี้ไม่เน้นปมนิยาย เน้นคลายปมผ้าขนหนูพระเอกค่ะ นิยายโรมานซ์ ละมุนใจ หมั่นไส้พระเอก นางเอกน่ารัก ไม่มีความประสาทแดก มีแต่พระเอกจับน้องหม่ำแทบทุกวัน ^^!
บัวชมพูต้องเข้าพิธีแต่งงานกับศาตรา เขาเป็นเจ้าของปางไม้ชื่อดังเมืองเหนือ แทนพี่สาวที่หนีตามชายชู้ไปในวันแต่งงาน เธอต้องทำหน้าที่แทนพี่สาวทั้งที่ไม่ใช่คนรักของเขา แต่บัวชมพูก็ทำตามหน้าที่ทุกอย่าง ด้วยความเต็มใจ
เพลงท้องค่ะ!!!!!! แน่ใจใช่ไหมว่าเด็กในท้องคือ….ลูกของพี่???? ประโยคนี้ เปลี่ยนชีวิตคนสองคนไปอย่างสิ้นเชิง ความผิดพลาดคือสิ่งที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งรับและคาดไม่ถึง ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว หญิงสาวก็พร้อมจะรับผิดชอบกับอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมา ส่วนผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อกลับบอกให้เธอ... ไปเอาเด็กออกซะ
ซุนเหยา เธอเรียนจบด้านการตลาด และด้วยความชื่นชอบด้านอาหาร เธอจึงเลือกที่จะเปิดร้านอาหาร ทั้งรสชาติอาหารที่ถูกปากทุกช่วงวัย ภายในร้านของเธอยังตกแต่งได้อย่างสวยงาม มุมต่างๆ ของร้านจึงดึงดูดใจให้คนเข้ามานั่งกินและถ่ายรูปลงโซเซียล เพียงไม่กี่เดือนร้านของเธอก็เป็นที่พูดถึง จนทำให้เกิดสาขาอื่นๆ ตามมา ซุนเหยาเธอจึงต้องเดินทางไปตรวจร้านตามสาขาต่างๆ เพื่อคงมาตรฐานเดิมไว้ได้มากที่สุด วันนี้ซุนเหยารู้สึกมึนหัว แต่ผู้จัดการโทรมาหาเธอ เรื่องให้เข้ามาตรวจสินค้าที่สั่งซื้อมาตุนไว้ในโกดัง เธอจำต้องแบกสังขารขึ้นรถไปที่โกดังนอกเมืองปักกิ่งทันที ภายในโกดังขนาดใหญ่ ซุนเหยาเดินตามผู้จัดการ เพื่อดูสินค้าที่สั่งมาว่ามีคุณภาพหรือไม่ หากพบว่าไม่ได้คุณภาพจะได้แจ้งเปลี่ยนได้ทัน เธอไม่ได้มีเพียงโกดังเดียว เมื่อมีสาขาจำนวนมาก ย่อมต้องมีหลายโกดัง เพื่อกักตุนสินค้าให้เพียงพอกับทุกสาขา “โอ๊ยย” ซุนเหยาร้องออกมาเบาๆ เมื่อข้อมือของเธอไปเกี่ยวเข้ากับชั้นวางของจนเลือดไหลซึมออกมา “คุณเหยา ทำแผลก่อนไหมครับ” ผู้จัดการมองข้อมือขาวงามอย่างเป็นห่วง “ไม่เป็นไรค่ะ ตรวจงานให้เสร็จก่อน แผลแค่นี้ ไม่เป็นไรมากค่ะ” เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมามัดข้อมือไว้ ซุนเหยาเธอไม่ได้สังเกตเลยว่ากำไลหยกที่ได้มาจากคุณย่ามันเปล่งแสงออกมาวูบหนึ่งก่อนจะหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเดินตรวจของจนเสร็จ ซุนเหยาก็บอกลาผู้จัดการ แล้วขึ้นรถกลับบ้านทันที ยังดีที่เธอมีคนขับรถ ไม่เช่นนั้นวันนี้เธอคงขับรถเองไม่ไหว หลายวันที่ผ่านมา ซุนเหยามัววุ่นวายอยู่กับการเปิดร้านสาขาใหม่ที่ปักกิ่ง สาขานี้เธอตั้งใจอย่างมาก เพราะมีขนาดใหญ่กว่าทุกสาขาที่เปิดมา เธอตรวจงานด้วยตนเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิด เมื่อขึ้นรถได้ เธอก็หลับเป็นตาย ซุนเหยาขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงแปลก ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “คุณโจว คุณช่วยปิดเพลงให้ฉันหน่อยค่ะ” เธอพูดสั่งคนขับรถ เพราะตอนนี้เขากำลังกวนเวลานอนของเธออยู่ “...” ซุนเหยาเริ่มจะทนไม่ไหว กับเสียงเพลงที่ไม่ได้เบาลงเลย เธอจึงลืมตาขึ้นมาอย่างโมโหคิดจะต่อว่าคุณโจวเสียหน่อย แต่แล้วดวงตาคู่งามกลับเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ความจริงเธอต้องอยู่ในรถหรูที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่ในตอนนี้ เธอกำลังนั่งอยู่ในกล่องสีแดง ซุนเหยารีบเปิดผ้าม่านเพื่อมองออกไปด้านนอก เธออยากจะรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ใส่ชุดแดงที่เหมือนจะเป็นชุดเจ้าสาว “คุณหนูห้ามเปิดผ้าม่านเจ้าค่ะ” เสียงร้องตำหนิซุนเหยาดังขึ้น จนเธอต้องหดมือกลับอย่างทำตัวไม่ถูก ไม่สิ ไม่ใช่ ต้องมีคนแกล้งเธอแน่นอน หรือจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ที่เห็นเธอยุ่งกับงานจนไม่หาแฟนเสียที แต่เธอก็ไม่น่าจะไม่รู้ตัวถึงขนาดที่คนแต่งตัวแต่งหน้าให้แล้วยังหลับได้อีก แม้กระทั่งเกี้ยวหยุดลง มีคนเข้ามาประคองซุนเหยาลงจากเกี้ยวจนไปถึงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ซุนเหยาเธอก็ยังไม่ได้สติ เหมือนกับว่าเธอล่องลอยตามการชักจูงของผู้ที่ประคองเธออยู่เท่านั้น เมื่อเข้ามานั่งรออยู่ในห้องหอ เธอก็ยังมึนงงอย่างไม่เข้าใจ พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง ซุนเหยากำลังจะอ้าปากถามว่าที่นี่ที่ไหน แล้วเธอมาอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร เสียงเย็นชาก็เอ่ยขึ้นกับเธอเสียก่อน “ในเมื่อเจ้าแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ก็จงอยู่ดูแลจวน ดูแลมารดาของข้าให้ดี ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่ชายแดน” ซุนเหยายังไม่ทันได้อ้าปากถาม เขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไปเสียแล้ว แม้แต่ผ้าคลุมหน้าที่ปิดบังใบหน้าของเธออยู่ก็ยังไม่ถูกเปิด ซุนเหยามึนงง จนแปรเปลี่ยนเป็นความโมโห “เป็นใครมาพูดกับฉันแบบนี้” เธอดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วปาลงพื้น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วถอดเครื่องประดับออกทั้งหมด “เล่นบ้าอะไรกัน ออกมาเฉลยได้แล้ว ฉันชักไม่สนุกด้วยแล้ว” เธอตะโกนร้องออกมาอย่างหัวเสีย คำพูดของชายคนเมื่อครู่ทำให้เธออยากจะวิ่งเข้าไปข่วนหน้าของเขา กล้าดียังไงมาให้เธออยู่ดูแลบ้านดูแลแม่ของเขา เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เขาพูดว่าจวนไม่ใช่บ้าน ซุนเหยาเหมือนได้สติ เธอมองสำรวจไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตกใจ เครื่องเรือนไม่ใช่แบบที่เธอเคยเห็น แม้กระทั่งผนังห้องก็ยังเป็นดินแบบเรือนโบราณที่เธอเคยไปเที่ยวดูตอนเด็กๆ เธอรีบวิ่งไปที่ประตู เพื่ออยากจะดูให้แน่ชัดว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่ หรืออยู่ที่เมืองโบราณ แต่เพื่อนของเธอไม่น่าจะสามารถพาเธอเข้ามาแกล้งในสถานที่ประวัติศาสตร์เช่นนั้นได้ ด้านหน้าประตูห้อง มีสาวใช้ยืนขวางอยู่ เมื่อเห็นซุนเหยาที่ผมหลุดลุ่ย ทั้งใบหน้าตื่นตระหนกนางก็ร้องถามออกมาอย่างเป็นห่วง “เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะฮูหยิน ออกไปไม่ได้เจ้าค่ะ” สาวใช้ขวางซุนเหยาไว้ ทั้งยังดันตัวนางเข้าไปให้อยู่แต่ในห้องหอ เพราะเจ้าสาวที่แต่งงานในวันแรกมิอาจออกมาจากห้องหอได้ คงเป็นเพราะความตกใจที่ได้รับ ซุนเหยาหมดสติไปทันที สาวใช้จำต้องพาเธอกลับมาที่เตียงนอน ทั้งยังไปแจ้งหลีซื่อแม่สามีของซุนเหยาเรื่องที่นางหมดสติไป
ความเมาเป็นเหตุสังเกตุได้ เลขาฯ ตัวเล็กๆ อย่างแสนรักไม่คิดไม่ฝันว่าจู่ๆ จะตื่นขึ้นมาบนเตียงกับท่านประธานอย่างจีรรัชญ์ เพราะเกรงว่าจะถูกไล่ออกแสนรักจึงรักษาความลับนี้เอาไว้อย่างสุดกำลัง แต่ยิ่งปิดก็ยิ่งโป๊ะ แต่ที่เธองุนงงก็คือนอกจากจะไม่ถูกไล่ออกแต่เธอกำลังจะได้เป็นภรรยาท่านประธาน "อย่ามาพูดจากำกวมนะคะ คุณ...คุณจีรติดใจอะไรกันคะ" "ไม่รู้สิ เอาจริงๆ ผมก็จำความรู้สึกคืนนั้นไม่ค่อยได้สักเท่าไร แต่ถ้าให้ผมได้ลองอีกสักทีบางทีผมอาจจะบอกคุณได้ว่าผมติดใจอะไรบ้าง"