วิศวะหลงรักเด็กเลี้ยงอัปเดตเมื่อ Mar 6, 2025, 07:42
“คุณคะเดี๋ยวก่อน”
ร่างบางใบหน้าสวยหวาน รีบวิ่งตามเขามาจากด้านในผับ จนมาถึงลานจอดรถที่ปลอดคน จึงตะโกนเรียกเขาไว้
“เรียกผมเหรอ”
เขาหันกลับไป และถามเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ถ้าจำไม่ผิดเขาไม่เคยรู้จักเธอ
“ใช่ค่ะฉันเรียกคุณ”
เธอหยุดเดินด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ เมื่อเพื่อนรักอย่างทิชาชี้เป้าว่าคือเขา (ภูภูมิ)เธอจึงรีบลุกจากโต๊ะแล้ววิ่งตามมาอย่างเร็ว แต่ก็เกือบจะไม่ทันเมื่อเขาแค่เดิน แต่ช่วงจังหวะการก้าวนั้นยาวมาก
“เรียกผมทำไม เราเคยรู้จักกันเหรอ”
ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำพับครึ่งแขน กางเกงผ้าสแล็คสีดำ สวมนาฬิกาเรือนหรู ความสูง187เซ็นติเมตร ยืนเอามือล้วงกระเป๋า คิ้วหนาขมวดมุ่น เมื่อได้รับคำยืนยันว่าคนที่เธอเรียกคือเขา
“คือ ฉะฉัน อยากเป็นเด็กเลี้ยงของคุณ ฉันได้เงินคุณ คุณได้ร่างกายฉัน วินๆทั้งสองฝ่าย”
เธอรีบตอบเขาแบบตะกุกตะกัก แม้จะดื่มย้อมใจมาแล้วหลายแก้ว แต่พอได้เจอใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั่นแต่ง สายตาคมดุ คิ้วหนาดกดำเรียงกันสวย จมูกโด่งเป็นสันคมคาย
ถ้าใช้หั่นผักคงขาดวิ่น ก็ทำเอาใจดวงน้อย ที่เธอรวบรวมความกล้ามาเกือบ3ชั่วโมงเต้นตึกตักไม่เป็นท่า มือเล็กทั้งสองข้างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ กำชายกระโปรงตัวเองไว้แน่น สบตาคมดุที่มองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“อยากเป็นเด็กเลี้ยงของผมเหรอ”
เขามองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างบางในชุดสุดเซ็กซี่เย้ายวน กระโปรงสั้นจู้ดหน้าอกอวบตูมกระแทกตา แต่ดูแล้วคงยังไม่ถึง20 ใบหน้าสวยรูปไข่ดวงตากลมโตอย่างไทยแท้ ดูรวมๆแล้วเธอก็สวยมากทีเดียว แต่เขาไม่เคยซื้อกิน เพราะผู้หญิงส่วนมาก ก็เต็มใจขึ้นเตียงกับเขา
“ค่ะ ฉันอยากเป็นเด็กเลี้ยงของคุณ ในระยะเวลาที่เราตกลงกัน ฉันจะไม่ยุ่งกับคนอื่น ฉันจะนอนกับคุณแค่คนเดียว”
เธอมองหน้าเขาอย่างมีความหวัง เพราะเพื่อนเขาชี้เป้าว่าผู้ชายกลุ่มนี้รวยมาก และเธอก็เลือกเขา สาเหตุเพราะอะไรไม่รู้ แต่ที่รู้คือเธอต้องการเงินไปรักษาแม่
“เสียใจผมไม่ซื้อกิน อายุก็ยังน้อยกลับไปเรียนเถอะ มาเร่ขายแบบนี้เป็นเด็กใจแตกรึไง”
ดูๆแล้วเธอน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวของเขา คงจะเป็นพวกเด็กใจแตกหาเงินเที่ยว ไม่ก็ซื้อของแบรนด์เนมไปอวดเพื่อน พูดจบเขาก็หันหลังให้เธอ และเปิดประตูขึ้นรถและขับออกไป ภูภูมิ หรืออนันต์ธวัช อิทธิวิวัฒนกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยเอสเมอร์ ปี4 คณะวิศวะกรรมศาสตร์ ลูกชายคนโตของ ท่านภาคภูมิและคุณหญิงพัชชา อิทธิวิวัฒนกุล เจ้าของกิจการอาหารและเครื่องดื่ม ที่ส่งขายทั่วประเทศไทย และมีน้องสาวอีก1คน คือพริ้มพลอย ธัญวรินทร์ อิทธวิวัฒนกุล
“อ๊ะ คุณ คุณ ฉันยังบริสุทธิ์นะ เฮ้อ!!!”
เขาไม่ฟังเสียงที่เธอพูด ขับรถออกไปจากผับอย่างเร็ว ไม่สนใจเลยว่าเธอจะคิดยังไง เธอรีบมองซ้ายแลขวา ดูว่ามีใครได้ยินที่เธอพูดไหม เมื่อไม่มีใคร เธอก็เดินเหนื่อยหน่ายอย่างคนหมดแรงกลับเข้าไปด้านใน
“ไงแกคุณภูภูมิเขาสนใจแกป่ะ”
ทิชาถามเกลที่เดินหน้าเศร้ากลับมา แต่ดูจากอาการของเกลก็พอจะรู้แหละว่าไม่
“นอกจากเขาจะไม่สนแล้ว เขายังหาว่าฉันเป็นเด็กใจแตกอีก เฮ้ย!!หน้าตาก็ดี ปากเสียชะมัด”
เกลบ่นอุบกับเพื่อนอย่างท้อใจ เพราะไม่รู้เธอจะหาเงินจากไหนตั้ง6แสนไปจ่ายค่าผ่าตัดแม่
“ใจเย็นๆนะแก หรือจะลองถามอีกคน ที่ชื่อปกป้องอะ”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรทิชา แค่โดนผู้ชายคนนั้นหาว่าเป็นเด็กใจแตก ก็ทำเอาฉันหน้าชาไปหมด
“ค่อยว่ากันเถอะ กลับกันดีกว่า”
เกล หรือเกวลิน นิธิธรากร สาวนักเรียนมัธยมปลายปีที่6 หลังจากที่แม่ของเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้มานาน แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้อาการทรุดหนัก จนแม่ของเธอวูบในขณะที่กำลังขายข้าวแกงอยู่ จนลูกน้องในร้านต้องโทรเรียกรถพยาบาล และโทรไปแจ้งข่าวกับเธอที่กำลังเรียนอยู่ จนเธอต้องรีบลาครูแล้วมาดูแม่ของเธอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของรัฐ